เป็นเรื่อง! หลังผู้บริหาร ร.ร.บ้านผือพิทยาสรรค์ อ.บ้านผือให้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น ‘เตรียมอุดมพัฒนาการอุดรธานี’ ถูกอดีตนายกเทศมนตรี ศิษย์เก่ารุ่น 1 และอดีตครูออกมาคัดค้าน ขณะที่ผอ.ยืนยันทำตามขั้นตอน เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน...
เมื่อวันที่ 10 ก.ย.58 ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี รายงานว่า ช่วงสายของวันที่ผ่านมา ที่หน้าโรงเรียนบ้านผือพิทยาสรรค์ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นายประสาน ศรีลาวัณย์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านผือ และ ส.จ.อุดรธานี 4 สมัย นางจินดารัตน์ ศรีจันเวียง อดีตครู ร.ร.บ้านผือฯ นายบุญเทิง เสริฐบุญแสง ครู ร.ร.บ้านผือฯ และศิษย์เก่า ร.ร.บ้านผือฯ มารวมตัวยื่นหนังสือคัดค้านการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนจาก ร.ร.บ้านผือพิทยาสรรค์ เป็น ร.ร.เตรียมอุดมพัฒนาการอุดรธานี ต่อนายสาส์นลิขิตชัย พลไธสง ผอ.โรงเรียน โดยกลุ่มผู้คัดค้านยืนถือหน้าป้ายที่หน้าโรงเรียน ขณะเดียวกันมีกำลังตำรวจ ทหาร มาดูแลรักษาความสงบ และอำนวยความสะดวก
นายประสาน ศรีลาวัณย์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านผือ และ ส.จ. 4 สมัย เปิดเผยว่า ตนเป็นนักเรียนรุ่นที่ 1 ตั้งแต่ปี 2515 เดิมโรงเรียนตั้งอยู่บริเวณที่ทำการเทศบาลตำบลบ้านผือในปัจจุบัน แต่เกิดไฟไหม้ต้องไปขอใช้ห้องประชุม ร.ร.บ้านผือพิทยาภูมิ รองรับลูกหลานชาวบ้านผือ ให้ได้เรียนต่อระดับมัธยม ก่อนจะย้ายมาที่ปัจจุบันซึ่งตอนนั้นยังเป็นป่า นักเรียนมาเรียนก็ต้องช่วยกันถางป่าด้วย ดายหญ้าให้ป่าโล่ง เติบโตขึ้นทีละน้อยจนมั่นคง การเปลี่ยนชื่อ และตราโรงเรียน ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่กลับทำกันเองไม่ถามชาวบ้าน หรือทำประชาพิจารณ์
...
"โรงเรียนมีอายุมากกว่า 43 ปี ผลิตลูกศิษย์จำนวนมาก เป็นใหญ่เป็นโตก็ไม่ใช่น้อย ผมมารู้เรื่องเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รวมถึงการเปลี่ยนตราโรงเรียนใหม่ ของเดิมเป็นพระพุทธบาทบัวบก และหอนางอุษา ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกได้รับไว้พิจารณาเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว การเปลี่ยนชื่อไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่นที่รักและผูกพันด้วย ถ้าจริงใจควรมาช่วยกันพัฒนาการศึกษา ทำไมต้องมาเปลี่ยนชื่อของเรา หรือถ้าอยากมาตั้งโรงเรียนในพื้นที่จริง ผมยินดีจะเป็นผู้นำในการหาที่ดินให้"
อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านผือ กล่าวอีกว่า ไม่รู้ว่ามีผลประโยชน์อะไรกันหรือไม่ กับงบฯ ในการก่อสร้าง หรือราคาที่ดินรอบๆ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือความไม่ชัดเจน ว่าอนาคตในโรงเรียนแห่งนี้จะรองรับ ‘เด็กแป้นปีก’ (บ้านยากจนใช้ปีกไม้ทำฝาบ้าน) จะมีโอกาสมาเรียนที่นี่หรือไม่ เพราะเมื่อใช้ชื่อโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ตามมา แม้ทางโรงเรียนจะชี้แจงว่าภายใน 3 ปียังเหมือนเดิม แต่หลังจากนั้นถ้ามันเกิดเปลี่ยนแปลงขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ จึงต้องประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านผือร่วมรับรู้มากกว่านี้ ก่อนที่จะตัดสินใจ
