ตร.ภูธร ภาค 7 แถลงตั้งข้อหา 2 สามีภรรยา เจ้าของฟาร์มหมู นครปฐม ร่วมกันค้ามนุษย์ หลังบุกช่วยชาวลาว 12 คน ถูกขัง ใช้งานเยี่ยงทาส พร้อมขยายผลจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ นำชาวลาวเข้าไทย ขายแรงงานพื้นที่ภาคกลาง ...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ส.ค. 58 ที่ห้องประชุม ชั้น 4 ภาค 7 พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 ร่วมกับ พล.ต.ต.วรภัทร์ วัฒนวิศาล รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประภากร ริ้วทอง ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อนุพันธ์ จันทรพฤกษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม รักษาราชการแทน ผกก.สภ.สามควายเผือก พ.ต.อ.อุดม เปี่ยมศักดิ์ ผกก.กสส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รอง ผกก.กสส. พ.ต.ท.ยงฤทธิ์ ศุภผล สว.กสส. พ.ต.ท.ภาณุฑัต เหลืองสัจจกุล สว.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมชุดสืบสวน ภาค 7 สืบสวน จ.นครปฐม สืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ จากการที่ ทหาร ตำรวจ บุกช่วยเหลือชาวลาว ที่ถูกกังขังในกรง ยุพาฟาร์ม ท้องที่ สภ.สามควายเผือก เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 58 ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 เผย ถึงความคืบหน้า ขยายผลไปจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ ส่งชาวลาว อายุ ระหว่าง 16-19 ปี มาเป็นแรงงานในพื้นที่ภาคกลาง ว่า หลังจากที่ ทหาร และตำรวจบุกเข้าทะลายช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานชาวลาว ที่เข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย และถูกกักขังอยู่ในกรงเหล็ก 12 คน ออกมาได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว นายไชยเดช โสนุช อายุ 56 ปี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึง ผจก.ธนาคารแห่งหนึ่ง ใน จ.นครปฐม และภรรยา นางยุพา โสนุช อายุ 53 ปี ตั้งข้อหา ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงาน ร่วมกันให้ผู้ต่างด้าวพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม

...

หลังจากช่วยเหลือแรงงานชาวลาว ออกมาได้แล้ว ตำรวจได้เข้าตรวจค้นภายในบ้าน ซึ่งให้การว่า ถูกนายไชยเดช ทำร้ายใช้ปืนข่มขู่และยังใช้ปืนตีที่ศีรษะจนแตก เวลาทำงานก็จะใช้ปืนยาวติดลำกล้องถือคอยส่องดูว่า ใครจะหลบหนีหรือไม่เพื่อเป็นการข่มขู่ และยังติดกล้องวงจรปิดไว้ทั่วบริเวณทั้งรั้วและหน้าห้องพักที่เป็นกรง รวมแล้วกว่า 20 จุด ตำรวจจึงเข้าค้นภายในบ้าน พบปืนยาวลูกกรด ติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนสั้นขนาด .38 อยู่ภายในห้องนอน 2 กระบอก พร้อมกับยึดตัวบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นหลักฐานในการยืนยัน นำมาประกอบคดี

จากนั้น เมื่อสอบชาวลาว ที่ช่วยเหลือมาได้ให้การกับตำรวจถึงขบวนการค้ามนุษย์ส่งชาวลาวเข้ามาทำงานในไทย ซึ่งเป็นขบวนการใหญ่ โดยมีนางอมร อินทะพรเดช สัญชาติลาว อายุ 60 ปี ซึ่งมีสามีเป็นคนไทย ชื่อ นายสมใจ ภาคเพียร อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 2 ต.พระลาน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ได้พาเข้า ทางด่านช่องเม็ก มาพักที่บ้านนายสมใจ โดยมีนายกี้ (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นนายหน้าติดต่อให้ไปส่งยังที่ต่างๆ เมื่อได้ออเดอร์แล้วก็จะให้นายไมค์ (ไม่ทราบนามสกุล) และนายค่อม (ไม่ทราบนามสกุล) สลับกันขับรถมาส่ง โดยจะได้ค่าหัว คนละ 3,500-5,000 บาท จึงขออนุมัติศาล จ.นครปฐม ออกหมายจับ ในข้อหา ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงาน ร่วมกันให้บุคคลต่างด้าวพักอาศัย ซ่อนเร้นเพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม พร้อมกับให้ชุดสืบสวนบูรณาการ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุม ได้เพียง นายสมใจ ภาคเพียร เพียงคนเดียว ส่วนภรรยาชาวลาว พักอาศัยอยู่ในประเทศลาว นำตัวมาแถลงข่าว ส่วนที่เหลือยังให้ ตำรวจติดตามดูหากพบจับกุมตัวทันที

เบื้องต้น นายสมใจ ภาคเพียร ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ภรรยาชาวลาวเป็นคนติดต่อส่งแรงงานชาวลาวมาที่บ้าน แล้วมีคนรับไป โดยที่ตนเองไม่รู้และไม่เคยได้ค่าตอบแทน ซึ่งตนทำงานรับจ้างทำนา ได้ค่าแรงวันละร้อยกว่าบาทเท่านั้น.