ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ ลดการระบายน้ำเหลือวันละ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้มีน้ำใช้ได้ต่อไปอีก 50 วัน หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเอลนีโญ แต่ยืนยันไม่กระทบกับนาปีที่เพาะปลูกไปแล้วกว่า 2,480,000 ไร่...
วันที่ 12 มิ.ย. 58 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมตรอนตรีสินธุ์ ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ ชั้น 5 นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานชี้แจงสถานการณ์น้ำในเขื่อนสิริกิติ์ โดยมีนายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าฯ นายสุเทพ เลิศศรีมงคล ผอ.การเขื่อนสิริกิติ์ และนายบุณยลักษณ์ ฉลองสัพพัญญู ผอ.โครงการชลประทานจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมด้วย
ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ กล่าวว่า ปีนี้นักวิชาการด้านอุตุนิยมวิทยายืนยันว่าเกิดเอลนีโญ หน้าแล้งยาวนานกว่าปกติ ทำให้น้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้อยมาก ประกอบกับได้เร่งระบายน้ำให้เกษตรกรที่เริ่มฤดูกาลการเพาะปลูกข้าวนาปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นมา ปริมาณน้ำในเขื่อนจึงลดลงอย่างรวดเร็วโดยปริมาณน้ำพร้อมใช้งานอยู่ที่ 780 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในสภาวะภัยแล้ง จึงต้องลดการระบายน้ำลงจากวันละ 33 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำเข้าขั้นวิกฤติ ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมาเข้าเขื่อนเลยจะสามารถมีน้ำใช้ต่อไปได้อีก 50 วัน
"ทั้งนี้ การลดปริมาณการระบายน้ำไม่กระทบกับเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปีไปแล้ว 2,480,000 ไร่ แต่ขอให้เกษตรกรที่ยังไม่ปลูกข้าวนาปี ชะลอการปลูกออกไปในเดือนกรกฎาคมหรือจนกว่าจะมีฝนตกชุกมากขึ้นตามแผนบริหารความเสี่ยงของเขื่อนสิริกิติ์ มี 3 ระดับ ได้แก่ ระดับ 1 ปริมาณน้ำใช้งานได้เหลือ 488 ล้านลูกบาศก์เมตร จะระบายเพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศและผลักดันน้ำเค็ม ระดับ 2 ปริมาณน้ำใช้งานได้ลดลงเหลือ 359 ล้านลูกบาศก์เมตร จะระบายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น ระดับ 3 ปริมาณน้ำใช้งานได้ลดลงเหลือ 146 ล้านลูกบาศก์เมตร จะระบายเพื่อการอุปโภคบริโภคและสำรองไว้สำหรับเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ" นายสุเทพ กล่าว.
...