ตร.ไม่ฟันธง เติร์กหัวรุนแรง กลุ่มวางบึม!

ผบ.ตร.โอด ตำรวจทำงานหนัก 7-8 วัน ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะมุ่งมั่นจะจับมือระเบิดให้ได้ ย้ำยังมั่นใจจับคนร้ายได้แน่ ส่วนสื่อนอกจะวิเคราะห์อย่างไร เป็นเรื่องของเขาห้ามไม่ได้ เฉ่งลูกน้องไม่ปกปิดพยานปล่อยให้นักข่าวสัมภาษณ์แท็กซี่รับมือระเบิด ส่วนโฆษก ตร.บอกขณะนี้หมายจับมือบึมเป็นคนต่างชาติตามพยานให้การ แต่ภายหลังจับแล้วเป็นคนไทยปลอมตัวค่อยว่ากัน ส่วนกลุ่มเกรย์ วูล์ฟส สมาชิกเติร์กหัวรุนแรง ยังไม่พบความเคลื่อนไหวในไทย ชุดสืบสวนกองปราบฯ ตะลุยค้นกระบี่หลังได้ข่าวกลุ่มต้องสงสัยวางบึมไปกบดาน ส่วนตำรวจรถไฟกรุงเก่าเจอหนุ่มอิตาเลียน หน้าคล้ายคนร้ายในภาพสเกตช์ เจ้าตัวถึงกับปฏิเสธลั่น ขณะเดียวกัน นายกฯสั่งเยียวยาเหยื่อเพิ่มศพละ 50,000 บาท ด้านกรมศิลปากรเข้าบูรณะศาลพระพรหมแล้ว

จากเหตุคนร้ายใจเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์ ลอบวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยวันรุ่งขึ้นยังเกิดเหตุระเบิดซ้ำที่บริเวณท่าน้ำสาทร ถนนเจริญกรุง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยการสืบสวนของตำรวจเชื่อว่าทั้ง 2 เหตุมีความเชื่อมโยงกัน ส่วนความคืบหน้าคดีระเบิดที่แยกราชประสงค์ ตำรวจได้พยานเป็นคนขับรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองที่รับชายสวมเสื้อเหลือง ลักษณะคล้ายคนต่างชาติ ผู้ต้องสงสัยมือวางระเบิดจากย่านสาทร มาส่งที่สถานีหัวลำโพง ด้านคลองผดุงกรุงเกษม ก่อนโบกรถสามล้อเครื่องไปก่อเหตุ ขณะที่สื่อนอกวิเคราะห์ รัฐบาลไทยควรจับตาผู้ก่อเหตุรุนแรงครั้งนี้อาจเป็นฝีมือกลุ่ม “เกรย์ วูล์ฟส” หรือ “หมาป่าสีเทา” สมาชิกเติร์กหัวรุนแรง

สื่อเทศวิเคราะห์ห้ามไม่ได้...

วันที่ 26 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีระเบิดที่แยกราชประสงค์ ถ้าพูดกันคนละทีอาจจะทำให้เกิดความบิดเบือน เมื่อมีพยานบุคคลก็ต้องทำทุกวิถีทางว่าจะได้อะไรพยานหลักฐานอะไรเพิ่มขึ้นบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้าย ส่วนประเด็นที่สื่อต่างชาติวิเคราะห์อะไรออกมา เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ ใครจะวิเคราะห์อย่างไรเป็นสิทธิของเขา เพราะเขามีแนวความคิด มีทฤษฎีฐานข้อมูลที่แตกต่างกันไป แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่บอกว่าเรื่องอะไรทั้งนั้น จนกว่าจะมีพยานหลักฐานที่แน่นอน ส่วนจะใช้เวลานานไม่นานขณะนี้ยังตอบไม่ได้

เฉ่งลูกน้องไม่ปิดพยานแท็กซี่

“เอาเป็นว่าหลังคดีเกิดขึ้นมาผ่าน 7-8 วัน ตำรวจไม่ได้หลับได้นอน ทุกคนทำงานเหมือนหัวนอต หัวสกรู แทบจะเอาหัวเดินต่างเท้า จากความกดดัน และมีความมุ่งมั่นที่จะจับคนร้ายให้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในทุกเรื่องทุกทาง ได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ที่พาพยานคนขับรถแท็กซี่มาที่ พฐ.โดยไม่ปิดบัง และปล่อยให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ แล้วอย่างนี้จะเป็นพยานที่ถูกปกปิดไปทำไม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่จะตีกรอบของคดีทุกวัน แต่ประเด็นก็แตกออกไปทุกวัน ไม่สามารถตัดประเด็นต่างๆออกไปทันที จนกว่าจะมีพยานหลักฐานแน่ชัดว่าสาเหตุมาจากประเด็นใด ยังเชื่อมั่นว่าจะจับผู้ก่อเหตุได้ แต่กล้ายืนยันว่าการกระทำครั้งนี้เป็นขบวนการที่ทำร่วมกัน มีการแบ่งหน้าที่ในการทำงาน” พล.ต.อ.สมยศกล่าว

มีแฮกเกอร์ร่วมป่วนแต่ไม่พบพันบึม

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีกลุ่มแฮกเกอร์ที่อ้างตัวว่าเป็นกลุ่ม Fallaga Team เจาะระบบและเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์หน่วยงานราชการในประเทศไทยหลายแห่งให้ปรากฏเป็นภาพความรุนแรงนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตรวจสอบความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นทั้งที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร แต่ตอนนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยง โดยกลุ่มแฮกเกอร์นี้ทำไปเพื่อทำลายสถิติ เพื่อให้เกิดความโด่งดังและประกาศศักดาเท่านั้น การเจาะเว็บไซต์หน่วยงานราชการหลังเหตุระเบิดคงเป็นเหตุบังเอิญ และเกิดมีคนที่นำเหตุการณ์ไปเชื่อมโยงกัน กลุ่มแฮกเกอร์กลุ่มนี้มีการเจาะระบบมาแล้วทั่วโลก ส่วนตำแหน่งที่กลุ่มแฮกเกอร์อยู่ในประเทศไทยหรือไม่นั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เป็นคน ละกลุ่มกับที่เจาะระบบเว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และใช้คนละวิธีการ ส่วนกรณีที่มีประชาชนโพสต์ป่วนวางระเบิดตามสถานที่ต่างๆ ขอเตือนว่าอย่าทำเพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และสร้างความตื่นตระหนก ทั้งนี้เรามีผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีที่จะตามตัวมาดำเนินคดีแน่นอน

ยังไม่ชัวร์มือระเบิดเป็นต่างชาติ

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันการสืบสวนเหตุที่ท่าเรือสาทรกำลังทำอยู่ แต่ติดขัดปัญหาที่กล้องวงจรปิดไม่ชัด บางอันเห็นแค่ที่ขา กล้องบนถนนก็ไม่มี ส่วนกรณีคนขับรถแท็กซี่ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสืบสวนสวนสอบสวน ขณะนี้กำลังหาจุดที่แน่ชัดของการรับส่งชายผู้ต้องสงสัย เพราะยังสับสนทั้งเรื่องเวลา สถานที่ นอกจากนี้ ตามที่คนขับแท็กซี่ระบุว่า รับคนต่างชาติที่พูดภาษาไทยไม่ชัด จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดประเด็นคนต่างชาติหรือคนไทยไปได้เลยหรือไม่นั้น การพูดไม่ชัดอาจจะเป็นการท่องมาก็ได้ อาจจะเป็นคนที่เคยมาเมืองไทยหรือเป็นคนต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยทำให้พูดภาษาไทยได้ คนขับแท็กซี่ใช้คำว่าพูดภาษาไทยแบบคนต่างชาติ เลยไม่รู้ว่าคนต่างชาติหรือเปล่า แต่ยังไม่ได้ให้น้ำหนักไปที่ชาวต่างชาติมากกว่าชาวไทย เพราะสิ่งนี้อาจจะทำให้หลงทาง การแกล้งพูดไม่ชัดไม่ใช่เรื่องยาก

ออกหมายจับตามพยาน

โฆษก ตร.ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง ได้ทำไปแล้ว โดยตรวจสอบย้อนหลังไป 2-3 เดือน เพราะคนต่างชาติจะอยู่ได้ 1 เดือน ไม่หมดความพยายามที่จะทำย้อนลึกลงไปเรื่อยๆ ส่วนหมายจับชายเสื้อเหลืองที่เป็นผู้ต้องหาคดีระเบิดนั้นระบุว่าเป็นชาวต่างชาติ เพราะออกหมายจับตามพยาน เป็นคนขับสามล้อและคนขี่จักรยานยนต์รับจ้างที่ให้การว่าพูดภาษาไทยไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นก็น่าจะเป็นต่างชาติ ต้องออกไปตามพยานหลักฐานก่อน แต่หากจับกุมแล้วปรากฏว่าเป็นคนไทยปลอมเป็นชาวต่างชาติ และยอมรับว่าเป็นคนคนเดียวกันเรื่องก็จบ

รับฟังสื่อเทศ ฝีมือ “เกรย์ วูล์ฟส”

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า กรณีนายแอนโทนี่ เดวิส นักวิเคราะห์ต่างชาติแสดงความคิดเห็นว่าการก่อเหตุครั้งนี้เกี่ยวข้องกับกลุ่ม “เกรย์ วูล์ฟส” เนื่องจากนายแอนโทนี่ เป็นนักวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์ของโลก มีข้อมูลเชื่อมโยงกับการกระทำความรุนแรงทั่วโลก ข้อมูลจะมีลักษณะเชื่อมโยงกับต่างประเทศ แต่ของเรายังไม่ได้ลงไปลึก และยังไม่ตัดประเด็นเป็นการกระทำของการก่อการร้ายสากล หรือการก่อความไม่สงบระหว่างประเทศ เพราะต้องแยกองค์ประกอบออกมาก่อนว่า การก่อการร้ายสากลคืออะไร ต้องแน่นอนว่ามีวัตถุประสงค์และข้อเรียกร้องที่แน่ชัด เหตุการณ์นี้ยังไม่เข้าองค์ประกอบ เพราะฉะนั้นในลักษณะที่นายแอนโทนี่วิเคราะห์ ว่า กลุ่ม “เกรย์ วูลฟ์ส เข้าข่ายมากที่สุดก็ต้องฟังเอาไว้

ไม่พบความเคลื่อนไหวในไทย

โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม กลุ่ม “เกรย์ วูล์ฟส” เจ้าหน้าที่ตำรวจมีฐานข้อมูลอยู่ กลุ่มนี้ไม่เคยมีข้อมูลการเคลื่อนไหวในประเทศไทย และอยู่ไกลจากประเทศไทยพอสมควร อาจมีเคลื่อนไหวในประเทศเพื่อนบ้านบ้าง อย่าเพิ่งไปให้น้ำหนักกลุ่มเกรย์ วูล์ฟส เราพยายามทำตามแนวสืบสวนของเราก่อน ส่วนการแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุและหลบหนีออกไปนอกประเทศแล้วก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น แน่ใจว่าอย่างไรก็ต้องมีคนไทยร่วมขบวนการอยู่แล้ว

ยังไม่รู้มือบึมเป็นใคร กลุ่มไหน

เมื่อถามว่า กรณีพบหลักฐานผู้ต้องสงสัยติดต่อกับซีอีโอ กลุ่มอุยกูร์ มีข้อมูลหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยยังไม่รู้ว่าเป็นใคร และกลุ่มที่เราสืบสวนอยู่ ก็ยังไม่รู้ว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยคือใคร ที่บอกว่ามีการติดต่อก็เป็นข้อมูล บางครั้งข้อมูลที่เราส่งไปตามหมายจับ และกลุ่มความเคลื่อนไหวมีผู้ร่วมขบวนการหน้าตาแบบนี้มีหรือไม่ ถ้ามี มีใครบ้าง จะส่งข้อมูลของกลุ่มที่เคลื่อนไหวมา แต่ทุกวันนี้ไม่มีกลุ่มไหนที่เคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลทางสถานทูตก็ไม่มีอะไรในลักษณะนี้ การส่งภาพผู้ต้องสงสัยผ่านทางตำรวจสากลของแต่ละประเทศนั้น ยังไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนการออกหมายจับเหตุระเบิดที่สาทรยังไม่เข้าข่ายออกหมายจับ พยายามทำให้ภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจนอยู่ให้ได้มากที่สุด ขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นก่อนเกิดเหตุและมีการถ่ายภาพ หากพบเห็นชายคนดังกล่าวในรูปให้รีบติดต่อให้เบาะแสทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1599 ด้วย ส่วนกรณีชาวตุรกี 15 คนที่เดินทางเข้าประเทศไทยมาล่าสุด ได้ตรวจสอบเปรียบเทียบใบหน้าทั้งหมด แต่ยังไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย

นครบาลประชุมทีมสืบ

บ่ายวันเดียวกัน บก.สส.บช.น. ถนนศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. ได้เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ และบริเวณท่าน้ำสาทร ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร โดยมี พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ ผกก.กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) บก.สปพ.บช.น. เข้าร่วมประชุมด้วย ทั้งนี้ขณะมีการประชุม เจ้าหน้าที่ได้นำป้ายระบุข้อความขอความร่วมมือสื่อมวลชน ไม่เข้าใกล้บริเวณห้องประชุม พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าดูสถานการณ์บริเวณหน้าห้องประชุมอย่างเข้มงวด ใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังเสร็จสิ้นการประชุม ไม่มีนายตำรวจนายใดให้ข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมครั้งนี้ ระบุเพียงสั้นๆว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงกำชับห้ามให้ข่าวกับสื่อมวลชน

ติดคำสั่ง คสช.ยกเลิกเทสต์บึม

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากแหล่งข่าวนายหนึ่งระบุว่า ในที่ประชุมได้ให้น้ำหนักไปที่มือระเบิดที่ก่อเหตุบริเวณแยกราชประสงค์ว่า เป็นชายวัยรุ่นคล้ายแขกขาว อาจจะมีความเชื่อมโยงได้ว่าเป็นชาวตุรกี หรืออาจมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอุยกูร์ แต่ยังไม่ได้สรุปผลอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีรายงานเกี่ยวกับกรณีที่จะมีการทดสอบระเบิดที่ค่ายพระราม 6 อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อเปรียบเทียบระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุที่ศาลท้าวมหาพรหม และท่าเรือสาทร ว่าเจ้าหน้าที่อาจจะยกเลิกการทดสอบ เนื่องจากในขณะนี้ยังติดคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่

รวบโจ๋หนุ่มสุพรรณฯเฟซป่วน

ด้าน พล.ต.ต. ศิริพงษ์ ติมุลา ผบก.ปอท.เปิดเผยว่า ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 จับกุมนายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้สร้างเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “ระเบิดกรุงเทพมหานคร” เมื่อวันที่ 20 ส.ค. และโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการวางระเบิดในพื้นที่ 5 จุด 5 จังหวัด สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน จับกุมได้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี และได้ปิดเพจดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา อยากฝากเตือนประชาชนในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเหตุการณ์วาง ระเบิดทั้งในกรุงเทพมหานครหรือต่างจังหวัด เนื่องจากอาจเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย

ป.ลุยค้นรีสอร์ตกระบี่

มีรายงานจากกองปราบปราม ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ชุดสืบสวนกองปราบปรามนำโดย พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป.พร้อมหน่วยงานความมั่นคง นำกำลังเข้าตรวจค้นที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ หลังพบกลุ่มบุคคลที่เชื่อว่าพัวพันในคดีเหตุระเบิดหลบหนีไปพักอยู่ แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียดไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยการปฏิบัติการ ครั้งนี้เป็นความลับ ไม่มีการแจ้งผลการปฏิบัติแก่สื่อมวลชนแต่อย่างใด

เจอหนุ่มเลี่ยนหน้าคล้ายมือบึม

ขณะเดียวกัน การตรวจสอบชายชุดเหลืองที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดเป็นผู้สะพายกระเป๋าเป้ระเบิดเข้าไปในศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ โดยสั่งการไปยัง ตร.ทั่วประเทศนั้น เมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ตุลยวัต เมืองทอง สว.ส.รฟ.อยุธยา กก.2 บก.รฟ. พร้อมกำลัง ได้ออกตรวจดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานีรถไฟอยุธยา พบชายชาวต่างชาติ ลักษณะใบหน้าคล้ายผู้ต้องสงสัยเหตุวางระเบิดแยกราชประสงค์ เดินสะพายเป้มากับแฟนสาว ได้เข้าสอบถามและขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง พบว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวอิตาลีชื่อ นายเฟรเดอริโค โวลเป อายุ 29 ปี แจ้งว่ามาเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังจะกลับกรุงเทพฯ ไปต่อขบวนรถไฟเดินทางไปที่ จ.ชุมพร และลงเรือไปเที่ยวต่อยังเกาะเต่า ทั้งนี้ จากการพูดคุยสอบถามนายเฟรเดอริโคว่า รู้เรื่องเหตุระเบิดหรือไม่ หนุ่มอิตาลีกล่าวยอมรับ รู้เรื่องครั้งนี้จากในเน็ต เมื่อเชิญตัวไปดูภาพสเกตช์คนร้ายที่ติดไว้หน้าสถานีรถไฟ นายเฟรเดอริโค ถึงกับยิ้มพร้อมกล่าวว่า Not Same ไม่ใช่ตน หลังจากนั้น พ.ต.ท.ตุลยวัตได้ส่งทั้งคู่ขึ้นขบวนรถไฟเข้ากรุงเทพฯต่อไป

“บิ๊กป้อม” เผยคดีคืบไม่มีทางตัน

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหมกล่าวว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงติดตามความคืบหน้าตลอด มีหลายประเด็น ไม่มีการตัดทิ้ง ทั้งเรื่องการก่อการร้าย เรื่องระหว่างประเทศ การเมือง ศาสนาความรุนแรง ทั้งนี้การประกอบระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์มีให้เห็นไม่มากจะไปบอกว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องอุยกูร์แล้วมาก่อเหตุกับคนจีน เพราะความจริงแล้วคนจีนอาศัยในพื้นที่อื่นมากกว่าบริเวณดังกล่าว ตอนนี้คดีคืบหน้าไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมาตนพยายามให้ไปดำเนินการกล้องซีซีทีวี เพื่อต่อจิ๊กซอว์ แต่กล้องบางจุดมีปัญหา เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามต่อไป ตนไม่อยากลงลึกเรื่องรายละเอียด จะเสียรูปคดี เพราะมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายดำเนินการอยู่ เรื่องนี้ไม่มีทางตัน

สั่งกองทัพเร่งเรียกคืนความเชื่อมั่น

ด้าน พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงหลังการประชุมสภากลาโหมเมื่อเที่ยงวันเดียวกันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม เน้นย้ำกับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพว่า สถานการณ์การก่อเหตุลอบวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ถือเป็นการท้าทายเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว อีกทั้งมีคนไทยไม่หวังดีบางกลุ่ม ปล่อยข่าวลวงในสังคมออนไลน์ แจ้งข่าวเท็จต่อเจ้าหน้าที่ ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก มอบหมายให้กองทัพร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาโดยเร็ว เน้นมาตรการด้านการข่าว เพิ่มการรักษาความปลอดภัย เน้นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและขอความร่วมมือประชาชนรับฟังข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ไม่ส่งภาพความรุนแรงข้อมูลเท็จ ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ กระทรวงกลาโหมขอความร่วมมือสื่อฯ ทำหน้าที่เคียงข้างหน่วยงานความมั่นคง นำเสนอข้อมูลข่าวสารที่สร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

กำชับหน่วยทหารโดนล้วงตับ

โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวด้วยว่า ตรวจพบเว็บไซต์หลักของหน่วยราชการอย่างน้อย 3 แห่งในจังหวัดต่างๆของประเทศถูกแฮก โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า ฟาลากาทีม (Fallaga Team) ระบุว่ามาจากประเทศตูนิเซีย ปรากฏข่าวสารการโจมตีไปทั่วโลก โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม ได้ขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพรู้ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่อกำลังพลทุกระดับ กำชับหน่วยงานที่รับผิดชอบติดตามเฝ้าระวังกำหนดมาตรการเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบข้อมูลสำคัญในการปฏิบัติงานของหน่วย ทั้งนี้ได้สั่งให้กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกระทรวงกลาโหม ประสานไปยังกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) ติดตามที่มาของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า ฟาลากาทีม (Fallaga Team) ที่อ้างมาจากตูนิเซียว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

เร่งอุดช่องว่างมาตรการ รปภ.

ในเวลาเดียวกัน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ว่า การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในภาพรวม การติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุร้ายที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร มีความคืบหน้ามาโดยลำดับ ตามที่ประชาชนได้รับข่าวสารจากสื่อต่างๆไปแล้วนั้น หลังเกิดเหตุสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะสืบสวนชุดใหญ่ที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวนคดี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม ให้ความสำคัญกับทุกประเด็นที่ได้ตั้งสมมติฐานเอาไว้ และจากข้อมูลและพยานหลักฐานที่รวบรวมไว้เป็นจำนวนมาก คาดว่าจะสามารถนำไปสู่การระบุและยืนยันบุคคลผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด และเพื่อให้การดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเรียบร้อยหน่วยงานด้านความมั่นคง จะได้เร่งรัด ตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ ทั้งในส่วนของหน่วยงานทางราชการ และในส่วนของภาคเอกชน เพื่อค้นหาช่องว่างที่อาจจะมีอยู่ และนำไปเป็นข้อมูลในการป้องกัน ป้องปราม การก่อเหตุอันไม่พึงประสงค์ใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชน

นายกฯสั่งปรับเงินเยียวยาเหยื่อ

สำหรับการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนด มีความคืบหน้ามาโดยลำดับ ถึงแม้ว่าเงินช่วยเหลือเหล่านั้น จะไม่สามารถทดแทนต่อการสูญเสียได้ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีความห่วงใยต่อผู้สูญเสียทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้มีบัญชาให้หน่วยงานผู้ที่มีความเกี่ยวข้องประชุมหารือในวันนี้ เพื่อพิจารณาปรับรูปแบบการช่วยเหลือ ทั้งในรูปแบบของเงินและการดูแลในลักษณะอื่นๆ ให้มีความเหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน สำหรับการขอความร่วมมือ ขอขอบคุณผู้ที่แจ้งข้อมูลและเบาะแสต่างๆ มายังศูนย์ติดตามสถานการณ์ของ คสช. ผ่านเบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1515 ข้อมูลดังกล่าวบางส่วนมีประโยชน์ ได้ส่งข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าข้อมูลที่แจ้งเข้ามานั้นต้องเป็นข้อมูลเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนคดี จากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เท่านั้น เพื่อให้ช่องทางนี้เป็นช่องทางที่เปิดรับข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่

อนุมัติเพิ่มศพละ 50,000 บาท

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม นาย ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา มี พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นำข้อมูลการเยียวยาผู้เสียหายจากเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ เข้าเสนอให้คณะกรรมการฯพิจารณาอนุมัติเงินเยียวยา จากเดิมจ่ายให้ทายาทผู้เสียหายที่เสียชีวิต รายละ 100,000 บาท เพิ่มอีก 50,000 บาท เป็นรายละ 150,000 บาท โดย พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวว่า ได้พิจารณาจ่ายเงินให้ผู้เสียหายกรณีดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 78 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 20 ราย รวมเป็นเงิน 3,000,000 บาท และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 58 ราย รายละ 50,000 บาท ขณะที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เผยถึงเรื่องเดียวกันว่า เรื่อง พ.ร.บ.เงินเยียวยาเหยื่ออาชญากรรม นายกรัฐมนตรีลงมาดูว่าจะเพิ่มเงินช่วยเหลือให้ญาติเหยื่อระเบิดได้อีกไหม ได้สั่งให้อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯไปดูเรื่องดังกล่าว พบว่ามีช่องกฎหมายที่ทำได้ ในกรณีที่เป็นเคสพิเศษแบบนี้

กรมศิลป์เข้าบูรณะท้าวมหาพรหม

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงสายวันเดียวกัน นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ รองอธิบดีกรมศิลปากร พร้อมช่างจากกรมช่างสิบหมู่ 6 คน เข้าสักการะองค์ท้าวมหาพรหม พร้อมวางแนวทางบูรณะซ่อมแซมความเสียหายจากแรงระเบิด โดยนายสหภูมิเผยว่า จะดำเนินการบูรณะทั้งหมด 2 ส่วน คือ ส่วนขององค์พระ และส่วนของซุ้มครอบองค์พระ ตรวจสอบพบมีส่วนเสียหาย 4 จุด คือ บริเวณใต้คาง สร้อยสังวาล นิ้วชี้ด้านขวา และหน้าแข้งองค์พระ ในส่วนของคางมีความเสียหายมากที่สุด มีรอยแตกขนาดใหญ่ ส่วนซุ้มครอบองค์พระเสียหายเล็กน้อย ทั้งนี้ ได้นำช่างประติมากรมาซ่อมแซมในส่วนของคาง ใช้ปูนปลาสเตอร์สีเขียว เป็นสีที่ใกล้เคียงกับองค์พระมาเสริมในส่วนที่ชำรุด จากนั้นจะให้ช่างขัดองค์พระเพื่อปิดทองใหม่ทั้งองค์ โดยใช้ทองคำเปลว 2,500 กรัม และให้ช่างประดับกระจกมาสกัดกระจกบริเวณซุ้มเพื่อให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม งบประมาณที่ใช้มาจากมูลนิธิทุนท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ เป็นเงิน 7 หมื่นบาท ใช้ เวลาบูรณะ 9 วัน จะให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ก.ย.นี้ และจะมีพิธีสมโภชองค์ท้าวมหาพรหม ในวันที่ 4 ก.ย.มีการแสดงโขนรามเกียรติ์ โดยนักแสดงจากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ขณะเดียวกัน ระหว่างการบูรณะ แม้ว่าจะมีการคลุมผ้ารอบซุ้มท้าวมหาพรหม แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าสักการะองค์ท้าวมหาพรหมได้ตามปกติ