เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับนายขวัญชัย อุ่นมณี อายุ 33 ปี ข้อหาบุกรุกเคหสถาน ข่มขืนกระทำชำเราและพกพาอาวุธปืน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา หญิงสาวอายุ 19 ปีเข้าแจ้งความที่ สภ.บางพลีว่าถูกคนร้ายอ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบมีบัตรแขวนที่คอเข้าตรวจค้นในห้องพักที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง
ระบุว่ามาสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของแรงงานต่างด้าว แล้วฉวยโอกาสชักปืนออกมาข่มขู่
บังคับข่มขืนใจ
อีก 3 วันต่อมาวันที่ 24 พ.ค.เกิดเหตุทำนองเดียวกัน โดยมีหญิงสาวอายุ 18 ปีเข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายลักษณะคล้ายกันบุกเข้าข่มขืนในหอพักย่านบางโฉลง
ครั้งนี้คนร้ายอ้างเป็นตำรวจกำลังติดตามคนร้ายเป็นคนต่างด้าวหลบหนีมาที่ห้อง
ขอเข้าไปตรวจค้นแล้วใช้ปืนขู่ จับใส่กุญแจมือไว้กับเตียงนอนบังคับข่มขืนใจ
แล้วยังหยิบเอาโทรศัพท์มือถือ บัตรประชาชน กุญแจรถจักรยานยนต์ คีย์การ์ดหอพักและบัตรเอทีเอ็มไป
เมื่อเกิดเหตุ 2 รายติดๆกัน ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและเส้นทางที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ผ่าน
ในที่สุดก็ทราบว่าเป็นนายขวัญชัยจึงติดตามจับกุมตัวได้
นายขวัญชัยรับสารภาพว่าข่มขืนและชิงทรัพย์หญิงสาวทั้งสองราย
ก่อนหน้านี้เคยเป็น “สาย” ให้ตำรวจสืบสวนโรงพักแห่งหนึ่งจึงเรียนรู้การทำงานของตำรวจ
ช่วงหลังพฤติกรรมไม่ดี ตำรวจไม่ให้ไปทำงานด้วยจึงไม่มีเงินใช้ ประกอบกับติดยาเสพติด จึงออกทำงานเอง
พุงเป้าไปที่แรงงานต่างด้าวและยาเสพติด เนื่องจากคนเหล่านี้ไม่กล้าแจ้งความ จับมารีดเอาเงินแล้วปล่อยตัวไป หากเป็นหญิงสาวก็จะบังคับข่มขืน
ลงมือมาแล้วหลายราย
พฤติกรรมของนายขวัญชัยถือเป็นภัยสังคมที่เกิดจากการเรียนรู้วิธีการทำงานของตำรวจ
เคยทำงานให้ตำรวจก็เลยแอบอ้างเป็นตำรวจ
ต้องตำหนิตำรวจที่เคยใช้งานนายขวัญชัยเป็น “สาย” เมื่อรู้ว่า มีพฤติกรรมไม่ดีก็ควรจะตักเตือนให้แก้ไขหรือไม่ก็ต้องจับกุมดำเนินคดี
ไม่ใช่ปล่อยเสือเข้าป่า ให้ไปหากินเอง.