หนุ่มบุรีรัมย์มาอยู่ชะอำ จ.เพชรบุรี พกปืนขับรถ มีเรื่องกับหนุ่มอเมริกันจนถึงขั้นชกต่อย หนุ่มไทยตัวเล็กกว่าสู้ไม่ได้ ชักปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อขู่ หารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นครูฝึก ‘ยิวยิตสู’ จับทุ่มจนสะบักสะบอมก่อนแจ้งตำรวจดำเนินคดี...
เมื่อตอนบ่ายวันที่ 24 ส.ค. 58 พ.ต.ท.ประจักษ์วิทย์ สว่างยิ่ง พนักงานสอบสวนชำนาญการ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนไทยกับชาวต่างชาติทะเลาะวิวาทกัน และมีการยิงปืนขึ้นฟ้า เหตุเกิดบริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันเชลล์ ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ก่อนถึงสี่แยกชะอำเพียงเล็กน้อย จึงแจ้งผู้บังคับบัญชารับทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุ พบชายชาวต่างชาติชื่อ นายเฟรดดริก ไบรอันท์ (Freddrik Brian) อายุ 45 ปี เป็นชาวอเมริกันพร้อมครอบครัว คือ ภรรยาชาวไทยวัย 41 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และลูกสาวเป็นเด็กลูกครึ่งอายุ 3 ขวบครึ่งของทั้งคู่ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ โดยมีนายไตรจักร พงษ์ศรีเจริญสุข อายุ 31 ปี ชาวบ้าน หมู่ 8 ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจควบคุมตัวเอาไว้ พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ภายในบรรจุกระสุน 6 นัด ถูกยิงไปแล้ว 1 นัด และซองกระสุนปืน ที่ภายในมีลูกกระสุนอยู่อีก 10 นัด จึงได้ทำการเชิญผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมด มายัง สภ.ชะอำ เพื่อทำการสอบสวน
...
นายเฟรดดริกให้การว่า ตนได้มาพักอาศัยอยู่กับภรรยาชาวไทยและลูกสาวที่ชะอำ โดยไปๆ มาๆ อยู่เป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว ซึ่งในเช้าวันนี้ ตนพาครอบครัวขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน กรต 462 เพชรบุรี จากบ้านพักมาออกกำลังกายที่บริเวณสวนสุขภาพ หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองชะอำ จากนั้นได้ขี่รถกลับบ้าน แต่ในระหว่างทางที่ขี่ไปตามถนนสายหลัง บริษัท ฮอนด้า ชะอำ สวนกับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ 4944 เพชรบุรี ที่มีนายไตรจักรเป็นคนขับ เมื่อสวนทางกัน รถคันดังกล่าวได้ขับเบียดรถของตนที่มีภรรยากับลูกสาววัย 3 ขวบครึ่งซ้อนท้ายอยู่ จนเกือบจะเกิดอุบัติเหตุ ก่อนจะแล่นเลยไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หนุ่มอเมริกัน ให้การต่อว่า ด้วยความโมโห จึงได้เรียกตัวนายไตรจักร ออกมาคุยกัน แต่กลับคุยกันไม่รู้เรื่องจนเกิดการชกต่อยกันขึ้น โดยระหว่างนั้น นายไตรจักร ได้นำอาวุธปืนออกมายิงขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด ตนเห็นท่าไม่ดี จึงเข้าไปยื้อยุดและแย่งเอาอาวุธปืนมาจากนายไตรจักรได้ ก่อนที่จะใช้วิชา 'ยิวยิตสู' ซึ่งเป็นศิลปะป้องกันตัวที่ตนเป็นครูฝึกและมาเปิดสอนอยู่ที่ชะอำ จับนายไตรจักรทุ่มลงพื้นไปหลายครั้ง จนนายไตรจักรสะบักสะบอม จากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ตามจับตัว หลังคู่กรณีขับรถหนีไป
