"หมวดเป" อดีตทหารค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ผันตัวมาเป็นเกษตรกรอย่างแท้จริง ด้วยการปลูกไม้ผลปลอดสารพิษ ใน อ.วารินชำราบ โดยปลูกสละอินโดฯ หรือ สละน้ำผึ้ง ซึ่งถือเป็นเกษตรกรรายแรกในจังหวัดอุบลราชธานี...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้อยตรี สิทธิพงษ์ วงศ์ศิริ หรือ หมวดเป อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการทหาร ในสังกัดค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้ลาออกจากราชการทหาร ผันตัวมาเป็นเกษตรกรอย่างแท้จริง ด้วยการปลูกไม้ผลปลอดสารพิษ ในพื้นที่ หมู่ 7 บ้านเกษตรพัฒนา ตำบลคำขวาง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และหนึ่งในไม้ผลที่หมวดเป ปลูกแล้วประสบความสำเร็จนั้น คือ สละอินโดฯ หรือ สละน้ำผึ้ง ซึ่งถือเป็นเกษตรกรรายแรกในจังหวัดอุบลราชธานี

หมวดเป กล่าวว่า ตนเคยปลูกผลไม้มาแล้วหลายชนิด แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนกระทั่งได้มารู้จักกับผลไม้อย่างสละสายพันธุ์อินโดนีเซีย หรือสละน้ำผึ้ง เมื่อครั้งไปปฏิบัติภารกิจ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทำให้เกิดความชื่นชอบในความแปลก เพราะมีรสชาติที่อร่อยและแตกต่างไปจากสละทั่วไป เนื่องจากเนื้อของผลจะมีสีขาว และมีเมล็ดสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ แต่มีความพิเศษตรงที่เนื้อของผลนั้นจะไม่ติดเมล็ด ทำให้มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย น่ารับประทาน

นอกจากนี้ สละพันธุ์อินโดฯ หรือสละน้ำผึ้งนั้น เป็นไม้ผลเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่กำลังได้รับความสนใจจากเกษตรกรอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นผลไม้รสอร่อย ที่ตลาดมีความต้องการสูง ปลูกก็ง่าย ขายก็คล่อง แถมขายได้ราคาดีอีกต่างหาก บางคนคิดว่า สละอินโดฯ ปลูกได้เฉพาะพื้นที่ภาคใต้ แต่ความจริงแล้ว ทุกๆ พื้นที่ในประเทศไทยได้ สามารถปลูกสละอินโดนีเซียได้อย่างสบาย โดยก่อนหน้านี้ตนเคยลองปลูกเล่นๆ ภายพื้นที่บ้านพักในค่ายทหาร สามารถเก็บผลขายได้ราคาถึง กิโลกรัมละ 300-400 บาท

...

"ในปัจจุบันนี้ลาออกจากราชการแล้ว ตนเองจึงมาปลูกต้นสละอินโดฯอย่างจริงจัง ทำมาได้ประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว มีอยู่ทั้งหมด 3,000 ต้น ในพื้น 10 ไร่ ซึ่งจะปลูกแซมกับไม้ยืนต้นชนิดอื่นๆ เนื่องจาก สละอินโดฯ ไม่ชอบแสงแดด ต้องอาศัยร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ โดยสละอินโดฯ จะออกดอกติดผลได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีช่วงติดผลดกตามธรรมชาติในช่วงฤดูฝน และผลจะสุกในช่วงเดือน มิถุนายน ถึง เดือนกรกฎาคมของทุกปี ซึ่งในช่วงนี้ สละอินโดฯได้เริ่มทยอยให้ผลผลิตบางส่วนแล้ว โดยจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่สวนกันแบบไม่อั้น นอกจากจะขายผลสดแล้ว ตนเองยังได้เพาะพันธุ์ต้นกล้าสละอินโดฯ ส่งขายให้เกษตรกรที่สนใจ ในราคาต้นละ 70-80 บาท" หมวดเป กล่าว

หมวดเป กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากสละอินโดฯ หรือ สละน้ำผึ้ง จะทานกันแบบผลสดโดยตรงแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปได้หลายชนิด เช่น การแช่แข็ง การแช่อิ่ม อบแห้ง ดอง และ ทำสละลอยแก้ว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีคุณค่าทางอาหารมากมาย อาทิ คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินซี วิตามินบี เป็นต้น สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถจะเพาะปลูกสละอินโดฯแบบตน สอบถามรายได้ที่ "หมวดเป" เบอร์โทร 08-8717-0942