ถูกส่งเข้าเรือนจํานาทวี โดน13ข้อหาค้าโรฮีนจา มอบตัวอีก1เหลือ31คน

พนักงานสอบสวนคุมตัว “พล.ท.มนัส” ส่งฝากขังศาลจังหวัดนาทวีผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังสอบเครียดนานค่อนคืน โดนอ่วม 13 ข้อหาหนัก ทั้งค้ามนุษย์ หน่วงเหนี่ยวกักขังร่วมกันเรียกค่าไถ่ ซ่อนเร้นศพ ในขณะที่ทนายความยื่นหลักทรัพย์ 2.5 ล้านบาทขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาต ทำให้นายพลคนดังถูกคุมตัวเข้าคุกทันที “บิ๊กป้อม” ปัดอุ้ม “พล.ท.มนัส” ย้ำไม่รู้จักส่วนตัว พร้อมหนุนตำรวจเอาผิดคนเอี่ยวค้ามนุษย์ ด้านอุปทูตสหรัฐฯโพสต์ทวิตเตอร์พอใจไทยออกหมายจับนายทหารระดับสูง ลูกสาว “โกหนุ่ย” พาทนายความแถลงข่าววอนสังคมอย่าเพิ่งด่วนพิพากษา เชื่อบิดายังบริสุทธิ์ ปัดไม่เกี่ยวโอนเงิน 14 ล้านบาท ให้นายพลคนดัง

ภายหลังจากที่ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.หลังถูกศาลจังหวัดนาทวีออกหมายจับในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา สมัยติดยศ “พล.ต.” เป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 (มทบ.42) ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และถูกส่งตัวไปสอบสวนดำเนินคดีที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า (ศปก.ภ.9 สน.) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 3 มิ.ย.แล้วนั้น ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ว่าพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการนำโดย พล.ต.ต.ปวีณ พงษ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ.8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้ร่วมกันสอบปากคำ พล.ท.มนัสอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 3 มิ.ย. จนกระทั่งถึงเที่ยงคืน รวมเวลานานกว่า 8 ชม. โดยมีการสลับสับเปลี่ยนพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการตลอดการสอบปากคำ มีนายทหารพระธรรมนูญเข้าร่วมรับฟัง รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ มาเฝ้าสังเกตการณ์

...

โดยผลการสอบสวน พล.ท.มนัส ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทั้งนี้ พล.ท.มนัส ได้ถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาทั้งหมดรวม 13 ข้อหา เช่นเดียวกับผู้ต้องหาคนอื่นๆที่ถูกควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้ทั้ง 51 คน อาทิ สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี, ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่, อาชญากรข้ามชาติ, ทำร้ายร่างกาย, ช่วยซ่อนเร้นศพ พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เพราะเห็นว่าคดีมีความเกี่ยวเนื่องไปถึงประเทศอื่นๆด้วย และตำรวจได้ควบคุมตัว พล.ท.มนัส ไว้ภายในห้องสอบสวน โดยไม่ได้นำไปควบคุมในห้องขังเหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ เนื่องจากสวมเครื่องแบบทหาร ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างทหารกับตำรวจในกรณีที่นายทหารถูกดำเนินคดี โดยมีตำรวจคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

