สุดเศร้า! เรือลาวล่มกลางแม่น้ำงึม นร.จมหาย 10 คน พ่อแม่มานั่งเฝ้าอยู่ริมตลิ่ง เผยเรือบรรทุกนักเรียนจะไปสอบ แต่มีนักเรียนนั่งมามากเกิน ทำเรือล่ม ครูมาด้วย แต่นั่งเรือลำใหญ่กว่า งมหา 2 วัน ยังไม่พบแม้แต่ศพเดียว เชื่อนางเงือกจับตัวไว้...
จากอุบัติเหตุครั้งใหญ่ในแม่น้ำงึม บริเวณท่าเรือบ้านนาบง เมืองปากงึม แขวงนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา เรือข้ามแม่น้ำงึม ซึ่งนำนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านหัวนาทุ่งและโรงเรียนท่ากกไฮ เมืองปากงึม จำนวน 39 คน ข้ามฟาก เกิดล่มกลางแม่น้ำ ทำให้เด็กนักเรียนจมหายไป 10 คน พ่อแม่ผู้ปกครองทราบข่าวหัวใจแทบสลาย หลังเกิดเหตุ มีการระดมทีมประดาน้ำจากมูลนิธิใน จ.หนองคาย และอุดรธานี เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่ยังไม่พบศพ
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.สังกา สีวิไล อายุ 21 ปี ราษฎรบ้านหัวนาทุ่ง เมืองปากงึม แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ว่ามาทำงานรับจ้างอยู่ใน อ.เมืองอุดรธานี เมื่อเช้าญาติได้โทรศัพท์มาบอกว่า ลูกพี่สาวชื่อ ด.ญ.แคดตี้ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านหัวนาทุ่ง พร้อมกับเพื่อนชั้นเดียวกัน 39 คน นั่งเรือข้ามแม่น้ำงึม ซึ่งมีความกว้างประมาณ 800 เมตร ไปสอบแข่งขันเพื่อเลื่อนชั้น ซึ่งเป็นระเบียบการศึกษาของลาว โดยมีครูควบคุมไป 3 คน แต่นั่งเรือคนละลำ ครูนั่งเรือลำใหญ่ แต่นักเรียนนั่งเรือลำเล็ก และเรือของนักเรียนเกิดล่มกลางแม่น้ำ เนื่องจากเรือบรรทุกมากเกินไป
...
ทั้งนี้ หลังเรือล่ม คนขับเรือตะโกนบอกให้นักเรียนเกาะเรือไว้ นักเรียนตกใจต่างกะเกียกตะกายเกาะขอบเรือ แต่บางคนจมหายไปต่อหน้าตาชาวบ้าน และชาวเรือที่รีบมาช่วยเด็กไว้ได้ส่วนใหญ่ แต่ก็มีเด็กนักเรียนหายไป 10 คน หลังเกิดเหตุ พ่อแม่ผู้ปกครองต่างมาดูบุตรหลาน บางคนดีใจที่พบว่าลูกปลอดภัย แต่บางคนต้องนั่งร้องไห้ เพราะลูกหายไปกับสายน้ำ
"เมื่อรู้ข่าวว่า หลานสาวเป็นหนึ่งในนักเรียนที่จมหายไปกับสายน้ำ ก็แทบจะนั่งไม่ติด ทำงานไม่ได้ โทรศัพท์สอบถามญาติ ก็ทราบว่า พี่สาวแม่ของหลานนั่งร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า นางเงือกในแม่น้ำงึมจับนักเรียนเอาไว้" น.ส.สังกา กล่าวทั้งน้ำตา
นอกจากนี้ ยังได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประชาธรรม อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ด้วยว่า ได้รับการประสานจากกู้ภัย สปป.ลาว ขอความช่วยเหลือให้ส่งทีมกู้ภัย และทีมประดาน้ำของไทยไปช่วยค้นหาร่างนักเรียนที่เคราะห์ร้าย เป็นชาย 2 คน หญิง 8 คน แต่เนื่องจากน้ำลึกประมาณ 15 เมตร และไหลเชี่ยว เพราะเป็นฤดูฝน น้ำหลาก และมีฝนตก ทำให้เป็นอุปสรรคในการค้นหาจนถึงเวลา 18.00 น. วันที่ 26 พ.ค. ก็ยังไม่พบร่างนักเรียนเคราะห์ร้าย จึงได้หยุดการค้นหาและจะเริ่มค้นหาใหม่ในวันรุ่งขึ้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 พ.ค. เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาธรรม จ.อุดรธานี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. ได้รายงานเพิ่มเติมว่า เวลา 05.00 น. ของวันที่ 27 พ.ค. ได้มีพระสงฆ์ในหมู่บ้าน นำเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทั้งจาก สปป.ลาว และจากประเทศไทย ทำพิธีจุดธูปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ค้นหาร่างเด็กนักเรียนพบทั้ง 10 คน จากนั้นได้ลงงมหาร่างเด็กนักเรียนทั้ง 10 คน ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตแล้ว ท่ามกลางชาวบ้าน พ่อแม่และผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่สูญหาย มานั่งอยู่ข้างตลิ่งจำนวนมาก แต่จนถึงเวลา 12.00 น. ก็ยังค้นหาร่างไม่พบ เนื่องจากน้ำลึกและไหลเชี่ยว.