ตร.นำตัวพ่อหื่นข่มขืนลูกสาวแท้ๆวัย 12 ปี ทำแผนรับสารภาพ ยันตรวจพบหลักฐานการข่มขืนจากร่างกายเด็ก เอาผิดถึงที่สุด เผยชีวิตครอบครัวสุดรันทด ถูกแม่ทอดทิ้ง อาศัยอยู่กับพ่อติดสุราและย่าพิการตาบอด ขณะนายกเล็กตั้งกองทุนช่วยเหลือ...
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังตำรวจจาก สภ.ธาตุพนม กว่า 20 นาย ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาชายวัย 41 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในบ้านหลังหนึ่งใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หลังตกเป็นผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราลูกสาววัย 12 ปีของตนเองมานานร่วม 6 เดือน ตามที่แม่ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นย่าของเด็ก ทนพฤติกรรมลูกชายตนเอง ที่กระทำกับหลานสาวไม่ไหวจนต้องแจ้งความให้ดำเนินคดี เนื่องจากอาศัยอยู่กัน 3 คน เพราะแม่ของเด็กได้แยกทางกับพ่อ หนีไปตั้งแต่อายุได้ 1 ขวบ อีกทั้งมีฐานะยากจน และผู้ต้องหายังติดสุรา ไม่มีอาชีพ และเมื่อตำรวจสอบปากคำ ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ได้กระทำอนาจารจริง แต่ไม่ได้ข่มขืน แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการส่งเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พบว่ามีหลักฐานการข่มขืน จึงได้รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยระหว่างทำแผนมีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงที่ทราบข่าวเดินทางมามุงดูกว่า 50 คน
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาทำแผนประมาณ 15 นาที จึงคุมตัวกลับ และระหว่างผู้ต้องหาจะขึ้นรถได้มีลูกสาวคนโต อายุ 18 ปี เข้ามากอดพ่อ โดยมีตำรวจคอยพูดปลอบใจ ก่อนถูกนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมและส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม
พ.ต.อ.ธีร์รัฐ ทิพย์นพนนท์ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยว่า หลังดูสภาพบ้านเรือนของเด็กแล้วรู้สึกเห็นใจ เพราะมีสภาพเก่าทรุดโทรม ซึ่งก่อสร้างขึ้นจากไม้เก่า ติดพื้นดิน มีฝาผนังเป็นไม้เก่า พอได้บังแดดฝน และหลังคาสังกะสีเก่าเป็นรูรั่ว จึงอยากให้ผู้มีจิตศรัทธาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนหรืออาจจะสร้างบ้านหลังใหม่ให้ เนื่องจากย่าของเด็กซึ่งพิการตาบอด และอายุ 70 ปี ส่วนเด็กหญิงที่ถูกล่วงละเมิดก็เป็นเด็กกตัญญู
...
ขณะที่เพื่อนบ้าน กล่าวว่า อยู่ห่างจากบ้านของเด็กประมาณ 200 เมตร โดยชีวิตของเด็กน่าสงสาร บ้านที่อาศัยก็ผุพัง จึงต้องการอยากจะช่วยเหลือ เพราะทั้งครอบครัวต้องอาศัยเงินเบี้ยคนชราและผู้พิการของย่าซื้อข้าวสารกรอกหม้อ ส่วนเด็กในช่วงวันหยุดเสาร์-เสาร์อาทิตย์ และหลังเลิกเรียน ก็ไปรับจ้างล้างจาน กวาดบ้าน ได้ค่าจ้างครั้งละ 100 บาท โดยเด็กกตัญญูคนนี้ จะนำไปให้ย่าทุกครั้ง บางครั้งหากพบผู้เป็นพ่อของเด็ก ก็จะฝากเงินไปให้เด็ก แต่พ่อจะนำเงินไปซื้อสุรากินจนหมดแทบทุกครั้งไป
ด้าน นายกเทศมนตรีพร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ พร้อมตัวแทนมูลนิธิแสงแก้วร่วมใจสื่ออาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตัวแทนสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบดูแลให้การช่วยเหลือเบื้องต้นในเรื่องความเป็นอยู่ หาทางช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิต เนื่องจากกังวลเรื่องความเป็นอยู่ภายหลังเกิดปัญหาทางสังคม ซึ่งตรวจสอบเบื้องต้นมีปัญหาที่ที่ดินบ้านเรือนถูกนำไปจำนองไว้กับนายทุน รวมถึงบ้านเรือนที่อยู่อาศัยเก่าทรุดโทรม และเรื่องทุนการศึกษา ที่จะต้องหาทางช่วยเหลือเร่งด่วน เนื่องจากภาครัฐไม่มีงบประมาณเพียงพอในการดูแลช่วยเหลือ
ทั้งนี้ หากใครที่ต้องการช่วยเหลือเด็กหญิงคนดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามให้การช่วยเหลือได้ที่ นายชยานันต์ ชื่อใจ โทร. 089-887-6571 หรือ นางเบ็ญจวรรณ ก่องดวง โทร 094-589-3899 และ นายคเชน วงศ์ศรีชา โทร 098-629-3359 โดยจะมีคณะกรรมการกับกับดูแลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ต่อไป.