ผวจ.เมืองคอนเชิญบริษัทที่ปรึกษาโครงการรถไฟรางคู่ ชี้แจงรายละเอียด เผยระยะทาง 323 กม.ผ่าน 4 จังหวัด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุงและสงขลา โดยนครศรีธรรมราชระยะทางยาวที่สุด 119 กม. ยืนยันประโยชน์มหาศาลแต่การก่อสร้างต้องวางแผนให้ดี

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมประจำเดือนสิงหาคม 2558 โดยได้เชิญนายนิรัตน์ ตันสวัสดิ์ กรรมการรองผู้จัดการบริษัท เอ็ม.เอ.เเอ คอนซัลแตนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการโครงการงานบริการที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา มาชี้แจงรายละเอียดโครงการ ต่อหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ที่อยู่ในพื้นที่โครงการและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน

นายนิรัตน์ ตันสวัสดิ์ กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา รวม 6 บริษัท ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ใช้ระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2558 สิ้นสุดวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเงินและแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมของโครงการ สำรวจเพื่อจัดทำแบบรายละเอียดการก่อสร้างประมาณราคาก่อสร้าง และจัดทำเอกสารประกวดราคา ศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน

...

ทั้งนี้ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ คือ เพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งทางรถไฟ ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยด้วยการออกแบบแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟ ไม่มีจุดตัดเสมอระดับ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ขนส่งสินค้า และเชื่อมโยงโครงข่าย การบริหารจัดการขนส่งมวลชน สินค้า และบริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ

"โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา มีระยะทางรวม 323 กิโลเมตร มีสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 60 แห่ง ผ่านพื้นที่ทั้งหมด 4 จังหวัด คือ จ. สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 67 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 4 อำเภอ 11 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 13 แห่ง จ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 119 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 7 อำเภอ 30 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 23 แห่ง จ.พัทลุง ระยะทาง 77 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 6 อำเภอ 23 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 18 แห่ง และ จ.สงขลา ระยะทาง 60 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 5 อำเภอ 16 ตำบล จำนวนสถานี/ป้ายหยุดรถไฟ 6 แห่ง"

ส่วนการออกแบบทางรถไฟเบื้องต้น คือ ก่อสร้างทางรถไฟใหม่ 1 ทาง ในเขตทางเดิม 80 เมตร กำหนดความเร็วในการออกแบบไว้ที่ 160 กม./ชม. ก่อสร้างรั้วสองข้างทางรถไฟ เพื่อป้องกันอันตรายตลอดแนวทางรถไฟ ออกแบบจุดตัดทางรถไฟตลอดแนวเส้นทางโครงการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากทางลักผ่าน และปรับปรุงสถานีให้เหมาะแก่การใช้งานและมีความทันสมัย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟจะมีการออกแบบให้เลือกหลายรูปแบบตามความสำคัญของพื้นที่และประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น สะพานรถไฟข้ามถนน /สะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ/ สะพานกลับรถรูปตัวยู (U) และตัวเอช (H) /ทางลอดทางรถไฟ และทางบริการข้างทางรถไฟ เป็นต้น โดยจะไม่มีการเวนคืนพื้นที่เพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่จะสร้างในเขตทางรถไฟทั้งหมด ส่วนที่สถานีช่องเขา อ.ทุ่งสง จะมีการเจาะอุโมงค์ระยะทาง 235.9 เมตร

นายนิรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นระดับจังหวัด 3 ครั้ง ครั้งที่ 1. กำหนดประชุมในวันที่ 22 กันยายน 2558 เวลา 08.30 น. ที่โรงแรมแกรนด์เซ้าท์เทิร์นท์ อ.ทุ่งสง ครั้งที่ 2 เดือนมกราคม 2559 และครั้งที่ 3 เดือนมิถุนายน 2559 และจัดประชุมกลุ่มย่อยในพื้นที่ระดับตำบลอีก 2 ครั้ง

ขณะที่ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ศรีธรรมราช กล่าวว่า มีความเป็นห่วงการดำเนินโครงการในพื้นที่เขตเมือง ซึ่งต้องออกแบบทางข้ามจุดตัดรถไฟให้ดี โดยเฉพาะอุโมงค์ต้องให้รถทุกชนิดผ่านได้ ลงทุนครั้งเดียวต้องคุ้มค่า ไม่ต้องเสียเวลาขับรถอ้อม และขอให้มีการออกแบบเพิ่มทางข้ามในเขตเมืองทั้งทางคนข้ามและมอเตอร์ไซค์ข้ามด้วย เพื่อความสะดวก ไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน

"เนื่องจากโครงการดังกล่าว เป็นนโยบายสำคัญในการพัฒนาโครงการพื้นฐานของรัฐบาล จึงได้เชิญบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ มาชี้แจงรายละเอียดโครงการให้ที่ประชุมกรรมการและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดได้รับทราบข้อมูล เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอและผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในพื้นที่โครงการฯ ได้นำข้อมูลไปชี้แจงสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย

...

อย่างไรก็ตาม โครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าวมีระยะดำเนินงานให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งระบบ 10 ปี ซึ่งถือว่าไม่นานและจะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว รวมทั้งการขนส่งหรือโลจิสติกส์โดยตรง" ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าว.