ทหารกองกำลังสุรนารี รวบ 7 มอดไม้ พร้อมขยายผลจับอดีตผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้ากลุ่มตัดไม้พะยูง หลังพาชายฉกรรจ์บุกล้อม จนท.ป่าไม้ ชิงผู้ต้องหาพร้อมของกลาง เมื่อ 10 ก.ย. ก่อนส่งมอบให้ ตร.อุบลฯ ดำเนินคดีต่อ

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 58 ที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี พล.ต.ต.ธวัชชัย นิลานุช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี พร้อม พ.อ.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองเสนาธิการกองกำลังสุรนารี หัวชุดติดตามคดีแก๊งมอดไม้พะยูง ในพื้นที่อุทยานแห่ชาติภูจองนายอย 7 คน ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่อุทยานจับกุมได้บนป่าลำห้วยเมยเฒ่า ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ในเขตอุทยาน กลางดึกวันที่ 10 ก.ย. แล้วมีพวกมาช่วยเหลือปิดล้อมเจ้าหน้าที่ชิงตัวผู้ต้องหาไปได้

พ.อ.ณัฏฐ์ เผยว่า หลังเกิดเหตุจนถึงวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา สามารถติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีทั้ง 7 คน คือ นายอภินันท์ ศรีโครต อายุ 29 ปี นายมนต์รัก พรหมลี อายุ 31 ปี นายเสถียร บัวใหญ่ อายุ 29 ปี นายวรพิศ วิเศษศิลป์ อายุ 41 ปี นายเติมศักดิ์ สันทะศร อายุ 32 ปี นายคำสิงห์ เรืองศรี อายุ 35 ปี และ นายสุทธิพงษ์ สายทอง อายุ 32 ปี กลับมาได้

นอกจากนี้ ยังสามารถสอบสวนขยายผลจับหนึ่งในแกนนำที่พาชายฉกรรจ์มาชิงตัวผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 1 คน ชื่อ นายบุญมา ศรีบุปผา หรือ ผู้ใหญ่แป๋ง อดีตผู้ใหญ่บ้านคำบาก ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของกลุ่มมอดไม้พะยูงในพื้นที่ พร้อมยึดเงินสดที่ได้จากการใช้กระทำความผิด 16,000 บาท สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่าง ๆ 11 บัญชี

จากการควบคุมตัวสอบสวนภายใต้กฎอัยการศึก เบื้องต้นทราบว่า วันเกิดเหตุ นายบุญมา ได้คุมคน 5 กลุ่ม ขึ้นไปตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย แล้วลำเลียงไม้ที่ตัดส่งข้ามเข้าไปขายให้นายทุนรับซื้อไม้ชาวลาว ผ่านช่องหินหัก ไปยังบ้านหนองงา เมืองมูนละป่าโมก แขวงจำปาสัก ประเทศลาว จำนวนหนึ่งแล้ว

...

ส่วนกลุ่มของ นายอภินันท์ พร้อมพวกอีก 6 คน กลับถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับได้พร้อมไม้พะยูง 25 ท่อน นายบุญมา จึงเข้ามาติดต่อพูดคุยเจรจากับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม โดยพาพวกซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ที่ไปส่งไม้กลับมาอีกกว่า 30 คน เข้ามาปิดล้อมเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ยอมปล่อยตัว

ทั้งนี้ หลังการแถลงข่าว ทหารกองกำลังสุรนารี ได้ทำการส่งมอบตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ท้องที่เกิดเหตุ นำตัวไปขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.