การจากที่ EU ให้ใบเหลืองประมงไทย ทำให้เรือประมงที่ จ.สมุทรสาครกว่า 3,000 ลำ ต้องหยุดเดินเรือ ซึ่งส่งผลไปยังธุรกิจต่อเนื่องจากการทำประมงด้วย เรียกได้ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการใน จ.สมุทรสาคร ล้มไปตามๆ กัน เหมือนโดมิโน่

วันที่ 20 ก.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานถึง ผลกระทบปัญหาชาวประมงที่ไม่มีใบอาชญาบัตรตรงตามประเภทของเรือ ส่งผลทำให้ EU ออกใบเหลืองให้กับประมงไทย ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนที่ทำอาชีพประมงหรือประกอบธุรกิจเรือประมง ซึ่งขณะนี้ไม่เพียงกระทบแค่ชาวประมงเท่านั้นยังส่งผลไปยังธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้ไปสัมภาษณ์ นายกิตติทรรศน์ สิริลัคนานนท์ ผู้ประกอบอาชีพทำธุรกิจแพปลาสมุทรสาคร ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การที่เกิดปัญหานี้ส่งผลกระทบไปยังธุรกิจหลายอย่างใน จ.สมุทรสาคร เช่น ธุรกิจโรงน้ำแข็ง โรงงานแปรรูป และอู่ซ่อมเรือ เป็นต้น เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้อาศัยการประมงเป็นหลัก ยกตัวอย่าง เช่น ธุรกิจน้ำแข็ง ซึ่งต้องนำน้ำแข็งมาแช่อาหารทะเล เพื่อรักษาความสดใหม่ ก่อนส่งขึ้นแพปลาบนฝั่ง ปัญหาใบเหลืองของประมงไทยส่งผลให้โรงน้ำแข็งปิดตัวไป เนื่องจากขาดทุน อีกทั้งค่าไฟฟ้าที่แพง ไม่คุ้มค่าผลิต ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจหรือคนที่ทำธุรกิจเพียงอย่างเดียว ยังส่งผลกระทบไปถึงลูกจ้างและคนรอบข้าง ส่วนตนทำอาชีพนี้มากว่า 20 ปี จะให้ตนเปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่นตอนนี้ก็คงไม่ทัน ในทางเดียวกันถ้าจะต้องปลดลูกจ้างก็ไม่รู้จะหาใครแทน เนื่องจากอาชีพประมงเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยอยู่กลางทะเลร่วมเดือน คนสมัยใหม่สู้งานเหล่านี้ไม่ไหว จำเป็นต้องจ้างแรงงานต่างด้าวซึ่งพร้อมและมีค่าจ้างที่ถูกกว่า อีกทั้งการใช้แรงงานต้องคำนึงถึงความถนัดของแต่ละคน ฉะนั้นถ้ารัฐยกเลิกการใช้อวนบางชนิดก็ต้องมีการฝึกคนงานใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลานาน ตอนนี้เศรษฐกิจของ จ.สมุทรสาคร กระทบเป็นโดมิโน่ เพราะ จ.สมุทรสาคร มีอาชีพการประมงเป็นหลัก ฉะนั้นเมื่อเกิดปัญหากับธุรกิจหลักเช่นนี้ ธุรกิจอื่นๆ ก็พลอยล้มไปด้วย

...

ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ต่อไปยัง นางกนกวรรณ มณีโรขจน์ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงน้ำแข็ง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเรือประมง กล่าวว่า จากเดิมที่เคยส่งน้ำแข็งได้วันละ 1,000 ถุง ขณะนี้เหลือเพียงวัน 300 ถุง ส่วนหนึ่งมาจากเรือประมงที่หยุดเดินเรือกว่า 3000 ลำ ทำให้การส่งน้ำแข็งลดลง จนโรงน้ำแข็งบางที่ต้องปิดตัว ซึ่งโรงน้ำแข็งของตนนั้นยังรอดูสถานการณ์อยู่ ขณะนี้พนักงานของตนยังทำงานกันอย่างปกติ ยังไม่ตัดสินการปลดพนักงานแต่อย่างใด เพราะงานโรงน้ำแข็งจะต้องใช้แรงงานที่มีฝีมือในการอัดน้ำแข็งเข้าไปในเรือ สำหรับแช่อาหารทะเล ตอนนี้ทุกคนต่างเฝ้าดูสถานการณ์ในวันที่ 1 ส.ค. 58 ที่จะมีการเปิดอ่าว โดยจะมีเรือประมงจากนอกน่านน้ำเข้า-ออกจำนวนมาก รวมไปถึงเรือที่ออกไปหาปลาในทะเลอาจจะกลับเข้าฝั่ง อีกทั้งเรือที่ขอใบอาชญาบัตรไป ซึ่งจะหมดเขตในวันที่ 31 ก.ค. นี้ สรุปได้ว่าขณะนี้ผู้ประกอบการธุรกิจน้ำแข็งส่วนใหญ่ยังคงเกาะติดสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาชาวประมง เพราะปัญหาดังกล่าวมีผลกระทบต่อธุรกิจใน จ.สมุทรสาคร เป็นอย่างมาก

ทางด้าน นายสัญญา บุญมี ผู้ประกอบกิจการอู่ซ่อมเรือ ได้กล่าวว่า ธุรกิจของตนได้รับผลกระทบจากปัญหาชาวประมงเป็นอย่างมาก เรือประมงที่เข้ามาซ่อมกับทางอู่ติดค่าซ่อมอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ทางอู่ต้องติดค่าอะไหล่ซ่อมเรือกับทางบริษัทเช่นกัน ทั้งนี้ทุกฝ่ายต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาในขณะนี้และพึ่งพาอาศัยกันไป บางอู่ปิดให้บริการไปแล้วเพราะรับมือกับปัญหาดังกล่าวไม่ไหว ส่วนอู่ที่ยังเปิดให้บริการอยู่นั้นก็เงียบมาก เนื่องจากเรือที่เคยแวะเวียนมาซ่อมอยู่เป็นประจำหยุดวิ่ง ส่วนบางลำก็ออกทะเลไป ลูกจ้างภายในอู่ซึ่งเป็นคนไทย ต้องหารายได้เสริมด้วยการขับมอเตอร์ไซค์วินเป็นการหารายได้เพื่อมาเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว

ด้าน นางพร ชัยมงคล แม่ค้าอาหารทะเลสดในตลาดแม่พวง มหาชัย กล่าวต่อว่า ปริมาณอาหารทะเลที่รับมาขายนั้นลดลงกว่าเดิมมาก เนื่องจากเรือหยุดเรือเดินทำให้สินค้าลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้ามีการปรับขึ้น-ลงทุกวัน ส่วนผู้ประกอบการร้านอาหารมียอดสั่งซื้ออาหารทะเลลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากลูกค้าไม่ค่อยมารับประทานอาหารที่ร้าน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากรายได้ที่น้อยลง รวมถึงเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างมากใน จ.สมุทรสาคร ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องรัดเข็มขัด และบริโภคอาหารที่พอจะมีกำลังซื้อ

...