ขณะที่นางจินดารัตน์ ศรีจันเวียง อดีตครู ร.ร.บ้านผือพิทยาสรรค์ กล่าวว่า เป็นครูสอนคณิตศาสตร์แต่เกษียณมาแล้ว 2 ปี ซึ่งโรงเรียนเป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล “เวิลด์คลาส สแตนดาร์ด” มาตั้งแต่ปี 2545 มีลูกศิษย์ที่มีความสามารถ ไปศึกษาต่อในสถาบันมีชื่อเสียง เรามีคุณภาพในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่เมื่อมีเรื่องเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเข้ามา ทำให้เกิดความแตกแยก โดยเฉพาะในสื่อออนไลน์รุนแรงมากขึ้น ในส่วนศิษย์ปัจจุบันที่ไม่พอใจความคิดเห็นของศิษย์เก่า เพราะไม่มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็น และในฐานะเลขานุการสมาคมครู-ผู้ปกครองฯ ก็ไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
ทางด้าน นายสาส์นลิขิตชัย พลไธสง ผอ.โรงเรียนบ้านผือพิทยาสรรค์ ที่เปลี่ยนชื่อเป็นเตรียมอุดมพัฒนาการอุดรธานี นายบุญถม เจริญขัน ประธานกรรมการสถานศึกษา คณะครูอาจารย์ ได้ร่วมชี้แจงตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงความเป็นมาของการเปลี่ยนชื่อ และขั้นตอนในการดำเนินการ ว่าเป็นไปตามเจตนาการพัฒนาโรงเรียน ทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องเปิดเผย รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็น โดยให้กรรมการสภานักเรียนมาร่วมรับฟังด้วย
นายสาส์นลิขิตชัย กล่าวว่า เป็นการสานต่อจากผู้อำนวยการคนก่อน ที่เห็นว่าโรงเรียนมีปัญหานักเรียนลดลง ครูทยอยเกษียณ ไม่มีอัตรามาทดแทน โรงเรียนมีแนวโน้มดิ่งลง แม้จะเป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล 1 ใน 63 โรง เมื่อเป็นจังหวะที่โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ มีแผนจะสนับสนุนโรงเรียนทั่วประเทศ 21 แห่ง ซึ่งสนับสนุนมาแล้ว 15 แห่ง ล่าสุดที่ จ.อุบลราชธานี ก่อนสนใจจะมาสนับสนุนที่ จ.อุดรธานี เป็นแห่งที่ 16 แต่เมื่อพุ่งเป้าไปที่โรงเรียนในตัวเมืองอุดรธานี 2 แห่ง ได้รับการปฏิเสธว่าไม่พร้อม ทางโรงเรียนบ้านผือฯ สนใจ จึงเข้าสู่กระบวนการประเมินและผ่านในที่สุด
...
"หลักการคือโรงเรียนยังสังกัด สพฐ.20 อุดรธานี การบริหาร งานบุคลากร งบประมาณก็เหมือนเดิม แต่จะได้รับการช่วยเหลือจากโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ ในเรื่องวิชาการ เป็นหลักสูตรเดียวกันทั่วประเทศ ที่จะจัดการเรียนให้เหมาะสมกับนักเรียน การพัฒนาการเรียนการสอน โดยเฉพาะการพัฒนาครูของเราเอง นำครูจากส่วนกลางมาช่วย และการเรียนการสอนทางไกล การแลกเปลี่ยนนักเรียน ซึ่งนักเรียนจะได้รับสัญลักษณ์พระเกี้ยว เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวด้านต่างๆ"
ผอ.โรงเรียนบ้านผือฯ กล่าวต่อว่า ได้ดำเนินการตามกรอบทุกประการ ตั้งแต่ฟังความเห็นจากครูอาจารย์ ที่ส่วนใหญ่เห็นด้วย ก็มีเพียงส่วนน้อยที่คิดแตกต่าง รับฟังความคิดเห็นประชาชนทั้ง 4 ตำบลในเขตบริการ การประกาศ 30 วัน และสพฐ.ประเมินแล้วว่าพร้อม แต่ที่ผ่านมาผู้ที่คัดค้านไม่เข้าร่วม จึงอยากจะให้ผู้คิดต่างมาร่วมพูดคุย โดยเรามีแผนที่จะนำชื่อโรงเรียนเดิม ไปตั้งเป็นชื่ออาคารใช้ในการเรียนการสอน เช่น อาคารบ้านผือพิทยาสรรค์ 1-2-3 ตามลำดับ และจัดตั้งห้องรวบรวมเรื่องราวของโรงเรียน จากอดีตถึงปัจจุบันไว้ทั้งหมด ซึ่งตนพร้อมไปชี้แจงในทุกเวที.