อบต.ปลาปาก จ.นครพนม จัดงาน “เทศกาลกินต่อหัวเสือ ครั้งที่ 4” ประจำปี 2558 ประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่ชิมสารพัดเมนู ตั้งเป้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ศึกษาอาชีพเลี้ยงต่อ...
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่องค์การบริหารส่วนตำบลปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม ดร.ไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงานเทศกาลกินต่อหัวเสือ ประจำปี 2558 ของ อบต.ปลาปาก ถือเป็นการจัดงาน ครั้งที่ 4 เพื่อเป็นการสืบสานวิถีชีวิต ภูมิปัญญาชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งมีอาชีพแปลก ในการเลี้ยงต่อหัวเสือสร้างรายได้ และมีการสืบทอดมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการยกระดับส่งเสริมอาชีพเลี้ยงต่อหัวเสือให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้ รวมถึงพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้วิธีการเลี้ยงต่อหัวเสือได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีความอันตรายมาก
นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว รองรับเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาเรียนรู้อาชีพแปลกภูมิปัญญาชาวบ้าน คนทำอาชีพเสี่ยงเลี้ยงต่อหัวเสือขาย ให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมอีกทาง โดยกำหนดการจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 10–11 ตุลาคม 2558 ณ ภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการ สาธิตการเลี้ยงต่อหัวเสือ การจำหน่ายผลผลิตลูกต่อหัวเสือ การประกวดการทำเมนูเด็ดจากต่อหัวเสือ ควบคู่กับเวทีการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม รวมถึงผู้สนใจได้ศึกษานำไปเลี้ยงเสริมรายได้
เนื่องจากสามารถนำลูกต่อหัวเสือ ไปปรุงเป็นเมนูเด็ดได้สารพัด อาทิ แกง นึ่ง ทอด คั่ว หมก ยำ และยังเป็นที่นิยมรับประทาน อีกทั้งหายาก ทำให้มีราคาแพง รังละ 1,000–2,000 บาท และหากปรุงเป็นเมนูตามร้านอาหาร จะมีราคาสูง จานละ 150–200 บาท ซึ่งบรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชน และนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยวชม โดยมี นายศิริชัย ไตรสารศรี นายอำเภอปลาปาก จ.นครพนม พร้อมด้วย นายสง่า แสงแก้ว นายก อบต.ปลาปาก นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม
...
นายสง่า กล่าวว่า ทุกปี ชาวบ้านแห่งนี้จะมีการเริ่มทำอาชีพเลี้ยงต่อหัวเสือ ตั้งแต่ช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นฤกษ์ดีของชาวบ้านหนองบัว ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม เริ่มออกล่าหารังต่อหัวเสือตามที่มีอยู่ในป่าตามธรรมชาติ ด้วยวิธีการตามแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งจะออกไปหารังต่อในป่าธรรมชาติ ก่อนย้ายรังต่อหัวเสือมาเก็บรักษาเลี้ยงไว้ตามพื้นที่ว่างหลังบ้าน และตามไร่นา เพื่อให้รังต่อหัวเสือมีความเจริญเติบโตเต็มที่ ตามธรรมชาติ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู เพียงเฝ้าระวังในเรื่องความปลอดภัย และอันตรายจากตัวต่อหัวเสือ เพราะต่อหัวเสือถือเป็นแมลงมีพิษดุร้าย อันตรายมาก หากถูกต่อยจำนวนมากอาจเสียชีวิตได้ โดยจะใช้เวลาในการเลี้ยง ประมาณ 4-5 เดือน จนกระทั่งรังต่อหัวเสือโตเต็มที่ พอที่จะนำออกไปขาย
เดิมชาวบ้านจะใช้วิธีลมควันเอารังต่อมาเก็บลูกต่อขาย รวมถึงมีการประดิษฐ์ชุดล้วงรังต่อเข้าไปล้วงเอาลูกต่อ โดยไม่ต้องลมควัน ป้องกันการสูญพันธ์ เพิ่มมูลค่า และสามารถเก็บผลผลิตได้หลายรอบ โดยจะมีลูกค้าที่ชอบรับประทาน รวมถึงพ่อค้า แม่ค้าตามตลาดทั่วไปมาติดต่อซื้อในราคารังละประมาณ 500-1,000 บาท เพราะลูกต่อถือเป็นอาหารที่หากินยาก คนอีสานนิยมรับประทาน และขายได้ตลอด โดยเฉพาะในช่วงงานบุญประเพณี เนื่องจากชาวอีสานนิยมรับประทานต่อหัวเสือเนื่องจากเป็นเมนูหายาก สามารถนำไป แกง ทอด นึ่ง คั่ว ผัด ได้สารพัดวิธี ตามความชอบ ที่สำคัญทุกปีจะมีการจัดงานเทศกาลกินต่อหัวเสือ เพื่อส่งเสริมอาชีพ พัฒนาการเลี้ยง รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นที่แพร่หลาย และเป็นศูนย์เรียนรู้อาชีพคนเลี้ยงต่อ ส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมอีกทาง ทั้งนี้ ทุกปีชาวบ้านจะมีรายได้จากเลี้ยงต่อครอบครัวละหลายหมื่นบาท