ผู้ต้องหาคดียูฟันฯ ที่ภูเก็ต ถูกกดดันเข้ามอบตัวอีก 2 ราย เป็นผัวเมียระดับแม่ข่าย มีเงินหมุนเวียนร่วม 30 ล้านบาท ถูกอุปโลกน์ให้รับรางวัลผู้มีผลงานดีเด่น เผยในภูเก็ตยังมีเครือข่ายอีกร่วม 10 ราย มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้าน...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ส.ค. 58 ที่ห้องประชุมชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิรพล อัจกลับ ผกก.ปคบ. และทีมพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีบริษัท ยูฟันสโตร์ จำกัด ได้นำตัว 2 สามีภรรยาผู้ต้องหาคดีร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติมา แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ประกอบด้วย 1. น.ส.พรธิชา หรือ ย่อง ปิติสุข อายุ 37 ปี และ 2. นายดำรงศักดิ์ ปิติสุข อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 23 มิ.ย. 58 ซึ่งทั้งสองคนเป็นสมาชิกของบริษัท ยูฟันสโตร์ จำกัด โดยทำหน้าที่เป็นระดับแม่ทีมหรือแม่ข่ายมีหน้าที่ชักชวนให้บุคคลทั่วไปนำเงินมาร่วมลงทุนในธุรกิจยูฟันในสายงานของเครือข่าย "Urich" ที่มีนายอภิเชษฐ์ แสนกล้า ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาเป็นหัวหน้าทีม โดยผู้ต้องหาทั้งสอง มีผลงานดีเด่นและได้รับรางวัล "Achievement Award" หรือ การลงมือทำยอดเยี่ยม ในงานเลี้ยงที่บริษัทยูฟันฯ ได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ชื่องานว่า "The Black Night Party By Urich"ซึ่งรางวัลดังกล่าวผู้ต้องหาได้มาจากการหาสมาชิกเข้ามาร่วมลงทุนจำนวนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้ต้องหานั้น ได้มีการทำธุรกรรมโอนเงิน-รับโอนเงินเกี่ยวกับผู้ต้องหาในคดีนี้จำนวนหลายราย ได้แก่ นายอภิเชษฐ์ แสนกล้า นายนิธิวัชร์ ฐิติภัทร์ปริยากร นางเพียรรัก ศักย์เจริญผล นายขลินทร์ภัฎ ริณธนาภัทร์ และบริษัท ยูฟันพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นต้น รวมเป็นเงินกว่า 37 ล้านบาท แบ่งเป็นของ น.ส.พรธิชากว่า 18 ล้านบาท และนายดำรงศักดิ์กว่า 19 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เสนอต่อศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับบุคคลทั้งสอง เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 58 และได้ติดตามแกะรอยและกดดันผู้ต้องหามาโดยตลอด จนในที่สุดผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ขอเข้ามอบตัวต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมายบ้านเมือง ส่วนทรัพย์สินของผู้ต้องหานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานร่วมกับ ปปง. ติดตามเส้นทางการเงินต่างๆ เพื่อติดตามอายัดและยึดทรัพย์สินกลับมาคืนให้กับผู้เสียหายนับพันรายทั่วประเทศต่อไป
...
"น.ส.พรธิชา อดีตมีอาชีพขายวัสดุก่อสร้าง ส่วนนายดำรงศักดิ์ อดีตเป็นวิศวกร ซึ่งทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน โดยทั้งคู่เคยทำธุรกิจขายตรงมาก่อน จึงถูกกลุ่มผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนีชักชวนมาทำยูฟัน จากนั้นได้ผันตัวเองและถูกปลุกปั้นให้เป็นนักธุรกิจหลักล้านบาท จนได้รับรางวัลดังกล่าวจากบริษัท ยูฟันฯ โดยมีเงินหมุนเวียนในบัญชีทั้งสองคนประมาณ 30 ล้านบาท มีผู้เสียหายและสมาชิกในสายงานกว่า 100 ราย โดยทั้งสองถูกกลุ่มผู้ต้องหาอุปโลกน์ให้รับรางวัลอันทรงเกียรติของบริษัทดังกล่าว เพื่อใช้ในการหลอกลวงประชาชน"
พ.ต.อ.อังกูร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้ ปคบ.กำลังเร่งขยายผลสืบสวนสอบสวนผู้ร่วมเครือข่ายยูฟันในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และภาคใต้ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เสนอต่อศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับตามลำดับ ซึ่งพบว่าใน จ.ภูเก็ต ยังคงมีผู้ร่วมขบวนการอีกประมาณ 10 ราย มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท พร้อมกับเร่งประสาน ปปง.ในการแกะรอยเส้นทางการเงินต่างๆ เพื่อติดตามอายัดและยึดทรัพย์สินที่เป็นเงินสดและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ มาคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป