ครบรอบ 22 ปี รร.รอยัลพลาซ่าโคราชถล่ม สังเวย 137 ศพ บรรดาผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศล และรำลึกโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ขณะเหยื่อบาดเจ็บระบุเวลาผ่านไปนานแต่ภาพเหตุการณ์ยังจดจำฝังใจ

เมื่อวันที่ 13 ส.ค.58 ที่ศาลาการเปรียญภายในวัดพระนารายณ์วรมหาวิหาร หรือ วัดกลาง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายทองขาว โคตรโยธา ประธานมูลนิธิสามัญศึกษาจังหวัดนครราชสีมา อดีตข้าราชการครูบำนาญ พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิฯ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนปัจจุบัน ครูและนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ รวมกว่า 100 คน รวมถึงผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่า ถล่มเมื่อวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2536 หรือผ่านพ้นมาได้เมื่อ 22 ปีก่อน อีกทั้งญาติผู้ที่เสียชีวิตต่างได้ร่วมกันทำบุญถวายภัตตาหารเพลให้กับพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 29 รูป เพื่อบอกกล่าวให้วิญญาณของผู้ล่วงลับไปแล้วได้รับรู้ว่ายังมีอีกหลายชีวิตที่ยังคงระลึกถึงเขาเหล่านั้นเสมอมา โดยมีการทำพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และมีพิธีสวดมาติกา พร้อมทั้งเผากระดาษรายชื่อของผู้เสียชีวิต ทั้ง 137 คน และร่วมกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่เคราะห์ร้าย

ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการส่งวิญญาณผู้เสียชีวิตที่ล่วงลับให้ไปสู่สุคติ และเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่มอีกทางหนึ่ง และยังเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในครั้งนั้นอย่างไม่มีวันลืมเลือน

...


สำหรับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสยองกรณีโรงแรมรอยัลพลาซ่า ถ.จอมสุรางค์ยาตร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถล่มเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.12 น. ของวันที่ 13 สิงหาคม 2536 หรือเมื่อ 22 ปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 137 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทุพพลภาพทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจอีกกว่า 300 คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นจะไม่มีวันลืม โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูสังกัดกรมสามัญศึกษาที่กำลังนั่งประชุมสัมมนาอยู่ภายในห้องประชุม จำนวน 47 คนที่เหลือเป็นพนักงานโรงแรม และแขกที่เข้าพักทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งจวบจนมาถึงในวันนี้ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตได้รวมตัวกันทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เคราะห์ร้ายเป็นประจำทุกปี

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ตึกโรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่มนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและสรุปสาเหตุ ซึ่งเกิดจากทางโรงแรมได้มีการต่อเติมอาคารเพิ่มจนทำให้ตัวอาคารรับน้ำหนักไม่ไหว และพังถล่มลงมา โดยในปี 2558 นี้ถือเป็นการครบรอบ 22 ปีของเหตุการณ์สยองครั้งนั้น ซึ่งปัจจุบันบริเวณสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์โรงแรมถล่มได้มีการรื้อซากอิฐปูนออกจากพื้นที่ไปหมดแล้วเหลือเพียงเป็นลานสถานที่โล่งกว้างรกร้างกลางเมืองที่ยังไม่ได้มีการใช้ประโยชน์จากสถานที่เดิมแต่อย่างใด แต่เหตุการณ์สยองขวัญดังกล่าวก็ยังอยู่ในความทรงจำของชาวจังหวัดนครราชสีมาตลอดมา

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันคดีได้ดำเนินไปจนถึงที่สุดแล้ว โดยตำรวจได้แจ้งข้อหาแก่ 6 ผู้บริหารของโรงแรม รวมทั้งวิศวกรผู้ออกแบบในข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และต่อมาศาลฎีกาก็ได้ตัดสินจำคุกนายบำเพ็ญ พันธุ์รัตนอิสระ วิศวกรผู้ออกแบบโรงแรมเป็นเวลา 20 ปี ส่วนผู้บริหารโรงแรมทั้ง 6 คนศาลได้สั่งยกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าเจ้าของโรงแรมไม่มีความผิด เพราะไม่มีความรู้ด้านการก่อสร้าง นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังได้ชดเชยเงินให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย.