ลมพายุกระหน่ำทั่วเมืองปทุมฯ พัดวิหารหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ วัดบ้านพร้าวใน พังครืนทั้งหลังขณะกำลังก่อสร้างใกล้เสร็จ ตัวพระพุทธรูปพระเกศหัก บ่าซ้ายแตก โชคดีช่าง-ผู้รับเหมาหยุดงาน จึงไม่มีคนเจ็บ...

เมื่อช่วงสายวันที่ 28 ส.ค. ร.ท.สุวิทย์ กิ่งยงค์ ผบ.ร้อย กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 (รักษาความสงบประจำพื้นที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี) นำกำลังเข้าตรวจสอบ วิหารหลวงพ่อโต ภายในวัดบ้านพร้าวใน หมู่ 5 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หลังวิหารดังกล่าวได้ถูกลมพายุพัดพังลงมาได้รับความเสียหายทั้งหลัง โดยที่เกิดเหตุพบว่าเป็นวิหารที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ

จากการตรวจสอบ เป็นวิหารที่สร้างคลุมหลวงพ่อโต พระพุทธรูปองค์ใหญ่ มีอายุกว่า 100 ปี โดยสร้างติดอยู่ใกล้กับโบสถ์ และได้สร้างขึ้นแทนของเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม ด้วยการนำไม้ประดู่มาสร้างเป็นเสาทั้งหมด 10 ต้น มุงด้วยหลังคากระเบื้อง และทั้งหมดได้พังครืนลงมาเสาทุกต้นล้มระเนระนาด จนทำให้พระพุทธรูปหลวงพ่อโต ได้รับความเสียหาย พระเกศหัก หลังบ่าซ้ายแตก และหลังคาโบสถ์ก็ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นต้องรอให้ผู้เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ พร้อมผู้รับเหมา ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้

...

ด้านพระมหาไพทูลย์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดบ้านพร้าวใน กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 ส.ค.) โดยช่วงเกิดเหตุได้ไปสอนนักธรรมที่วัดอื่น โดยมีพระเอกภพ เตชปัณโญ พระลูกวัดโทรศัพท์ไปแจ้งว่าลมได้พัดวิหารหลวงพ่อโต ที่กำลังก่อสร้างอยู่ พังลงมา จึงรีบเดินทางกลับมา พบว่าได้รับความเสียหายจำนวนมาก

ส่วนสาเหตุต้องรอให้ผู้เกี่ยวข้อง และคณะกรรมการวัด มาร่วมตรวจสอบ พร้อมกับจะได้เรียกผู้รับเหมามาดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ในเบื้องต้นทางคณะกรรมการวัด ได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และได้มีพระผู้ใหญ่และหน่วยงานราชการ เข้ามาสำรวจตรวจสอบด้วยเช่นกัน

สำหรับหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชา ของสาธุชน ประชาชนทั่วไป โดยวิหารเดิมเป็นปูนที่เก่าและทรุดโทรมมาก ทางวัดโดยคณะกรรมการวัด มีความเห็นตรงกันว่าควรจะสร้างวิหารขึ้นมาใหม่ โดยใช้เป็นเสาไม้ ที่จะสร้างความสวยงาม และการดำเนินการได้ก่อสร้างไปจนเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่เกิดพังถล่มลงมา แต่โชคดีวันเกิดเหตุช่างและผู้รับเหมาหยุดงานไปได้เพียง 2 วัน จึงไม่มีผู้ใดเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ.