ตร.เข้าตรวจสอบ จุดเกิดเหตุ ไฟไหม้ชุมชนวัดกัลยาณมิตรฯ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมประสานเขตธนบุรี ตั้งเต็นท์ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน เชื่อสาเหตุไม่เกี่ยวข้อพิพาทวัดดัง คาดไฟฟ้าลัดวงจร รอ พฐ.สอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนวัดกัลยาณมิตรวรวิหาร ซอยอรุณอมรินทร์ 6 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กทม. เมื่อช่วงเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา โดยชุมชนดังกล่าวมีลักษณะเป็นชุมชนแออัดเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงทำงานยากลำบากทำให้มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายไปกว่า 10 หลัง จนมีการตั้งข้อสังเกตว่า จะเกี่ยวข้องกับกรณีพิพาทกันระหว่างวัด ชาวบ้าน และกรมศิลปากรที่กำลังเป็นข่าวดังหรือไม่

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ส.ค. พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ ผดุงจันทน์ ผกก.สน.บุปผาราม พร้อม พ.ต.อ.วรวิทย์ ญาณจินดา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.บุปผาราม พ.ต.ท.ดร.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว สว.สส.สน.บุปผาราม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำกำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยเข้าปฏิบัติงานในซากบ้านต้นเพลิงเลขที่ 241 ภายในชุมชนดังกล่าว ร่วมกับ นางสุภา สิทธิวิบูลย์ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน ใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเชิญตัว นางสุภา เข้าให้ปากคำที่ สน.บุปผาราม อย่างละเอียดอีกครั้ง

นางสุภา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและสามีกับลูกชายกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในบ้าน จู่ๆ ก็ต้องตกใจตื่นเมื่อมีแสงเพลิงและกลิ่นควันไฟโชยมาจากระเบียงบ้านบนชั้นที่ 2 จากนั้น นายเกรียงไกร สิทธิวิบูลย์ อายุ 57 ปี สามี ก็รีบวิ่งออกไปหยิบถังดับเพลิงจากกลางซอยมาฉีดเพื่อควบคุมแต่เอาไม่อยู่ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ถูกไฟลวกที่มือและขา กระทั่งแสงเพลิงลุกลามไปติดบ้านข้างเคียงจนเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามเข้าช่วยเหลือ และระงับเหตุการณ์เอาไว้ได้ ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบจริงๆ ว่าเกิดจากอะไร ส่วนสายไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านก็เก่าไปตามกาลเวลา

ขณะที่ พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบความเสียหายในขณะนี้พบบ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น จำนวน 12 หลัง มีผู้ประสบอัคคีภัยได้รับความเดือดร้อนประมาณ 60 ราย ได้ประสานสำนักงานเขตธนบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร และ กต.ตร.สน.บุปผาราม มาตั้งเต็นท์นำอาหารและน้ำดื่มมาแจกจ่ายแล้ว รวมถึงนำทีมพนักงานสอบสวนมาตั้งโต๊ะรับแจ้งความ ให้บรรดาเจ้าบ้านมาชี้แจง ว่า มีทรัพย์สินใดบ้างที่ได้รับความเสียหาย

“ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตกันไปว่า เพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดจากกรณีพิพาทระหว่างชาวบ้านและวัดในทำนองเผาไล่ที่นั้น ไม่เป็นความจริงแน่นอน เนื่องจากชาวบ้านในชุมชนซีกที่เกิดเหตุ ไม่มีปัญหากับฝ่ายใด ประกอบกับบ้านเรือนก็ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับกำแพงวัด สำหรับสาเหตุตนเชื่อว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานส่งผลตรวจพิสูจน์กลับมาประกอบสำนวนคดีเสียก่อน” พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ กล่าว.

...