แม่ที่อุบลราชธานี ขอให้มีปาฏิหาริย์ในวันแม่ หลังดูแลลูกชายวัย 3 ขวบ ที่ป่วยมะเร็งลูกตาระยะสุดท้ายมากว่า 2 ปี จนทุกวันนี้สองคนผัวเมียต้องเข้าวัดทำบุญทุกเช้า อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร พร้อมอธิษฐาน ขอให้ลูกน้อยหายป่วย...     

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ส.ค. 58 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.อุบลราชธานี ได้เดินทางไปพบกับ น.ส.นิสาชล ธานี คุณแม่ยังสาววัย 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 186 หมู่ 15 บ้านดงแสนสุข ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งทุกวันในช่วงเช้าเธอ และสามีจะพากันเข้าวัด เพื่อทำบุญอุทิศ สวดมนต์ นั่งเฝ้าอธิษฐานขอให้ลูกน้อย ด.ช.ภตกร สัตยากูล หรือน้องกรวัย 3 ขวบ หายจากโรคมะเร็งดวงตา ระยะสุดท้ายที่น้องกรต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากว่า 2 ปี พร้อมกับทำบุญอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของน้องกร เพื่อให้น้องกรหายเจ็บปวดจากโรคมะเร็ง

น.ส.นิสาชล ได้เล่าถึงน้องกรว่า น้องกรเริ่มมีฝ้าในตาดำข้างซ้ายเมื่อตอนอายุได้ 8 เดือน จากนั้นตนเองได้พาไปที่คลินิกเอกชนในตัวเมือง แต่หมอบอกว่ารักษาไม่ได้ ให้ไปที่โรงพยาบาลพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เพื่อให้หมอเฉพาะทางทำการรักษา แต่สุดท้ายหมอได้ทำเรื่องส่งตัวน้องกรไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลขอนแก่น โดยหมอที่โรงพยาบาลขอนแก่นได้ทำการตรวจอย่างละเอียดสรุปว่า น้องกรเป็นมะเร็งในลูกตาชนิดรุนแรง ต้องผ่าตัดเอาลูกตาออก แต่จะต้องรอดูสภาพร่างกายของน้องด้วยว่า จะรับการผ่าตัดได้แค่ไหน ระหว่างที่รอดูอาการเชื้อมะเร็งได้ลามไปดวงตาข้างขวา จนทำให้ดวงตาข้างขวาของน้องกรฝ่อ ตามองไม่เห็นทั้งสองข้าง ซึ่งหมอที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ แจ้งว่าอาการรุนแรงมาก หากผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกโอกาสที่จะเสียน้องกรไปมีมากกว่าที่น้องจะหาย ทางครอบครัวจึงตัดสินใจร่วมกันว่า จะรักษาด้วยสมุนไพรแทน โดยตนเองและแฟนได้พยายามค้นหาสมุนไพร แพทย์แผนปัจจุบัน แผนโบราณ ทุกอย่าง ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ไกลเพียงไหน ถ้าใครบอกว่ารักษาโรคมะเร็งได้ตนกับแฟนก็จะไปหามารักษาน้องกรทันที แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งโรคร้ายได้

...

แม่วัย 31 ปี ยังกล่าวด้วยว่า ล่าสุดเมื่อประมาณ 4 เดือนก่อน น้องกรเกิดอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดติดเชื้ออย่างรุนแรง หายใจเองไม่ได้ หมอบอกว่ายังไงคืนนี้น้องคงจะไม่รอด แต่ตนเองและแฟนขอให้หมอช่วยน้องอย่างเต็มที่ ทั้งให้ออกซิเจนช่วยหายใจ เลือด น้ำเกลือ ยา ระหว่างนั้นตนได้สวดมนต์ทำบุญกรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวรของน้องกร อธิษฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้น้องอาการดีขึ้น น้องกรนอนอยู่ห้องไอซียูเพียง 2 วัน ก็สามารถกลับมาหายใจเองได้ อยู่โรงพยาบาลต่ออีกประมาณ 2 อาทิตย์ ก็กลับบ้านได้ ซึ่งคุณหมอเจ้าของไข้บอกว่าเป็นปาฏิหาริย์ ที่น้องกรสามารถผ่านวิกฤติโคม่ามาได้

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา ตนเองต้องออกจากงานขายกาแฟโบราณ มาดูแลลูกชายอย่างเต็มตัว และหันมาขายอาหารเสริมทางอินเทอร์เน็ต ควบคู่กับการหายา และวิธีการรักษาลูกชายพร้อมๆ กับมีความคิดว่าโรคที่น้องกร เป็นอยู่ขณะนี้อาจจะเป็นโรคกรรมตามความเชื่อของชาวพุทธ นับตั้งแต่ที่น้องกรรักษาตัวในห้องไอซียู ตนจึงได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของน้องมาตลอด ซึ่งอาจจะมีส่วนทำให้น้องกรอาการดีขึ้นจนออกจากโรงพยาบาลได้ ดังนั้นทุกๆ เช้าจึงไปทำบุญใส่บาตร ไหว้พระ สวดมนต์ อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้พบหนทางที่รักษาน้องกรหายจากมะเร็งร้ายที่เป็นอยู่ จากนั้นจะกลับมาทำความสะอาดแผลที่ดวงตา ป้อนข้าว เช็ดตัว ช่วยที่บ้านขายของทุกวัน

เมื่อสอบถาม น.ส.นิสาชล ถึงวันแม่ที่จะถึงนี้ เคยคาดหวังอะไรบ้างไหม น.ส.นิสาชล กล่าวด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าว่า คิดอยู่เพียงอย่างเดียวว่า ลูกต้องหาย จะต้องมีปาฏิหาริย์ เพราะน้องกรเก่งมาก สู้มาตลอด

"หากถามว่า อยากให้น้องมาไหว้ไหม ทุกวันนี้น้องไหว้ตลอด หลังจากที่ทำแผลเสร็จแล้ว น้องกรก็จะยกมือไหว้ตลอด น้องสามารถรับรู้ โต้ตอบได้ทุกอย่าง แต่ไม่พูด ใช้การตีมือแม่แทน ถ้าถามน้องกรกินข้าวไหมลูก หากกินก็จะตีมือกับแม่ หากไม่ก็จะดิ้นและร้องแทน พูดถึงกำลังใจก็บอกได้ว่ามีกำลังใจดี มีญาติพี่น้อง รวมถึงคนในโซเชียลเข้ามาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง บางรายยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โอนเงินเข้ามาให้โดยที่ไม่ถามสักคำว่า น้องเป็นอย่างไรบ้าง บอกเพียงสั้นๆ ว่าดูแลเค้าให้ดีนะ ผมรู้ว่ามันเป็นอย่างไร แค่คำพูดแค่นี้ทำให้ถึงกับเข่าอ่อน เพราะดีใจว่ายังมีคนที่ใจดีและเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของเรา" น.ส.นิสาชล กล่าว

ส่วนเงินบริจาคที่ได้มา ครอบครัวได้นำมากั้นห้องพร้อมติดเครื่องปรับอากาศให้น้องกร ป้องกันการติดเชื้อและซื้อเครื่องกรองน้ำชนิดพิเศษให้กับน้องกรโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีหลายคนจะโอนเงินมาให้ แต่ได้ขอให้นำไปช่วยคนอื่นที่ยังลำบากกว่าน้องกร บางท่านถามว่า "เธอรวยนักเหรอที่ไม่รับ" อันที่จริงแล้วตนเองไม่ได้รวยแต่ทุกวันนี้ตนและครอบครัวสามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังมีอีกหลายครอบครัวที่ลำบากกว่าต้องการความช่วยเหลือ จึงอยากให้ส่งความช่วยเหลือไปยังคนเหล่านั้น แค่ทุกวันนี้มีห้องปลอดเชื้อและเครื่องกรองน้ำดีๆ ให้ลูกชายก็พอใจแล้ว อุปกรณ์การทำแผล และค่ารักษาพยาบาลส่วนหนึ่งก็สามารถเบิกได้จากอนามัยในพื้นที่ มีเพียงยาบางตัวเท่านั้นที่ต้องซื้อ แต่ตนและครอบครัวก็สามารถที่จะหาได้ ใครที่อยากมาเยี่ยม อยากซื้ออาหารซื้อขนมมาให้น้องกร เชิญได้ตลอดเวลา ยินดีต้อนรับทุกท่าน อย่างไรก็ตาม ขอขอบพระคุณทุกกำลังใจและทุกความช่วยเหลือที่หยิบยื่นมาให้ และจะไม่ลืมพระคุณไปตลอดชีวิต น.ส.นิสาชล กล่าวในที่สุด.