ต่อมาเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา รรท.ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา พ.ต.ท.พิเชษฐ์ จันทร์หนู พงส.สภ.สะเดา ช่วยราชการ สภ.ปาดังเบซาร์ พ.ต.ท.ประพันธ์ อารีบำบัด พงส.สภ.บาดังเบซาร์ พ.ต.ต.คณิต เต้งทิ้ง พงส.สภ.ปาดังเบซาร์ นำตัว พล.ท.มนัส ผู้ต้องหาที่ ศปก.9 สน. สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขึ้นรถตู้สีขาวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทะเบียน ฮภ 1066 กรุงเทพมหานคร ไปฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดนาทวี หลังเสร็จสิ้นกระบวนการสอบสวน และครบกำหนดการควบคุมตัวภายใน 48 ชม. โดย พล.ท.มนัส ซึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบทหาร มีสีหน้าอิดโรยจากการถูกสอบสวนมาตลอดค่อนคืนอย่างเห็นได้ชัด และไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆต่อสื่อมวลชนที่เฝ้าติดตามทำข่าว โดยมีตำรวจและทหารคอยประกบอย่างใกล้ชิด กับมีการจัดกำลังตำรวจจากหน่วยปฏิบัติพิเศษตำรวจ ภูธรจังหวัดสงขลา และสารวัตรทหารจาก มทบ.42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลายสิบนายพร้อมอาวุธครบมือคอยคุ้มกันเป็นพิเศษตลอดเส้นทางตั้งแต่ สภ.หาดใหญ่ ไปยังศาลจังหวัดนาทวี ระยะทางกว่า 60 กม.

ทันทีที่เดินทางไปถึงศาลจังหวัดนาทวี พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว พล.ท.มนัส ลงจากรถตู้เข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 4 ฝากขังผัดแรกพร้อมคัดค้านการประกันตัว ในขณะที่ทนายความของ พล.ท.มนัส ได้ยื่นคำร้องขอให้นำตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ไปดำเนินคดีในศาลทหาร พร้อมยื่นหลักทรัพย์วงเงิน 2.6 ล้านบาท ขอประกันตัว แต่ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ประกันตัว เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว พล.ท.มนัส ส่งเข้าเรือนจำอำเภอนาทวี โดยมีรายงานว่าทางทนายความเตรียมยื่นอุธรณ์คำสั่งศาลอีกครั้งเพื่อประกันตัว พล.ท.มนัส ในวันที่ 5 มิ.ย.นอกจากนี้ มีรายงานว่า ในวันเดียวกันผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ได้เข้ามอบตัวเพิ่มอีก 1 รายคือนายถาวร มณี เครือข่ายค้ามนุษย์ใน ต.ปาดังเบซาร์ รวมผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวได้แล้วในขณะนี้จำนวน 53 คน จากที่ออกหมายจับ 84 คน อยู่ระหว่างหลบหนี 31 คน

วันเดียวกัน น.ส.วิไลรัตน์ แสงทอง ลูกสาวนายสุวรรณ แสงทอง หรือ “โกหนุ่ย” หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคดีค้ามนุษย์ พร้อมนายโชคชัย อรรถกิจทวี ทนายความ เปิดแถลงข่าวที่ร้านอาหาร ป.ป๋องสมบูรณ์ หมู่ 1 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง โดย น.ส.วิไลรัตน์กล่าวว่า ขณะนี้บิดารวมถึงครอบครัว “แสงทอง” ตกเป็นจำเลยสังคม อยากจะขอร้องให้สังคมอย่าเพิ่งตัดสินข่าวจากสื่อ เพราะขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวน ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ของบิดาที่ประกอบอาชีพเรือประมงและแพปลา ไม่มีเรื่องการค้ามนุษย์ ในขณะที่นายโชคชัย ทนายความกล่าวว่า มีสื่อมวลชนบางช่องออกข่าวว่า นายสุวรรณโอนเงินให้กับนายทหารยศพลโทที่ถูกออกหมายจับหลายครั้ง รวมกว่า 14 ล้านบาท แต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจน ไม่มีหลักฐานการโอนเงินที่จะชี้ชัดว่านายสุวรรณทำธุรกรรมทางการเงิน อีกทั้งสลิปที่พบก็อยู่ในบ้านของคนอื่น ไม่ใช่บ้านนายสุวรรณ

...

