น้ำป่าจากอำเภอรอบนอกไหลทะลักลงแม่น้ำจันทบุรี คาดจะเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนย่านเศรษฐกิจในตัวเมืองช่วงบ่ายวันที่ 18 ก.ย.นี้ ปภ.เปลี่ยนจากธงสีเขียว เป็น ‘ธงเหลือง’ เตือนภัยประชาชน พร้อมเร่งขุดลอกคลองบายพาส ระบายออกสู่ทะเล...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ก.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จ.จันทบุรี หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องจากผลพวงของพายุ ‘หว่ามก๋อ’ ที่พัดเข้าประเทศไทย ทำให้ระดับน้ำที่สะพานกระทิง อ.เขาคิชฌกูฏ เพิ่มขึ้นจนเกินจุดวิกฤติ

เช่นเดียวกับที่ฝายท่าระม้า อ.มะขาม ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเกินจุดวิกฤติ 8 เมตร ซึ่งมวลน้ำทั้ง 2 แห่ง จะส่งผลโดยตรงต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรี และส่งผลกระทบต่อประชาชนในเขตเศรษฐกิจตัวเมืองจันทบุรี ทาง สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.จันทบุรี จึงได้เปลี่ยนธงสัญลักษณ์เตือนภัยประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี จากสีเขียว เป็นสีเหลือง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำเหนือ ที่จะไหลบ่าลงแม่น้ำจันทบุรี และเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมฝั่งแม่น้ำ

...

ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์ มวลน้ำจะเคลื่อนเข้าสู่ตัวเมืองจันทบุรีในอีกประมาณ 5-6 ชั่วโมง ทางจังหวัดจึงสั่งการให้นำเครื่องจักรกลของสำนักงานชลประทานที่ 9 เร่งขุดเปิดทางน้ำเข้าคลองบายพาส ที่กำลังก่อสร้างเพื่อพร่องน้ำแม่น้ำจันทบุรี ลงสู่ทะเลที่บ้านหนองบัวเพิ่มขึ้น โดยคลองบายพาสตามแนวทางพระราชดำริฯ สามารถพร่องน้ำได้ประมาณ 250 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบน้ำเหนือที่จะไหลบ่าเข้าเขตเศรษฐกิจของเมืองจันทบุรีได้ระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม จ.จันทบุรี ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี ให้เร่งขนสิ่งของไว้ในที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากน้ำล้นตลิ่งและให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ส่วนสถานการณ์น้ำป่าในพื้นที่อำเภออื่น ขณะนี้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลากใน ต.ตกพรม อ.ขลุง ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน และต.พวา อ.แก่งหางแมว ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สวนผลไม้ ซึ่งทางจังหวัดได้บูรณาการหน่วยงานทหาร ตำรวจ ท้องถิ่น อาสาสมัครกู้ภัย เร่งช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นแล้ว.