แก๊งลักรถย่องเข้าไปขโมยปิกอัพถึงในอู่ ทำลายรูกุญแจแล้วต่อสายตรง ดันทุรังขับก่อนพลิกคว่ำตกคูน้ำข้างทางล้อชี้ฟ้า คาดเข้าเกียร์เดียวขับประคองมา แต่คันหน้าวิ่งนำทางเกิดอุบัติเหตุรีบถอย ทำให้ต้องหักหลบจนเสียหลัก ตร.ล้อมป่าล่าตัว
เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 21 ก.ย. 58 ขณะที่ ร.ต.ท.สมบูรณ์ นวลสงค์ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานวิทยุสื่อสาร สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ของ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่าเกิดเหตุคนร้ายเข้าไปขโมยรถยนต์ภายในอู่ซ่อมรถชื่อ "บุญเอี่ยม เซอร์วิส" ตั้งอยู่เลขที่ 66/15 หมู่ 3 ต.ปริก หลังรับแจ้งจึงวิทยุให้ ร.ต.อ.ไพโรจน์ อุณหพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจรถยนต์นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมวิทยุสกัดทุกเส้นทาง
ต่อมา ได้รับแจ้งจากป้อมสายตรวจบ้านวังหิน ว่า มีรถยนต์กระบะพลิกคว่ำตกลงไปอยู่ในคู่น้ำข้างทางสภาพหงายท้อง ล้อทั้ง 4 ชี้ฟ้า จึงแจ้งให้ พ.ต.ท.เกษม จอมพงศ์ พงส.ผนพ.สภ.ทุ่งใหญ่ ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสายทุ่งใหญ่-พระแสง บริเวณแยกวังหิน หมู่ 4 ต.ทุ่งสัง พบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน โฟร์วีล ตอนเดียว สีขาว ทะเบียน ผก 5387 นครศรีธรรมราช เสียหลักพลิกคว่ำ หงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ในคูน้ำข้างทาง สภาพตัวรถจมน้ำเปื้อนโคลน ได้รับความเสียหาย แต่ไม่พบคนขับและผู้ได้รับบาดเจ็บ
...
ตรวจสอบห่างออกไป 10 เมตร ที่บริเวณหน้าบ้านของนางจารุรินทร์ อานนท์ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 252 หมู่ 4 บ้านวังหิน ต.ทุ่งสัง พบว่า ที่เสาเหล็กค้ำโครงหลังคาหน้าบ้านมีรอยถูกรถพุ่งเข้าชนจนเสาพับ กระถางไม้ประดับจำนวนหนึ่งแตกเสียหาย ส่วนที่พื้นถนนก่อนถึงตัวบ้านพบมีรอยเบรกของล้อรถยนต์เป็นทางยาวร่วม 30 เมตร
สอบสวน นายกฤษดา ไกรนรา อายุ 40 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถที่ถูกคนร้ายขโมยไปให้การว่า ตอนตีสามตื่นมาจะเข้าห้องน้ำ มองไปยังรถที่จอดไว้ในอู่ ปรากฏว่ารถไม่มีแล้ว ไม่ได้จอดอยู่ที่เดิม จึงโทรศัพท์เข้าศูนย์วิทยุ 191 เพื่อแจ้งเหตุรถหายให้ตำรวจช่วยสกัดจับคนร้าย จากนั้นได้ติดตามหารถ จนต่อมาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ได้ข่าวว่า รถของตนที่ถูกขโมยไปประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำอยู่ในคูน้ำที่บ้านวังหิน หมู่ 4 ต.ทุ่งสัง ห่างจากบ้านประมาณ 30 กม.จึงรีบไปดู พบว่า ตัวรถพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า ตกลงไปอยู่ในคูน้ำ สภาพหน้ารถจมน้ำบางส่วน แต่ไม่พบคนร้าย คาดว่าน่าจะคลานออกจากตัวรถและหนีไปทั้งที่เนื้อตัวเสื้อผ้าเปียกปอน
นายกฤษดา ให้การต่ออีกว่า รถในอู่ตน หลังซ่อมเสร็จในตอนเย็นของทุกวัน ก็จะนำเข้ามาจอดไว้ภายในอู่ ซึ่งอยู่ติดกับห้องนอน และทุกครั้งจะทำการล็อกคลัตซ์ไว้ คืนเกิดเหตุตนตื่นมาเข้าห้องน้ำ มองหารถแต่ไม่เห็นรถแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
ด้าน พ.ต.ท.เกษม จอมพงศ์ พงส.ผนพ.สภ.ทุ่งใหญ่ เผยว่า หลังจากให้มูลนิธิสยามรวมใจทุ่งใหญ่ ลากรถขึ้นมาจากคูน้ำ แล้วได้ตรวจสอบในห้องเก๋งหน้ารถ พบว่าตรงบริเวณกุญแจสตาร์ตถูกคนร้ายทำลายสวิทซ์กุญแจ จนได้รับความเสียหาย จากนั้นต่อสายตรงเพื่อขับหลบหนี ทั้งๆ ที่เจ้าของได้ล็อกคลัตช์ไว้แล้ว ส่วนป้ายทะเบียนรถถูกคนร้ายถอดออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนและคำบอกเล่าของพยาน เชื่อว่าคนร้ายแก๊งนี้น่าจะทำงานเป็นทีม มากันไม่ต่ำกว่า 3 คน เข้าไปขโมยรถยนต์ในอู่ หลังได้รถไปแล้วคนร้ายส่วนหนึ่งแยกไปขับรถคันที่ก่อเหตุ มุ่งหน้าไปตามถนนสายทุ่งใหญ่-พระแสง เพื่อจะเข้า อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีคนร้ายอีกส่วนหนึ่ง ขับรถคันที่ขโมยมาตามหลังไปติดๆ
ทั้งนี้ เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งหักศอก บวกกับมีหมอกลงหนาในตอนเช้า คนร้ายอาจไม่ชำนาญเส้นทาง รถของคนร้ายที่นำหน้าทำหน้าที่สำรวจเส้นทาง เกิดเสียหลักพุ่งเข้าไปชนเสาเหล็กหน้าบ้านของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ด้วยความตกใจกลัวจึงรีบขับถอยหลังออกมา ทำให้รถของคนร้ายอีกคันที่โจรกรรมมาหักหลบ จนเสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปในคูน้ำ คนร้ายติดอยู่ในรถ กลัวว่าจะจมน้ำช่วยกันทุบกระจกรถด้านข้างจนแตก กระเสือกกระสนคลานออกจากมาก่อนจะพากันหลบหนีไป
ส่วนข้อสงสัยที่ว่า ในเมื่อรถล็อกคลัตช์ไว้แล้ว คนร้ายสามารถขับออกไปได้อย่างไร เรื่องนี้หากเป็นช่างหรือคนที่มีความชำนาญ หากเข้าเกียร์รถในเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นเกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 ได้ ก็สามารถขับแบบประคองรถไปได้
ดังนั้น คนร้ายที่ชำนาญในการก่อเหตุจึงขับรถออกไปโดยมีรถนำทาง แต่รถคันหน้าไปประสบอุบัติเหตุแล้วรีบถอยหลังออกมา ทำให้รถคันหลังต้องขับหลบ ประกอบกับเป็นจุดทางโค้ง และไม่ชินเส้นทาง จึงทำให้รถเสียหลักตกข้างทางพลิกคว่ำดังกล่าว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจอาสา อ.ทุ่งใหญ่ ได้กระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่ คาดว่าน่าจะจับตัวคนร้ายแก๊งนี้ได้อย่างแน่นอน.