ส่วนนายไตรจักร กล่าวว่า กำลังจะเดินทางไปหัวหิน และเมื่อขับรถสวนกัน นายเฟรดดริก ได้ขับกินเลนมาทางฝั่งของตน จนเกือบจะชนกัน แต่ตนรีบ จึงไม่ได้หยุดดู และเมื่อตนขับมาถึงจุดเกิดเหตุ นายเฟรดดริกได้ขี่รถตามและลงรถมาหาเรื่องจนเกิดการตะลุมบอนกันขึ้น ตนเห็นว่าตัวเองสู้ไม่ได้เพราะตัวเล็กกว่า จึงชักปืนที่พกออกมายิงขึ้นฟ้า เพื่อขู่นายเฟรดดริก แต่พลาดท่าถูกรวบตัวและแย่งปืนไปจากมือ ก่อนที่จะถูกจับทุ่มลงพื้นหลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายเฟรดดริก ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะนายไตรจักรใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า ในที่สาธารณะ และต่อหน้าลูกสาวของตนที่อายุเพียง 3 ขวบครึ่งเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะ แก่นายไตรจักร รวมทั้งนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมถึงสาเหตุ ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 17.15 น.วันที่ 25 ส.ค.2558 นางดวงใจ ไบรอันท์ ภรรยานายเฟรดดริก ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวไทยรัฐว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวันที่เกิดเหตุตน และสามีและลูก 3 ขวบ ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน กรต 462 เพชรบุรี จากบ้านพักมา เพื่อออกกำลังกายที่บริเวณสวนสุขภาพ หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองชะอำ จากนั้นได้ขี่รถกลับบ้าน แต่ในระหว่างทางที่ขี่ไปตามซอยลักกี้ิ ที่เป็นถนนสายทางลัดกลับบ้าน อยู่ด้านหลังบริษัท ฮอนด้า ชะอำ ได้สวนกับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ 4944 เพชรบุรี ที่มีนายไตรจักรเป็นคนขับ เมื่อสวนทางกัน รถคันดังกล่าวได้ขับกินเลนเข้ามา จนเกือบเบียดรถของตนเองและสามีรวมทั้งลูกสาววัย 3 ขวบครึ่งซ้อนท้ายอยู่ จนเกือบจะเกิดอุบัติเหตุ
ภรรยานายเฟรดดริก กล่าวต่อว่า จากนั้น ทั้งสามี และ นายไตรจักรได้ลงจากรถ โดยสามีบอกว่าจะไปสอบถามคู่กรณีว่าทำไมขับรถแบบนี้ และจะไปดูว่ารถคู่กรณีเสียหายหรือไม่ แต่คู่กรณีกลับตะโกนใส่สามี พร้อมทั้งบอกว่าตัวเองเป็นคนไทย สามีจึงบอกว่าคุณเป็นคนสัญชาติอะไรก็ไม่ควรขับรถแบบนี้ เพราะมันอันตราย จากนั้นคู่กรณีก็ทำมือเป็นรูปปืนเพื่อแสดงว่าเขามีปืน และ หยิบปืนมาจ่อ พร้อมยิงขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด และเอามาจ่ออีกครั้ง สามีจึงร้องว่าไม่อย่ายิง แต่เห็นท่าไม่ดีเกรงจะเป็นอันตรายต่อครอบครัว จึงได้ป้องกันตัวและแย่งปืนมาจากมือของนายไตรจักรได้ ก่อนที่ คู่กรณีจะรีบขึ้นรถขับหนีไปทาง อ.หัวหิน ตนจึงได้รีบโทรแจ้งตำรวจ และต่อมาตำรวจได้ตั้งสกัดจับรถคันดังกล่าว จนรถคันดังกล่าวได้ไปจนมุมเจ้าหน้าที่ บริเวณปั้มเชลล์ ไม่ได้ขี่รถตามมาหาเรื่องตามที่เป็นข่าว และคู่กรณีให้การกับตำรวจ รวมทั้งให้สัมภาษณ์ต่อนักข่าวแต่อย่างใด รวมทั้งต้องการขอความเป็นธรรม เพราะรู้สึกว่าสามีเกือบเอาชีวิตไม่รอด และครอบครัวอาจตกอยู่ในอันตราย.
...