“สมยศ” ทำงานวันสุดท้าย นำข้าราชการ ตร.เกษียณอายุ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสตช. ระบุภูมิใจทำงานตำแหน่ง ผบ.ตร. ฝาก “จักรทิพย์” สานต่องาน เผยหลังเกษียณ วางแผนทำธุรกิจส่วนตัว เดินหน้าเปิดฟังความเห็นผุดสปอร์ตคอมเพล็กซ์...

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมนางพจมาน พุ่มพันธุ์ม่วง ภรรยา และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนใหม่ และข้าราชการตำรวจที่จะเกษียณอายุราชการ ได้ร่วมทำพิธีพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย ศาลพระภูมิเจ้าที่, พระนารายณ์, พระนิรันตราย และวางพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 เพื่อขอพรเนื่องในวันอำลาตำแหน่ง

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวก่อนการประกอบพิธี ว่า รู้สึกภูมิใจกับการทำงานในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่สามารถทำงานทุกอย่างที่อยากทำแล้ว และก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี แต่มีบางเรื่องต้องฝาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปสานต่อ อาทิ เรื่องอุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้สนับสนุนการทำงานของตำรวจ ซึ่งได้รับความกรุณาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าจะจัดการให้ แต่ติดข้อกฎหมาย ซึ่งสิ่งที่คาดหวังอยากจะทำให้สำเร็จล้วนเป็นประโยชน์ต่อตำรวจ และประชาชน

...

“ส่วนตัวมีการเตรียมความพร้อมใช้ชีวิตหลังเกษียณมานานแล้ว โดยมีการวางแผนทำธุรกิจส่วนตัว อาทิ การพัฒนาที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหาร และร่วมลงทุนทำธุรกิจกับกลุ่มเพื่อน หรืออะไรก็ตามที่ทำแล้วรู้สึกว่ามีคุณค่าในชีวิต เพราะหากอยู่เฉย เกรงว่า จะเป็นโรคซึมเศร้า”

 

ส่วนแนวคิดสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ยืนยันว่าจะดำเนินการต่อ โดยเว็บไซต์สำรวจความคิดเห็นดำเนินการเสร็จแล้ว ซึ่งในตอนแรกวางแผนจะเปิดรับฟังความคิดเห็นในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) แต่อาจต้องพิจารณาก่อนว่าเวลานี้เหมาะหรือไม่ ส่วนการจะเล่นการเมือง หรือไม่ยังเร็วไป พร้อมกล่าวติดตลก “ผมไม่เคยยืนยัน เพราะกลัวพูดแล้วทำไม่ได้ ทำไมทุกคนต้องคิดว่าชีวิตหลังเกษียณหลายคนต้องเล่นการเมือง เราอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังก็ได้”

 

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอย่างเป็นทางการ มีการวางแนวทางและนโยบายการทำงานให้ต่อเนื่องสอดคล้องกับนโยบายเดิม ของพล.ต.อ.สมยศ อาทิ โรงพยาบาลศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ การจัดหาอุปกรณ์ อาวุธปืน และการจัดหาสวัสดิการ ให้กับข้าราชการตำรวจ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการเป็นผู้นำในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูง แต่ไม่หนักใจในการเข้ารับตำแหน่ง เนื่องจากที่ผ่านมามีการพูดคุยรายละเอียดการทำงานกับ พล.ต.อ.สมยศ อย่างต่อเนื่อง ส่วนภารกิจแรกที่เข้ามาดำรงตำแหน่ง จะเร่งดำเนินการสะสางคดีสำคัญที่ค้างในยุคสมัยของ พล.ต.อ.สมยศ ให้คลี่คลาย และจะนำพาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ก้าวไปอย่างมีศักดิ์ศรี และเป็นที่ยอมรับของประชาชน ทั้งนี้ ได้ขอขอบคุณ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.สมยศ ที่ไว้วางใจให้ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว.