สัตหีบ เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวช่วยเหลือชาวบ้าน หลังน้ำยังไหลท่วมบ้านเรือน ปชช. เดือดร้อนกว่า 60 หลังคาเรือน ขณะที่มีอดีตทหารเรือวัย 62 เคราะห์ร้าย ถูกกระแสน้ำพัดยังไม่ทราบชะตากรรม ...
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 17 ก.ย.58 นายปริญญา โพธิสัตย์ นอภ.สัตหีบ ได้ใช้สถานที่องค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว ให้กับผู้ประสบอุทกภัย ที่ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดเหตุน้ำล้นสปิลเวย์ ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เป็นเหตุให้น้ำไหลหลากเข้าสู่บ้านเรือนราษฎรจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนเป็นบริเณกว้าง
รวมถึงราษฎรในพื้นที่หมู่ที่ 2,3,4 และ 5 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่อยู่ติดริมคลองบางไผ่ ที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 60 หลังคาเรือน ประชาชนจำนวน 53 คน ไร้ที่อยู่อาศัย และสูญหายไปกับน้ำ 1 ราย คือ เรือตรีขจร ไชยวงษ์ อายุ 62 ปี นายทหารเรือนอกราชการ
โดยองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง ได้จัดห้องประชุม ติดเครื่องปรับอากาศจำนวน 2 ห้อง ขนาดใหญ่สามารถรับผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนจำนวน 200 คน โดยมีที่นอน ฟูก หมอนรองรับ ส่วนเรื่องอาหารเครื่องดื่ม ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการชุมชน และผู้ใจบุญ คาดว่าผู้ประสบภัยจะพักพิงประมาณ 1 สัปดาห์ จนกว่าบ้านเรือนจะซ่อมแซมเสร็จ เนื่องจากได้รับความเสียหายมาก บางหลังน้ำได้พัดหายไปทั้งหลัง โดยมีเจ้าหน้าที่ อบต. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลความปลอดภัย โดยมีทีมแพทย์โรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 คอยตรวจดูอาการผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์น้ำท่วม
นางประทวน ประยูร อายุ 58 ปี ที่อาศัยในศูนย์พักพิง ภรรยา เรือตรีขจร ผู้สูญหาย เล่าเหตุการณ์ที่สามีหายไปต่อหน้าตาว่า น้ำมาเร็วมากโดยไม่มีการแจ้งเตือน เพียงแค่ 5 นาที่ น้ำได้ไหลท่วมบ้าน โดยกระแสน้ำได้เชี่ยวมาก ขณะนั้นสามีได้ยืนอยู่นอกบ้าน ก่อนที่น้ำจะพัดร่างสามีไปติดกับกอไผ่ ซึ่งสามีได้จับกอไผ่อย่างแน่น ก่อนจะร้องให้คนช่วย ขณะนั้นได้มีท่อนไม้ลอยมากระแทกร่างสามี ทำให้มือที่จับหลุดและลอยไปตามกระแสน้ำหายไป ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ภาวนาให้ปลอดภัย ซึ่งได้ตรวจสอบรายชื่อไปตามโรงพยาบาลและหน่วยงานราชการในพื้นที่ยังไม่พบตัว
...
เบื้องต้น ช่วงเช้าทางหน่วยราชการอำเภอสัตหีบ อบต พลูตาหลวง จะเร่งลงสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชน ถนนที่ชำรุด ในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้นและเป็นการบรรเทาทุกข์ ส่วนคนที่สูญหายไปกับน้ำจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพเรือ ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน ออกติดตามเพื่อค้นหาตามแนวคลองบางไผ่ ทางที่น้ำได้พัดร่างไป.