รวบตัวเสือสาวหลอกชายแก่มาพูดคุยตีสนิทชักชวนร่วมหลับนอนแล้วรูดทรัพย์ รับสารภาพตระเวนก่อเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วน เลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นชายสูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.58 พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ แถลงข่าวการจับกุมตัว น.ส.พัฒนา เครื่องคำ อายุ 46 ปี ชาว ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พร้อมกับยึดของกลางในคดีประกอบด้วย พระเครื่อง เหรียญต่างๆ จำนวน 30 เหรียญ สร้อยคอสีทอง(ปลอม) 1 เส้น สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 3 เล่ม บัตรจำนำทอง ห้างทองโชคมงคล จำนวน 8 ใบ ตลับใส่ทองขนาดต่างๆ จำนวน 16 ตลับ กระเป๋าสะพายสีชมพู 1 ใบ กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล 1 ใบ และชุดที่ใส่ในวันก่อเหตุ มาแถลงข่าว

พ.ต.อ.วีระยุทธ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ชุดจับกุมได้รับแจ้งว่า มีเหตุลักทรัพย์ บริเวณโรงแรมเมืองทอง ถนนมูลเมือง อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเดินทางไปตรวจสอบ พบ นายสมพจน์ กองแก้วไพฑูรย์ อายุ 72 ปี ชาว ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ผู้เสียหาย อยู่ในอาการตื่นตกใจ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า วันนี้เวลาประมาณ 10.00 น. ตนได้เดินทางไปรับยา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง รูปร่างท้วม ผิวขาว สูงประมาณ 155 ซม. อายุประมาณ 35-45 ปี พูดภาษาเหนือ ทำทีเข้ามาพูดคุยตีสนิทและชักชวนผู้เสียหายไปร่วมหลับนอน ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นผู้เสียหายได้ชวนผู้หญิงคนดังกล่าว ไปที่โรงแรมที่พักของตนโดยตกลงกันว่า หากผู้เสียหายได้ร่วมหลับนอน ผู้เสียหายจะมอบเงินให้จำนวน 1,000 บาท จากนั้นจึงเดินทางมาที่โรงแรมที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 14.30 น. เข้าพักที่ห้องของผู้เสียหาย ตนได้ดื่มเบียร์และพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง และหญิงคนดังกล่าวได้ออกอุบายให้ผู้เสียหายไปอาบน้ำ ตนได้ถอดสร้อยคอทองคำ ไว้ในกระเป๋ากางเกง วางไว้บริเวณเตียงนอน ระหว่างที่ผู้เสียหายอาบน้ำอยู่นั้นได้ยินเสียงปิดประตูจึงรีบออกมาจากห้องน้ำปรากฏว่าหญิงคนได้กล่าวได้หายไป เมื่อตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่าสร้อยคอทองคำน้ำหนักประมาณ 2 บาท และพระเลี่ยมทองได้สูญหายไป และได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ติดตามภาพคนร้ายจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดซึ่งสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุได้อย่างชัดเจน และติดตามจากแผนประทุษกรรมของคนร้ายที่มีพฤติกรรมในการก่อเหตุ

...

จนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้คือ น.ส.พัฒนา หรือ ต่อน เครื่องคำ อายุ 46 ปี ที่อยู่ 136/1 หมู่ที่ 5 ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน และยังตรวจสอบพบว่ามีหมายจับค้างเก่าในคดีลักทรัพย์ลวงเหยื่อไปรูดทรัพย์ในท้องที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่ อีกด้วย จากการสอบสวนในชั้นการจับกุม ผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุในกรณีดังกล่าวจริง เมื่อตรวจสอบในที่พักพบเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ และพระเครื่องที่มีลักษณะถูกถอดเอากรอบเลี่ยมทองออกจำนวนมากจึงได้ตรวจยึดไว้ และเชิญตัวผู้ต้องหามาที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อสอบสวน โดย น.ส.พัฒนา รับว่าเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นชายสูงวัย อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ที่สวมสร้อยคอทองคำ ส่วนมากจะเลือกหาเหยื่อบริเวณโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และตลาดวโรรส

อย่างไรก็ตาม ผกก.สภ.เมือง เชียงใหม่ เชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้เคยกระทำกับเหยื่อผู้ชายสูงวัยมามากกว่านี้ และเหยื่อส่วนมากไม่กล้าแจ้งความกับตำรวจเพราะกลัวครอบครัวเดือดร้อน สอดคล้องกับของกลางที่ตำรวจไปค้นพบที่บ้านพักของผู้ต้องหามีอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อไม่มีผู้เสียหายกล้ามาแจ้งความ ผู้ต้องหาจึงย่ามใจ มาตระเวนก่อเหตุอีกเรื่อยๆ

ขณะที่แถลงข่าวได้มีชายคนหนึ่ง อ้างว่าเป็น คณะกรรมการ กก.ตร.สภ.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกผู้เสียหายหลอกลวงเข้าโรงแรม มาชี้ตัวผู้ต้องหาได้อย่างถูกต้อง และ นายสมพจน์ กองแก้วไพฑูรย์ อายุ 72 ผู้เสียหายอีกคนก็มาชี้ตัวได้อย่างถูกต้องพร้อมกับมีการปะทะคารมกับผู้ต้องหา โดยฝ่ายหญิงก็อ้างว่าตนถูกฝ่ายชายเป็นคนชวนมาเปิดโรงแรมก่อน ส่วนฝ่ายชายก็กล่าวว่าฝ่ายหญิงเป็นคนเริ่ม ซึ่งหลังจากที่ถูกหลอกเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายก็ถูกฝ่ายหญิงคว้ากระเป๋าวิ่งหนี โดยตนใส่ผ้าเช็ดตัววิ่งไล่มาถึงหน้าโรงแรมซึ่งแค่สร้อยคอทองคำ 2 บาท ตนไม่ถึงกับเสียหาย แต่เมียที่บ้านรู้เอาตายแน่ หลังจากที่แถลงข่าวแล้วได้นำตัวผู้ต้องหาไปมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมือง เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.