ชาวท่ากระดาน จ.กาญจนบุรี รวมตัวยื่นหนังสือค้าน หลัง มท. อนุมัติรถตัดข้าวโพดราคา 4.3 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลตามโครงการ โดยหักกับงบ 5 ล้านบาท โอด ไม่ได้ปลูกข้าวโพดทุกครัวเรือน วอน ให้หมู่บ้านบริหารจัดการเอง

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นางสุนันท์ สุวรรณ์ กำนันตำบลท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พร้อม นายดำรัส อาคมเวช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 นายสำราญ สุนทราลัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 นายดำรงค์ สุวรรณอัมพร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 และ นางอุรอน อ่อนหวาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 พร้อมชาวบ้านหมู่ 1-5 จำนวนหนึ่ง รวมตัวที่ศาลาประชาคม หมู่ 2 ต.ท่ากระดาน เพื่อคัดค้านนำงบโครงการมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5,000,000 บาท ซื้อรถตัดข้าวโพดราคา 4,3000,000 บาท โดยมี นางกัลยา ทองดี ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร จำกัด บ้านเจ้าเณร ผู้สำรวจกลุ่มสหกรณ์ หรือกลุ่มเกษตรกรที่ขอรับการสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร เข้าชี้แจง โดยกล่าวว่าไม่รู้ว่าเป็นงบก้อนเดียวกัน

นางสุนันท์ เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ก.ย. เห็นชอบมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอขออนุมัติให้ดำเนินงานส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และต่อมาพบว่า กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเพื่อให้การดำเนินมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลโดยการช่วยเหลือประชาชน ใช้งบประมาณซื้อรถเกี่ยวข้าวโพดให้แก่ชุมชนนั้น ชาวตำบลท่ากระดาน ประมาณ 2,000 ครัวเรือน ไม่ต้องการรถเกี่ยวข้าวโพด เพราะไม่ใช่ทุกครัวเรือนที่ปลูกข้าวโพดอย่างเดียว และบางหมู่บ้านไม่ได้ปลูกข้าวโพดจึงไม่มีความจำเป็นในการใช้งบประมาณเพื่อซื้อรถตัดข้าวโพด ชาวบ้านจึงมายื่นหนังสือร้องทุกข์ให้กับทาง อ.ศรีสวัสดิ์ ส่งไปยัง จ.กาญจนบุรี เพื่อให้สำนักนโยบายและแผนงานกระทรวงมหาดไทย พิจารณาโครงการดังกล่าวอีกครั้ง เพราะชาวบ้านต้องการให้จัดสรรเงินให้แต่ละหมู่บ้านให้เท่ากัน เพื่อนำเงินไปใช้ประโยชน์ตามความต้องการของแต่ละหมู่บ้าน

...

ทางด้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 กล่าวว่า ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านหม่องกระแทะ มีอาชีพทำการเกษตร แต่ทั้งหมู่บ้านไม่มีครอบครัวใดปลูกข้าวโพด หากนำเงินจำนวน 1,000,000 บาท ที่จะได้รับไปซื้อรถเกี่ยวข้าวโพด ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่ต้องการคือ นำเงินมาปรับปรุงระบบน้ำประปาของหมู่บ้านที่เริ่มมีสภาพเสื่อมโทรมใช้การไม่ได้ เพราะใช้งานมานานกว่า 10 ปี เช่นเดียวกับชาวบ้านหมู่ 3 ที่ต้องการนำเงินไปทำน้ำประปาภูเขา ซึ่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ก็ได้ทำแผนงานส่งไปที่ อ.ศรีสวัสดิ์ ไปแล้ว.