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ในการสืบสวนสอบสวนขยายผลถึงผู้ใดจะจับกุมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจ ขอยืนยันว่า ได้สืบสวนสอบสวนครบถ้วนหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง นายก อบต.มีหมายจับ ตำรวจเองระดับสารวัตร 4 คน พิสูจน์ทราบด้วยพยานหลักฐาน ทำงานทั้งวันทั้งคืน ทุกฝ่ายทำงานประสานกันหมด ที่ผ่านมาขบวนการนี้ แข็งแรงขึ้น มีการจ่ายเงินเจ้าหน้าที่ มีการละเว้นต่างๆ เมื่อชาวโรฮีนจามาขึ้นฝั่งที่ จ.ระนอง ใช้รถยนต์เป็นพาหนะ วิ่งลงมาจาก จ.ระนอง ผ่าน จ.พังงา กระบี่ ตรัง ตรงมายัง จ.สตูล อีกเส้นทางหนึ่งจะหลบหนีจาก จ.สุราษฎร์ธานี มาทาง จ.นครศรีธรรมราช และบางรายจะถูกจับที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช และลงไปยัง จ.สงขลา ทรัพย์สินที่ยึดไว้ 80 กว่าล้านบาท การสอบสวนมีความคืบหน้าและมั่นใจว่าจะเสร็จภายในกำหนดเวลา ทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีละเว้นใครทั้งสิ้น

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เป็นเรื่องของตำรวจดำเนินการ ตนทำหน้าที่ดูแลตำรวจ พร้อมสนับสนุนให้ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่และเดินหน้าออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนถึงขณะนี้มีจำนวน 84 คนที่ถูกออกหมายจับ เนื่องจากพบว่าเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ มีสื่อบางฉบับไปพาดหัวข่าวว่า ตนอุ้ม พล.ท.มนัส ตนไม่เกี่ยว ไม่รู้จักเขาส่วนตัว แต่รู้ข้อมูลว่าเขาเคยทำงานมาอย่างไร ก็เล่าให้สื่อมวลชนรับฟัง และก็นำไปเขียนปะติดปะต่อ ทำให้ไม่มีความชัดเจน ตนไม่ได้พูดอะไรที่จะให้การสนับสนุน พล.ท.มนัส คดีเป็นเรื่องของตำรวจ ใครเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินคดีไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือประชาชน เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐอเมริกาจะปรับอันดับความน่าเชื่อถือปัญหาการค้ามนุษย์ให้ไทยพ้นจากระดับเทียร์ 3 พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทุกอย่างก็มีความก้าวหน้าไปอย่างดี น่าจะได้รับการพิจารณาอันดับที่ดีขึ้น

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทริค เมอร์ฟีย์ อุปทูตสหรัฐฯ โพสต์ทวิตเตอร์ ถึงกรณีที่ไทยได้ดำเนินการออกหมายจับนายทหารระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ ว่าทางเรายินดีหลังทราบจากการรายงานข่าวว่าตำรวจไทยได้ออกหมายจับผู้มีความเกี่ยวข้องกับการลักลอบพาคนเข้าเมือง การทำร้ายร่างกาย และการค้ามนุษย์ ซึ่งรวมถึงนายทหารระดับสูงด้วย และเราจะร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการยกระดับการปราบปรามการลักลอบพาคนเข้าเมืองและการค้ามนุษย์ต่อไป

ที่โรงแรมดุสิตธานีพัทยา จ.ชลบุรี โครงการออสเตรเลีย-เอเชีย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (Australia-ASIA Program To Combat Trafficking in PERSONS) หรือ (AAPTIP) จัดประชุมร่วม 3 ฝ่าย ระหว่างประเทศอินโดนีเซีย เมียนมา และไทย เพื่ออภิปรายเกี่ยวกับประเด็นการต่อต้านการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมง โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจาก 3 ประเทศ รวมกว่า 30 คน เข้าร่วมในระหว่างวันที่ 4-5 มิ.ย. โดยนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ต้องขอบคุณ AAPTIP ที่จัดโครงการที่มีประโยชน์ ซึ่งจะเกิดผลดีอย่างมากต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของ 3 ประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งถือเป็นประเทศกลางทาง สำหรับประเด็นกฎหมายนั้นถือเป็นเรื่องซับซ้อนเพราะแต่ละประเทศมีกฎหมายและการบังคับใช้ที่แตกต่างกัน การประชุมครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็นซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานร่วมกันในอนาคต