โฆษกตำรวจมั่นใจ หลักฐานและคำให้การของผู้ต้องหาสอดคล้อง ยันตำรวจไม่จับแพะ ส่งตัวกลับไปคุมขังยัง มทบ.11 ประสานกระทรวงต่างประเทศถอนพาสปอร์ตวรรณา หลังพบเกี่ยวพันคดีระเบิด เชื่อปมเหตุเกิดจาก ตร.กวาดการค้ามนุษย์จริงจัง 

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.โทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีวางระเบิดราชประสงค์ หลังจากได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปเมื่อวานนี้ ก็ได้มีการควบคุมตัว นายอาเดม คาราดัค หรือ บิลาล โมฮัมเหม็ด และนายเมียไรลี ยูซูฟู กลับไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครชัยศรี มณฑลทหารบก ที่ 11 เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีจากนั้นจะส่งไปดำเนินคดีในชั้นศาล และอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ไม่ได้มีการจับแพะแน่นอน ในคดีนี้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะหลักฐานจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเวลาตรงกับคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสองคน

"แม้กระทั่งจุดที่ผู้ต้องหาวางแผนจะไปวางระเบิดบริเวณที่พักรอของผู้โดยสาร ท่าจอดเรือเจ้าพระยาปริ้นเซส ซอยเจริญนคร 61 ช่วงเย็นวันที่ 16 สิงหาคม ซึ่งไม่เคยปรากฏเป็นข่าวมาก่อน ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ ยอมรับว่ายังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าหลบหนีไปอยู่ในประเทศไหนบ้าง แม้จะมีการข่าวรายงานเข้ามา แต่ได้มีการประสานส่งภาพหมายจับไปให้ตำรวจสากลช่วยเฝ้าจับตาดูอยู่ หากชัดเจนว่าผู้ต้องหาไปหลบหนีที่ประเทศใด ก็จะประสานข้อมูลพร้อมขอความร่วมมือให้ทางการประเทศนั้นๆ ช่วยดำเนินการตรวจสอบและติดตามจับกุม" พล.ต.ท.โทประวุฒิ กล่าว

พล.ต.ท.โทประวุฒิ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้ทางกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางของนางวรรณา สวนสันต์ ผู้ต้องหาชาวไทยแล้ว ส่วนปมเหตุการลงมือวางระเบิด ยังเชื่อว่ามีมูลเหตุเกิดความแค้นเรื่องนโยบายปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างจริงจังของประเทศไทย จนส่งผลกระทบกับธุรกิจผิดกฎหมาย แต่สำหรับจะมีมูลเหตุอื่นอีกหรือไม่ยังไม่สามารถระบุได้

...