เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 ส.ค. นายล้อม เพ็งแก้ว นักประวัติศาสตร์และนักวิชาการอิสระ พร้อมนายทองร่วง เอมโอษฐ์ ศิลปินแห่งชาติ พระครูวัชรสุวรรณาทร เจ้าอาวาสวัดใหญ่สุวรรณาราม เจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี นายสนธยา เสนเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบุรี นางพิศมัย ทองสมนึก ผอ.กลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี และสื่อมวลชน ได้เดินทางไปศาลาการเปรียญวัดพระทรง ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี หลังจากได้รับแจ้งว่าหนึ่งใน 2 ธรรมาสน์ วัดพระทรง หลังที่เป็นฝีมือของขุนศรีวังยศ อายุกว่า 100 ปี บนศาลาการเปรียญดังกล่าว ได้ถูกพระครูสังฆรักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระทรง องค์ปัจจุบัน รื้อส่วนประกอบจนเสียหาย และว่าจ้างช่างจากต่างจังหวัดมาบูรณะให้เป็นของใหม่ ก่อความเสียหายในเชิงช่างศิลป์เมืองเพชรบุรีอย่างประเมินค่ามิได้
นายปรเมศฐ์ พึ่งแตง บุตรชายนายเฉลิม พึ่งแตง ช่างปูนปั้นชั้นครูเมืองเพชร กล่าวว่า ตนเข้ามาดูธรรมาสน์ทั้ง 2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาพบว่ามีช่างเข้ามารื้อถอนชิ้นส่วนเพื่อซ่อมแซม ก็ตกใจเพราะเห็นมีการรื้อกระจกประดับตัวธรรมาสน์และกองทิ้งไว้ระเกะระกะบางส่วนก็อยู่ในถังขยะ จึงได้ทำทีว่าขอได้หรือไม่เศษกระจกเหล่านี้ ช่างที่ทำการซ่อมแซมก็บอกว่าเอาไปได้ ตนยิ่งแปลกใจใหญ่เพราะชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นของโบราณที่หาไม่ได้อีกแล้วแต่ทำไมการซ่อมแซมจึงทำแบบง่ายๆ ไม่คำนึงถึงคุณค่าของวัสดุโบราณที่สมัยนี้ไม่มีแล้ว อีกทั้งการซ่อมแซมดังกล่าว เชื่อว่าไม่มีแบบแผนที่ดีในการ ซ่อมแซม และจะทำให้คุณค่าของวัตถุโบราณสูญค่าไป จึงได้นำเรื่องไปปรึกษาหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่กระทั่งเป็นที่มาของการเข้ามาตรวจสอบในครั้งนี้
นายทองร่วง เอมโอษฐ์ ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่า รู้สึกตกใจและกังวลเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่มีการดำเนินการที่รอบคอบเพียงพอ ช่างที่จะมาดำเนินการต้องมีประสบการณ์และวางงานให้เป็นระบบ ยิ่งมีการรื้อถอนออกมาซ่อมแซมโดยไม่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบก็ยิ่งจะเปิดโอกาสให้มีการสูญหายเพิ่มเติม เพราะมิจฉาชีพพอทราบว่าชิ้นส่วนไหนสามารถถอดได้หรือสามารถหยิบฉวยได้ ที่สำคัญเจ้าอาวาสจะทำอะไรก็ต้องดำเนินการอย่างมีขั้นตอน เพราะท่านมีหน้าที่ดูแล บำรุงรักษาไม่ให้ชำรุดหรือสูญหาย แต่ไม่มีหน้าที่ที่จะไปดำเนินการซ่อมแซมเองโดยพลการ ต้องให้ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนไป ครั้งนี้ขอให้เป็นบทเรียนที่ผู้มีอำนาจต้องดำเนินการให้ทุกที่ ทุกแห่ง ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอน ไม่เช่นนั้น สิ่งของล้ำค่าที่ยังมีอยู่อีกมากมายหลายแห่งตามสถานที่สำคัญๆ จะได้ไม่เสียหายรวมทั้งมีการสูญหายต่อไปอีก
...
ส่วนนายล้อม เพ็งแก้ว นักประวัติศาสตร์และนักวิชาการอิสระ กล่าวว่า น่าเสียดายมากที่วัดได้กระทำโดยพลการ มิได้ปรึกษาผู้รู้เรื่องราวประวัติศาสตร์หรือช่างที่มีความรู้ทางด้านการจำหลักธรรมาสน์โบราณในรูปแบบของเชิงช่างเมืองเพชร ขุนศรีวังยศและทีมงานสมัยนั้นตั้งใจทำธรรมาสน์นี้ให้เป็น “วิมานเทวดา” ตามความเชื่อแต่โบราณ ความเสียหายครั้งนี้ ประเมินค่าไม่ได้ ดูเหมือนว่าเมื่อรื้อหลังนี้แล้ว หลังที่เก่ากว่านี้ที่อยู่ข้างๆก็จะถูกรื้อด้วยเพราะทำนั่งร้านไว้แล้ว การรื้อธรรมาสน์เพื่อทำใหม่ก็ทำอย่างขาดความระมัดระวัง งัดแงะจนของเก่าที่ทรงคุณค่าเสียหาย สำนักศิลปากรเขต 1 จ.ราชบุรี บอกให้ตนไปแจ้งความเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้ทำให้เสียหาย แต่ตนเชิญสื่อมวลชนมาเพื่อให้รับทราบทั่วกันก่อน “การลอกหรือแงะกระจัง นาค ครุฑ สัตว์ป่าหิมพานต์ ดาวเพดาน ที่ปรากฏบนธรรมาสน์ ทำอย่างไม่ระวัง นำลง มากองไว้ เหมือนเทวดาถูกเปลื้องเครื่องทรง ใครจะรับผิดชอบ หากเป็นไปได้ผมต้องการให้ยุติการซ่อมแซมนี้ไว้ก่อน แล้วให้ช่างเมืองเพชรที่มีฝีมือเข้ามาดำเนินการต่อ
ขณะเดียวกัน นายสนธยา เสนเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า ตนและตัวแทนสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดฯจะนำเรื่องนี้หารือนายมณเฑียร ทองนิตย์ ผวจ.เพชรบุรี ให้ทราบและเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหา โดยจะเชิญทุกฝ่ายมาประชุม พร้อมกันบนศาลาการเปรียญแห่งนี้ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ และร่วมหาทางออกให้แก่เรื่องนี้ต่อไป
ด้านพระครูสังฆรักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระทรง กล่าวว่า อาตมายินดีรับฟังข้อเสนอแนะ และให้ช่างยุติการซ่อมแซมไว้ชั่วคราว จนกว่าจะหาข้อสรุปร่วมกันในวันที่ 19 สิงหาคม ทั้งนี้อาตมาเห็นว่าธรรมาสน์หลังนี้อยู่ในสภาพทรุดโทรม จึงคิดจะจัดทำให้สวยงาม มิได้มีเจตนาทำให้เสียหายแต่อย่างใด เมื่อมีการท้วงติง ก็ยินดีรับฟังเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาต่อไป.