เมื่อวันที่ 22 ก.ย. เวลา 10.00 น. นางนภัสสร เรืองภู่ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 240 หมู่ 5 ต.วังไก่เถื่อน อ.หันคา จ.ชัยนาท พร้อมด้วยผู้เลี้ยงปลาในกระชัง 20 คน เดินทางมาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท ว่า เดือดร้อนจากปลากระชังที่เลี้ยงตายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ พวกตนทั้งหมดมีอาชีพเลี้ยงปลาทับทิมในกระชังบริเวณแม่น้ำท่าจีน ต.วังไก่เถื่อน หมู่ 5 จำนวน 96 กระชัง หมู่ 11 จำนวน 5 กระชัง ต.หันคา หมู่ 10 ปลานิลจำนวน 16 กระชัง และ ต.บ้านเชี่ยน หมู่ 9 ปลาทับทิมจำนวน 4 กระชัง รวมความเสียหายทั้งหมด 121 กระชัง รวมมูลค่าทั้งสิ้น 8 ล้านกว่าบาท
ทั้งนี้ มีนายกมล ปานไม้ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาทเป็นผู้รับเรื่องดังกล่าวเอาไว้ นางนภัสสรกล่าวว่า ทางชลประทานปล่อยน้ำเข้าสู่แม่น้ำท่าจีนมีสีคล้ำและกลิ่นเหม็นผิดปกติ ส่งผลให้ปลาในกระชังที่เลี้ยงไว้น็อกตายกะทันหัน และขอให้ทางศูนย์ดำรงธรรมทำการแก้ไขโดยเร่งด่วน 3 ข้อคือ ช่วยสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ตามระเบียบข้อกฎหมาย ขอให้ส่วนราชการช่วยเยียวยาค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และหากจะปล่อยน้ำอีก ขอให้แจ้งให้ผู้เลี้ยงปลาทราบล่วงหน้าก่อน หรือหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้เลี้ยงปลาในกระชังก่อน ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ด้านนายถาวร จิระโสภณรักษ์ ประมงจังหวัดชัยนาท เผยว่า ในเบื้องต้นได้ตรวจสอบหาสาเหตุการตายของปลาในกระชังแล้ว พบว่าปริมาณออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำมีปริมาณน้อยมาก โดยวัดได้ 2.4 พีพีเอ็ม อุณหภูมิ 31.7 องศาเซลเซียส บริเวณกระชังที่ได้รับความเสียหาย และเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังสงสัยว่าน่าจะมาจากการปล่อยน้ำจากบึงกระจับใหญ่มีปริมาณมาก ประกอบกับน้ำที่ระบายจากประตูระบายน้ำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าโบสถ์ มีปริมาณ 19 ลบ.ม./วินาที ไม่เพียงพอต่อการเจือจางน้ำเสียได้ นอกจากนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติมยังพบว่าที่ประตูระบายน้ำบึงกระจับใหญ่มีกลิ่นของสารเคมีอยู่ในบริเวณประตูระบายน้ำและได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผวจ.ชัยนาท ให้ทราบแล้ว เพื่อให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนต่อไป.
...