หลายอาชีพบนโลกใบนี้กว่าร้อยละ 90 คนขายมักเป็นฝ่ายง้อคนซื้อ มีไม่กี่อาชีพที่คนซื้อเป็นฝ่ายตามตื๊อง้อคนขาย และก็มีบางอาชีพที่คนขายและคนซื้อ ต่างผลัดกันเป็นฝ่ายง้อ ขึ้นอยู่กับสินค้านั้นหายากและตลาดมีความต้องการมากเพียงใด
เฟอร์นิเจอร์ไม้งานช่างยุคเก่า จัดอยู่ในข่ายอาชีพประเภทหลังสุด
ณรงค์ น้อยสุข ช่างไม้ประจำร้าน “อัญชลี” เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า แถวใต้ทางด่วนหมอชิตใหม่ ถ.กำแพงเพชร 2 บอกว่า ทุกวันนี้ลูกค้าที่ซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า มีทั้งเจ้าของบ้านที่ต้องการนำไปตกแต่งบ้านตัวเอง และนักตกแต่งภายใน หรืออินทีเรีย ที่รับจ้างตกแต่งบ้าน หรือแต่งร้านให้แก่ลูกค้า
เขายกตัวอย่าง ลูกค้าบางคนมีบ้านทรงไทย อยากได้ตู้ไทยไว้ใส่ถ้วยชามเบญจรงค์โชว์ หรืออินทีเรียบางราย ออกแบบบ้าน ร้านค้า โฮมสเตย์ หรือรีสอร์ต ให้ลูกค้าของเขาในสไตล์ย้อนยุค ถ้าไม่ทำขึ้นมาใหม่ ก็ต้องไปเลือกหาซื้อเอาตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า ซึ่งมีแหล่งใหญ่อยู่แถวใต้ทางด่วนหมอชิต 2 กับหลังตลาดนัดจตุจักร
“ของพวกนี้บางทีตกทอดมาถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน แต่ลูกหลานซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไม่ชอบ อยากได้เฟอร์นิเจอร์รูปทรงทันสมัย หรือต้องการรื้อทิ้ง เพื่อปรับปรุงภายในบ้านใหม่หมด เขาจะขายของพวกนี้ให้เรา”
รงค์บอกว่า แหล่งที่มาของสินค้า ยังคงมีให้เลือกหา ทั้งตามต่างจังหวัด แถบอยุธยา อัมพวา อ่างทอง หรือแม้แต่ตามบ้านเรือนรุ่นเก่าในกรุงเทพฯ เช่น เมื่อครั้งที่มีการรื้อตลาดเวิ้งนครเกษม นอกจากนี้ บางทีก็ใช้วิธีไปซื้อต่อมาจากนักล่าของเก่าตามบ้านอีกทอด แล้วแต่โอกาส
เขาบอกว่า ผู้ที่จะมาทำอาชีพนี้ อย่างแรก ต้องมีความรู้เรื่องของเก่า เช่น ดูเฟอร์นิเจอร์เก่าเป็นว่าเป็นงานยุคใด มีจุดเด่น คุณค่า หรือเรื่องราวอะไรน่าสนใจบ้าง เป็นฝีมือช่างชาวบ้าน หรือช่างหลวง เป็นต้น
...
