ศาลฎีกา พิพากษายืน รอลงอาญา 2 ปี พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา หรือ โอ๋สืบ 6 ผิด ม.157 ชี้ มีพยานหลักฐานชัดเจนว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดบุคคลที่ทำร้ายกลุ่มประชาชน
วันที่ 25 มิ.ย. อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 และ นายวิชัย เอื้อปิยะพันธุ์ กลุ่มต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา หรือ โอ๋ สืบ 6 อดีต ผู้กำกับการ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ปัจจุบันใช้ชื่อ พล.ต.ต. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการอำนวยการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
จากกรณีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2549 พล.ต.ต.ธนายุตม์ ขณะดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับการ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 เป็นเจ้าหน้าที่แต่กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่จับกุมกลุ่มบุคคลที่รุมทำร้ายกลุ่มประชาชน ที่ตะโกนขับไล่ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา จำคุก พล.ต.ต.ธนายุตม์ จำเลย เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 10,000 บาท แต่ไม่เคยต้องโทษจำคุก โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญา 2 ปี ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ต่อมาจำเลยยื่นฎีกา ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์และโจทก์ร่วม มีพยานหลักฐานเป็นแผ่นซีดีบันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะผู้เสียหายถูกทำร้าย และมีการถอดเทปคำพูดของ พล.ต.ต.ธนายุตม์ ที่พูดคุยกับกลุ่มบุคคลที่รุมทำร้ายโจทก์ร่วมและผู้เสียหาย เห็นว่า พล.ต.ต.ธนายุตม์ อยู่ในเหตุการณ์มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว ซึ่ง พล.ต.ต. ธนายุตม์ เป็นตำรวจมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิด แต่กลับละเลยไม่กระทำตามหน้าที่ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน
...
ภายหลังศาลพิพากษา มีรายงานว่า พล.ต.ต. ธนายุตม์ ได้หลบเลี่ยงสื่อมวลชนที่มารออยู่ด้านหน้าศาลอาญา โดยออกประตูด้านข้างศาลอาญาและเดินทางกลับทันที