ศาลสั่งจำคุกอาจารย์การเวก หรือเทพหน้าทอง หมอทำเสน่ห์ชื่อดังย่านปทุมธานี พร้อมพวก ในข้อหาหนักทั้งฉ้อโกงประชาชน และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดนกันอ่วม จำคุกสูงสุด 20 ปี ลดหลั่นกันไป พร้อมให้จ่ายเงินคืนผู้เสียหาย 7 ราย รวมแล้วกว่า 3 ล้านบาท จากการที่ผู้ต้องหาทั้งหมดลงโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต เปิดสำนักไสยศาสตร์ หลอกผู้หญิงให้มาทำเสน่ห์ แล้วกระทำชำเรา จนถูกตำรวจบุกจับได้ยกแก๊งเมื่อปีที่แล้วศาลสั่งจำคุกอาจารย์การเวก หรือเทพหน้าทอง หมอทำเสน่ห์ชื่อดังย่านหนองเสือ จ.ปทุมธานี พร้อมพวก ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น.
วันที่ 13 ต.ค. ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้องนายธนวรรษ อัศวพลสุวรรณ หรืออาจารย์การเวก เทพหน้าทอง เจ้าของสำนักทรงเจ้า, นางจุฑาทิพย์ อัศวพลสุวรรณ ภรรยา, น.ส.สุมิตรา นฤบดินทร์, น.ส.ศติยาพร เชื้ออาษา และ น.ส.ตรีสุคนธุ์ สวัสดีโสม เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิด ฐานร่วมกันฉ้อโกงและฉ้อโกงประชาชน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างเดือน มิ.ย.53-14 มี.ค.57 เวลากลางวัน จำเลยทั้งห้าร่วมกันเปิดโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตชักชวนให้คนมาทำไสยศาสตร์ โดยเปิดสำนักอยู่ที่บ้านเลขที่ 61/89-90 หมู่บ้าน พรพิสาร 6 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และฉ้อโกงผู้เสียหาย หลอกให้ร่วมเพศกับจำเลยที่ 1 ก่อนทำพิธีกรรม นอกจากนี้ ยังยึดปืนลูกซองและปืนพกไม่มีใบอนุญาตของจำเลยที่ 1 พร้อมกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 รวม 83 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 94 นัด กระสุนปืน .357 จำนวน 11 นัด ส่วนจำเลยที่ 2 มีปืนพกสั้น ขนาด .38 มีทะเบียน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยจำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ
...
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า โจทก์มีผู้เสียหาย 7 ราย มาเบิกความสอดคล้องกันว่า ไปที่สำนักของจำเลยที่ 1 มีจำเลยที่ 2-3 คอยให้คำแนะนำ พร้อมจัดพานดอกไม้ให้โดยต้องชำระค่าครู เมื่อพบจำเลยที่ 1 จะให้ผู้หญิงถอดเสื้อผ้า ทั้งหมดแล้วนอนบนแท่นพิธีกรรม ก่อนจะทาน้ำมันที่ตัวแล้วกระทำชำเราผู้เสียหาย หรือถ้าผู้เสียหายเดินทางมากับผู้ชาย จำเลยที่ 1 จะให้ร่วมประเวณีกันต่อหน้า หรือให้จำเลยที่ 3-5 ทาน้ำมันลูบอวัยวะเพศเพื่อปลุกอารมณ์แล้วร่วมประเวณี โดยอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งในพิธีกรรม แต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นตามที่อ้าง พอกลับไปที่สำนักเพื่อสอบถาม จะถูกกระทำเช่นเดิมอีก เห็นได้ว่าพยานโจทก์เบิกความสอดคล้องกัน พยานหลักฐานจำเลยไม่อาจหักล้างพยานโจทก์ได้
พิพากษาว่า นายธนวรรษ หรืออาจารย์การเวก จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน 7 กระทง ลงโทษกระทงละ 3 ปี รวม 21 ปี ฐานมีอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก 1 ปี, ฐานมีอาวุธปืน จำคุก 8 เดือน และฐานมีเครื่องกระสุนปืน ให้ปรับ 1,000 บาท รวมโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 22 ปี 8 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้วให้จำคุกสูงสุดตามกฎหมาย
เป็นเวลา 20 ปี นางจุฑาทิพย์ จำเลยที่ 2 ให้จำคุก 4 กระทง กระทงละ 1 ปี รวม 4 ปี และฐานมีอาวุธปืน ให้จำคุก 8 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้น 4 ปี 8 เดือน สำหรับ น.ส.สุมิตรา จำเลยที่ 3 ลงโทษ 7 กระทง กระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 21 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว ให้จำคุกสูงสุดตามกฎหมายเป็นเวลา 20 ปี และ น.ส.ศติยาพร และ น.ส.ตรีสุคนธุ์ จำเลยที่ 4-5 ให้จำคุกคนละ 1 ปี และให้ริบอาวุธปืนของกลาง นอกจากนี้ ให้จำเลยที่ 1 และ 3 ร่วมกันชดใช้เงินคืนให้ผู้เสียหายทั้ง 7 รายด้วย เป็นเงิน 1,882,070 บาท และให้จำเลยที่ 2 ชดใช้เงินคืนให้ผู้เสียหายรวม 4 ราย เป็นเงิน 1,507,000 บาท