ถัดมา ต้องรู้ราคาซื้อขายในตลาด ถ้าไม่รู้ก็เหมือนคนตาบอดหรือตกควาย
“เฟอร์นิเจอร์เก่าทุกชิ้น จะมีราคากลางในตลาดที่เล่นหา แต่ไม่มีราคาตายตัว ขึ้นอยู่กับความพอใจของคนซื้อกับคนขาย สมมติว่า ชิ้นนั้นราคากลางในตลาดเล่นกันอยู่ที่ 7,000 บาท เราจะไปตั้งราคาแพงจนเว่อร์เป็น 30,000 บาท อย่างนี้ไม่มี เพราะคนที่เล่นเขาก็รู้ราคากลาง”
อย่างที่สาม ต้องมีช่างไม้ฝีมือดีในสังกัด เพื่อไว้ซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์เก่าที่ชำรุดเสียหายให้อยู่ในสภาพดีดังเดิม หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับสภาพของเดิมมากที่สุด
รงค์ว่า ความยากของการซ่อมงานไม้เก่า นอกจากต้องได้ช่างที่เก่งงานไม้พอตัว ยังต้องเก่งงานแต่งสี หรือทำย้อมสีให้ดูเก่าด้วย เพราะบางทีถ้าหาไม้เก่ายุคเดียวกันมาซ่อมไม่ได้ ต้องใช้ไม้ที่มีเนื้อใหม่กว่ามาซ่อม ทำยังไงจึงจะซ่อมออกมาแล้ว สีไม้ดูกลมกลืนกัน หรือเข้ากับสีไม้ของเดิม ดูแล้วไม่หลอกตา นี่คือความท้าทาย
ณรงค์บอกว่า อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ต้องมีทุน หรือ สายป่านยาวพอ เพราะอาชีพนี้กำไรน้อย บวกกับโอกาสที่จะขายได้ขึ้นอยู่กับจังหวะที่ลูกค้าจะใช้ของ จึงจะมาซื้อ
เขายกตัวอย่าง โต๊ะบัญชีไม้สักเก่า ทรงข้างโค้ง อายุเกือบร้อยปี ความกว้าง 90 ซม. ยาว 1.50 เมตร สูง 86 ซม. ถ้าได้มาในสภาพเดิมๆ ถือว่าโชคดี
เพราะไม่ต้องซ่อมให้เสียเวลาและค่าใช้จ่าย สามารถขายต่อตามสภาพได้เลย เขาว่า สมมติต้นทุนซื้อมาตัวละ 9,000 บาท อาจจะขายไปในราคาตัวละ 10,000-11,000 บาท ก็พอแล้ว
“แต่ถ้าได้มาในสภาพต้องเอามาซ่อมก่อนขาย หลังจากหักค่ารถขน ค่าแรงช่าง ค่าเช่าที่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าวัสดุที่ใช้ซ่อมแซม ต้องบวกกำไรเข้าไปอีกสัก 20% จึงจะคุ้ม เพราะยังไม่รู้ว่าเมื่อไรจะขายได้ บางวันตั้งโชว์แค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็มีคนมาซื้อไป แต่บางชิ้น ตั้งโชว์ไว้เป็นปีก็ยังขายไม่ได้ ยิ่งตั้งราคาสูง จึงยิ่งขายยาก”
ช่างรงค์บอกว่า สินค้าเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า เคยเฟื่องฟูสุดขีดในยุครัฐบาล พล.อ.ชาติชาย เพราะช่วงนั้นเงินหาง่าย มีคนซื้อบ้านไว้เก็งกำไรขายต่อกันเยอะ จึงซื้อของพวกนี้ไปตกแต่งบ้านเยอะตามไปด้วย
“เทียบกับภาวะเศรษฐกิจทุกวันนี้ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่าง กลายเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย หรือส่วนเกินของชีวิต ช่วงเศรษฐกิจดีๆพวกทำรีสอร์ตเคยมาซื้อโต๊ะ ตู้ เตียงกับเรา พอเศรษฐกิจแย่ นักท่องเที่ยวเริ่มไม่เข้าพัก เขาก็พักการตกแต่งไว้ก่อน ทุกวันนี้อาชีพนี้จึงต้องอยู่แบบประคองตัวไปวันๆ”
อารมณ์เดียวกับ ศุภฤกษ์ ศุภพิทักษ์ไพบูลย์ หรือ บอส เจ้าของร้านบางกอกเฟอร์นิเจอร์เก่า วิศวกรหนุ่มซึ่งลาออกจากงานประจำ มาเป็นวิศวกรที่ปรึกษา (ทำงานแบบบางช่วงหรือพาร์ทไทม์) เพื่อจะได้คลุกคลีกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าแสนรักที่เขาชื่นชอบอย่างเข้าเส้นเลือด
บอสบอกว่า กลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นลูกค้าของเขา โดยมากเป็นผู้ใหญ่วัยระหว่าง 40-70 ปี ค่อนข้างมีฐานะ ลูกค้ากลุ่มนี้มักเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ยุคได้สมัยกับตัวเอง หรือตัวเองทันเคยเห็นเคยใช้มาก่อนในอดีต ต้องการตามเก็บของเหล่านี้ไว้เพื่อการอนุรักษ์ หรือเพราะอาจมีความชื่นชอบเป็นส่วนตัว
เขาบอกว่า แหล่งที่มาของสินค้าในร้าน โดยมากได้จากการมีสายข่าว ช่วยหาของป้อนให้
“สายของผมส่วนใหญ่เป็นทนายความ เขาจะรู้ดีว่า ช่วงนี้บ้านไหนกำลังมีปัญหา ต้องการจะระบายหรือขายทรัพย์สินบางอย่าง เช่น โต๊ะ ตู้ หรือเตียง ซึ่งทำจากไม้สัก อีกส่วนเป็นพวกนักสะสมที่เคยเล่นหา ภายหลังเสียชีวิตลง รุ่นลูกไม่ชอบของตกแต่งบ้านแนวนี้ จึงไม่อยากเก็บ เอามาขายให้เรา”
วิศวกรหนุ่มบอกว่า ลูกค้าของเขากว่าร้อยละ 70 เป็นเจ้าของรีสอร์ต และโฮมสเตย์ ผู้มีรสนิยม มีทั้งรีสอร์ตหรือโฮมสเตย์แถวอัมพวา (สมุทรสงคราม) เขาใหญ่ (นครราชสีมา) เชียงใหม่ เชียงคาน (เลย) คนกลุ่มนี้ชอบใช้เฟอร์นิเจอร์รูปทรงโบราณคลาสสิก ทำจากไม้จริง ทั้งตู้ โต๊ะ เตียง และป้ายไม้ ซึ่งเป็นงานฝีมือช่างรุ่นเก่าที่อ่อนช้อยประณีต และหาชมได้ยากในปัจจุบัน
...
