เหลือแต่ตอ ไม้สักขนาดใหญ่ในป่าสาละวิน อ.แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน ถูกขบวนการมอดไม้ลอบเข้ามากานให้ยืนต้นตายก่อนตัด แล้วชักลากออกไป เจ้าหน้าที่เพิ่งตรวจพบ 2 ต้นเข้าแจ้งความ หน.อุทยานฯ ชี้หน้าฝนทำงานค่อนข้างลำบาก...
เมื่อวันที่ 8 ก.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.แม่ฮ่องสอน ว่า นายโอภาส เมืองกิจจา พนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติสาละวิน ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธวัชชัย วิรัตน์เกษม พงส.สภ. ท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 ก.ย.58 เวลา 10.00 น. ได้ออกตรวจลาดตระเวน บริเวณเส้นทางบ้านแม่สามแลบ-บ้านท่าตาฝั่ง พบว่ามีไม้สักถูกกานบริเวณโคนต้น และถูกตัด จึงบันทึกไว้ว่ามีไม้ในอุทยานฯ ถูกลักลอบตัด จำนวน 2 ต้น พบร่องรอยการตัดโดยใช้เลื่อยยนต์ ส่วนไม้ได้หายไป ซึ่งเป็นไม้ที่ถูกกาน ต้นที่ 1 ความโต 102 ซม. สูง 15 เมตร ต้นที่ 2 ความโต 97 ซม. สูง 15 เมตร ถูกตัดและหายไปจากอุทยานแห่งชาติสาละวิน
ขณะที่ นายยุทธนา ศรีเงินงาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสาละวิน เผยว่า มีการลักลอบตัดไม้สัก จากไม้ที่กานให้ยืนต้นตาย ในบ้านท่าตาฝั่ง หมู่ 7 ต.แม่ยวม บริเวณรอยต่อระหว่างบ้านแม่สามแลบ-บ้านท่าตาฝั่ง ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าสาละวินจริง โดยพบไม้สักที่โดนตัดไปแล้วเหลือแต่ตอ จำนวน 2 ต้น มีลักษณะร่องรอยของไม้เป็นการตัดใหม่ๆ สด และดิบ
...
ทั้งนี้ คาดว่าไม้สักดังกล่าวถูกตัดช่วงคืนวันที่ 2 ก.ย. เนื่องจากตอนกลางวันของวันที่ 2 ก.ย.เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ายืนยันว่า ช่วงที่ลาดตระเวนไม้ยังอยู่ พอลาดตระเวนในวันที่ 3 ก.ย. ก็พบว่าเหลือแต่ตอ และมอดไม้ได้ขนย้ายลำเลียงไม้ที่ลักลอบตัดออกไปหมดแล้วแต่ไม่ทราบว่าลำเลียงไปทางน้ำหรือทางบก เพราะด้านหน้าติดถนนสายบ้านท่าตาฝั่ง ด้านหลังติดแม่น้ำสาละวิน รวมถึงที่ผ่านมามีฝนตกจึงไม่เห็นร่องรอยชักลากลงแม่น้ำ และร่องรอยการแปรรูป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาป่าสาละวิน ได้เร่งสืบเสาะหาขบวนการลักลอบตัดไม้ โดยมีการลาดตระเวนเป็นระยะ แต่เนื่องจากเป็นฤดูฝน การทำงานยากลำบาก และต้องเสี่ยงต่ออันตรายหลายด้าน แต่ก็ได้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาป่าไม้ไว้ให้คงอยู่คู่กับป่าสาละวินต่อไป.