“เฮียจั้ว” เจ้าของตลาดนัดแกรนด์ฮอลล์ พัทยาใต้ เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทยา ยืนยันไม่ได้รุมทำร้ายรองผู้กำกับกองปราบฯ ขณะเข้าไปจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เผยชนวนเหตุมาจากลูกน้องที่ไม่ได้เป็นตำรวจ...

จากกรณี พ.ต.ท.ขวัญพิชัย มะโนเจริญทรัพย์ รอง ผกก.หัวหน้าชุดสืบสวนปราบปรามปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการ 2 กองบังคับการกองปราบปราม และ ร.ต.ท.ระพีพงษ์ สารตี รองหัวหน้าชุดฯ ถูกเจ้าของตลาดและกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าภายในตลาดนัดแกรนด์ฮอล์ ซอยบัวขาว พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ล้อมกรอบแล้วรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ขณะเข้าไปจับร้านจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ก.ค.58 นายศุภกฤช อรรคเลิศลาภ หรือ “เฮียจั้ว” อายุ 61 ปี เจ้าของตลาด เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.อนุกูล ปรีดายุทธ พงส.ผทค.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยมีพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดจำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ และคอยประคอง นายศุภกฤช เวลาเดินเนื่องจากขาไม่ค่อยดีและป่วยโรคประจำตัว

...

โดย นายศุภกฤช ให้การว่า ความจริงแล้วตนไม่ได้ทำร้ายร่างกายตำรวจแต่อย่างใด ในวันเกิดเหตุมีกลุ่มผู้เช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าในตลาดมาบอกว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวว่าเป็นตำรวจมาจับร้านจำหน่ายแว่นตาในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ตนจึงเดินไปดู และพบชายคนหนึ่งซึ่งแต่งตัวสวมกางเกงยีนส์ขายาว ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว มีเสื้อกั๊กสีน้ำเงินเข้มสวมทับ แบบคนธรรมดาๆ และไม่ได้ห้อยบัตรประจำตัวที่ระบุว่าสังกัดหน่วยงานไหน ด้วยความสงสัยตนจึงสอบถามว่าได้เป็นตำรวจหรือไม่ แต่เบื้องต้นชายคนดังกล่าวไม่ยอมตอบ และพยายามจะเก็บแว่นตาทั้งหมดที่วางอยู่บนแผงใส่ถุงโดยอ้างว่าเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

ระหว่างนั้น พ.ต.ท.ขวัญพิชัย มะโนเจริญทรัพย์ ได้เดินเข้ามาแสดงตัวว่าเป็นตำรวจกองปราบปราม ตนจึงขอดูบัตรประจำตัว พ.ต.ท.ขวัญพิชัย จึงควักกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วเปิดให้ดู แต่พยายามใช้มือปิดบังบัตรไม่ให้เห็นรายละเอียดว่าอยู่สังกัดไหน ตนเลยพยายามจะดึงบัตรมาดูจนเกิดการยื้อแย่งกันเล็กน้อย จากนั้น พ.ต.ท.ขวัญพิชัย จึงรีบเก็บกระเป๋าสตางค์ทันที ตนจึงสอบถามชายสวมเสื้อกั๊กอีกครั้งว่าเป็นตำรวจหรือไม่ ชายคนนั้นจึงหันมาบอกว่า “ไม่ได้เป็นตำรวจ” ตนจึงทักท้วงไปว่าถ้าไม่ใช่ตำรวจแล้วจะมาเอาสินค้าของคนอื่นไปได้อย่างไร และทำเหมือนโจรมาปล้นสินค้าชาวบ้านมันไม่ถูกต้อง ด้วยความโมโหจึงพยายามจะเงื้อมือตบศีรษะ แต่ก็ถูกชายสวมเสื้อกั๊กใช้มือบีบคอ กลุ่มพ่อค้าที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่จึงกรูกันเข้ามาช่วยจนเกิดชุลมุนชกต่อยกันขึ้น ทาง พ.ต.ท.ขวัญพิชัย กับ ร.ต.ท.ระพีพงษ์ สารตี ซึ่งเข้าไปห้ามปรามเลยถูกลูกหลงไปด้วย และขอยืนยันอีกครั้งว่าตนไม่ได้ลงมือทำร้ายตำรวจแต่อย่างใด

ด้าน นายนำพล ศาสตร์ตะคุ อายุ 26 ปี พ่อค้าขายแว่นตา เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุกลุ่มของ พ.ต.ท.ขวัญพิชัย เดินทางมาที่ร้านและแจ้งว่าร้านของตนจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างผิดกฎหมาย ต้องถูกจับกุมดำเนินคดี โดยที่ไม่ได้แสดงบัตรประจำตัวหรือเอกสารใบแจ้งความแต่อย่างใด ซึ่งหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ตรงเข้ามากระชากคอเสื้อและล็อคตัวไว้ ก่อนที่จะพยายามยึดแว่นตาทั้งหมดที่วางจำหน่ายภายในร้าน ซึ่งตนยอมรับว่ามีแว่นตาบางอันที่ละเมิดลิขสิทธิ์แต่บางอันไม่ใช่ ตอนแรกตนไม่ทราบว่าเป็นตำรวจจริงหรือปลอม เลยให้เพื่อนพ่อค้าด้วยกันไปตามเจ้าของตลาดมาพูดคุย จนกระทั่งเรื่องบานปลายและเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ส่วนทางด้านพ.ต.ท.ขวัญพิชัย เปิดเผยกับว่า ก่อนเกิดเหตุตนพากำลังเข้าไปจับกุมตามปกติระหว่างนั้นได้มีนายศุภกฤช อรรคเลิศลาภ หรือ “เฮียจั้ว” เข้ามาสอบถามพร้อมกับขอดูบัตรประจำตัวข้าราชการ ตนจึงควักให้ดูแต่นายศุภกฤช กับส่งบัตรประจำตัวให้คนใกล้ตัวใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายบันทึกไว้ ตนจึงดึงกลับมาเพราะตนยังไม่อนุญาตให้ถ่ายถือว่าละเมิดสิทธิ์ จึงมีปากเสียงกันจากนั้นนายศุภกฤช ชกตนจนล้มหัวเข่ากระแทกพื้นจนเป็นแผล ตนจึงพยายามแหวกฝูงชนที่มามุงดูเหตุการณ์เพื่อไปแจ้งความร้องทุกที่สภ.เมืองพัทยา แต่ถูกกลุ่มพ่อค้าและนายศุภกฤช ขัดขวางไว้จึงเกิดการชุลมุนขึ้นโชคดีที่มีคนเข้ามาห้ามตนถึงสามารถออกจากตรงนั้นได้แล้วเดินทางเข้าแจ้งความดังกล่าว

ทั้งนี้ พ.ต.อ.อนุกูล ปรีดายุทธ พงส.ผทค.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา นายศุภกฤช อรรคเลิศลาภ ว่าร่วมกันขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย แต่เนื่องจากเจ้าตัวเข้ามอบตัวเองภายหลังการสอบปากคำจึงได้ปล่อยตัวไปเพื่อไปสู้คดีในชั้นศาล อย่างไรก็ตาม คดีนี้ทางตำรวจพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน.

...