“ลูกค้ามักจะซื้อไปตกแต่งเพื่อยกระดับ หรืออัพเกรดที่พัก ตอนช่วงเศรษฐกิจดีๆ บางทีเคยซื้อกันครั้งละเป็นแสนบาท แต่เดี๋ยวนี้พอรีสอร์ตกับโฮมสเตย์เริ่มไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าพัก พลอยทำให้ยอดขายเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าหงอยเหงาตามไปด้วย อยากให้เศรษฐกิจกลับมาดีอีกครั้ง จะได้ซื้อง่าย ขายคล่อง” บอสว่า
สถานการณ์ข้างต้น ไม่ต่างกันมากนักกับสถานการณ์ของ กาจเกษม กุลวุฒิ เจ้าของร้านไม้ไม่แพง ภายในห้างเจเจ เอาต์เลต ริม ถ.กำแพงเพชร 2 ด้านหลังตลาดนัดจตุจักร
“มันเงียบมันเหงามากเลยครับช่วงนี้ ส่วนใหญ่สินค้าที่ยังพอขายได้ มีแต่ตู้ชั้นวางทีวี โต๊ะทำงาน กับโต๊ะพร้อมเก้าอี้ชุดสำหรับใช้กินข้าว”
กาจเกษมบอกว่า พอขายได้นั้น หมายถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้สักเก่า จะขายได้เฉลี่ยเดือนละ 5-6 ชุด ราคาชุดละไม่เกิน 12,000-25,000 บาทเท่านั้น แพงกว่านี้ขายได้ยาก
กับอีกส่วนเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้รับแขก หรือใช้นั่งกินข้าว ทำจากไม้เต็ง ซึ่งเคยใช้ทำเป็นฝาบ้าน ทาสีสไตล์วินเทจ สินค้ากลุ่มนี้เป็นที่นิยมสำหรับร้านอาหารและร้านเหล้า เพราะทั้งถูกและทนทาน
บอสบอกว่า นาทีทองในชีวิตพ่อค้าเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าของเขา เคยเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
“ช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 54 บ้านไหนที่ใช้เฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน ทำจากไม้อัด ไม้จะปูดบวมเสียหายหมด จึงต้องมาหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงไปใช้แทน ช่วงนั้นของในร้านขายดีมาก มีเท่าไรขายจนเกลี้ยง”
แต่เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน หนุ่มบอสส่ายหัว
“เดี๋ยวนี้คนเริ่มกลับไปใช้เฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านแนวโมเดิร์น จำพวกอินเด็กซ์ หรืออิเกีย ทำจากไม้เนื้ออ่อน แต่ดีไซน์ทันสมัย ยอดขายเฟอร์นิเจอร์เก่าเลยอืด ยังดีที่มีกองถ่ายละครมาขอเช่าเฟอร์นิเจอร์เก่าไปเข้าฉาก ครั้งละ 3 วัน จ่ายค่าเช่า 30% ของราคาขาย เฉลี่ยมาเช่ากันเดือนละ 4–5 กองถ่าย ผมเลยรอดตัว” หนุ่มบอสอมยิ้มทิ้งท้าย.
...