ชาวนาอ่างทองครวญ หลัง หว่ามก๋อถล่ม ทำนาข้าว 25 ไร่ จมน้ำเสียหาย เผย ตั้งเครื่องสูบน้ำ ใช้ค่าน้ำมันวันละ 500 บ. ระบุ มีบางส่วนสูบไม่ทัน เน่าเสียกว่าครึ่งแปลง หวั่น ฝนไม่หยุดตกคงเสียหายทั้งแปลง ...

วันที่ 18 ก.ย. 58 หลังจากพายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” (VAMCO) ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ เคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาแล้ว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่งผลทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนัก ส่งผลกระทบชาวนาในจังหวัดอ่างทองที่เสี่ยงทำนาไปแล้ว ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกสะสมที่มาจากอิทธิพลของพายุ ทำให้กล้าข้าวที่หว่านในนาข้าว จำนวน 25 ไร่ อายุกว่า 20 วัน ต้องจมอยู่ในน้ำ จนชาวนาต้องเร่งตั้งเครื่องสูบ เพื่อระบายน้ำออกจากแปลงนาไม่ให้ต้นข้าวได้รับความเสียหาย

ด้าน นายสุธี นักสอน อายุ 49 ปี ชาวนาบ้านเลขที่ 56 หมู่ที่ 5 ตำบลสายทอง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ตนเองเช่าที่ทำนาจำนวน 25 ไร่ หลังจากเกิดภัยแล้งในช่วงที่ผ่านมา ตนเองได้หยุดทำนาปรัง โดยปล่อยแปลงนาให้ทิ้งร้าง เนื่องจากในแปลงนาที่ตนเองทำอยู่ เป็นที่ดอนน้ำไปไม่ถึงหันไปทำงานรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ พอมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว พอมาถึงฤดูฝนในพื้นที่ยังพอมีฝนตกลงมาบ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ประกอบกับทางชลประทานได้ปล่อยน้ำมาให้ทำนาบ้างบางส่วน ตนเองจึงได้เสี่ยงทำนาอีกครั้ง ซึ่งตนเองได้ไปกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) มาลงทุนจำนวนเงิน 50,000 บาท เพื่อมาลงทุนซื้อเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่ายา และค่าจ้างรถมาปรับที่นา โดยเมล็ดข้าวที่หว่านได้เติบโตจนเป็นต้นข้าวยืนต้นชูใบสีเขียวอายุกว่า 20 วันแล้ว แต่ก็ต้องมาถูกอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน หว่ามก๋อ ทำให้มีฝนตกสะสมในพื้นที่จนทำให้เกิดน้ำท่วมขังต้นข้าวที่อยู่ในแปลงนา จนตนเองเร่งต้องตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากแปลงนาไม่ให้ต้นข้าวต้องยืนต้นตาย

...

นายสุธี กล่าวต่อว่า เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำมันใส่เครื่องสูบน้ำประมาณ 500 ต่อวัน และมีบางส่วนเสียหายเน่าเสียกว่าครึ่งแปลงเนื่องจากสูบน้ำไม่ทัน หากฝนไม่หยุดตกคงเสียหายหมดทั้งแปลงอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ซึ่งตนเองเป็นชาวนาก็ต้องอดทนสู้ทำนากันต่อไป ถึงแม้ว่าภัยธรรมชาติจะมาในรูปแบบใดก็ตาม