เกษตรจังหวัดพัทลุงมั่นใจ! ผลผลิตไม้ผลในฤดูกาลนี้ มูลค่าไม่น้อยกว่า 260 ล้านบาท พร้อมฝากให้เกษตรกรผลิตเป็นผลไม้อินทรีย์ ปลอดสารพิษ เนื่องจากตลาดต้องการสูงและนับเป็นการสร้างจุดยืนให้แตกต่างจากผลไม้ภาคอื่นด้วย
นายสนิท พลปฐพี เกษตรจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า หลังจากที่ยางพารา และข้าวมีราคาตกต่ำ เกษตรกรได้หันมาปลูกไม้ผลแบบผสมผสานมากขึ้น ล่าสุดพบว่า ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง มีเกษตรกรปลูกไม้ผลประมาณ 36,639 ไร่ โดยแยกเป็นมังคุด 14,500 ไร่, ลองกอง 13,500 ไร่, เงาะ 4,669 ไร่ และทุเรียน 4,005 ไร่ หากผลไม้ทั้งหมดให้ผลผลิตเต็มที่จะมีผลผลิตประมาณ 32,500 ตัน/ปี
จากการคาดการณ์ในฤดูกาลนี้ จะมีผลผลิตไม่น้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ แยกเป็นมังคุด 5,200 ตัน, ลองกอง 1,600 ตัน เงาะ 4,200 ตันและทุเรียน 1,300 ตัน รวมประมาณ 12,300 ตัน คิดเป็นเงินมูลค่า 260 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ผลิตไม้ผลไม่ต่ำกว่า 20 กลุ่ม โดยในแต่ละกลุ่มมีกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย และได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ที่มีคุณภาพสูง
นายสนิท กล่าวต่อว่า สำหรับเกษตรกรชาวพัทลุง จะต้องตั้งเป้าร่วมกันว่าผลไม้ที่ออกมาจะเป็นแบบไหน จะเป็นผลไม้เคมีเพื่อการค้า ผลไม้ปลอดภัย หรือผลไม้อินทรีย์ หากผลิตแบบผลไม้เคมีเพื่อการค้าคงสู้ภาคตะวันออกไม่ได้ แต่หากชาวพัทลุงตั้งเป้าเป็นผลไม้อินทรีย์โดยเริ่มจากลด ละ เลิก สารเคมีก็จะเป็นจุดยืนที่จะสามารถสู้กับผลไม้จากภาคอื่นได้ และที่สำคัญผลผลิตอินทรีย์นั้นได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในและต่างประเทศ ตนมั่นใจว่าหากเกษตรกรพัทลุงมีการทำสวนผลไม้ให้มีคุณภาพสูง จะทำให้ผลไม้จากจังหวัดพัทลุงมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างแน่นอน.