"ไอ้ไข่ดำ" กระทิงที่ออกมาอยู่ในสวนปาล์ม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ยังกินหญ้าอยู่ที่เดิม จนท.ลังเล ไม่รู้จะเอาอย่างไรดี ระหว่างจับส่งคืนป่า กับปล่อยให้อยู่ในสวนของชาวบ้าน เตือนไปดูได้ แต่อย่าไปมาก และอย่าใส่เสื้อสีฉูดฉาดเพราะกระทิงไม่ชอบ...        

จากกรณีกระทิงป่าขนาดใหญ่ หนักประมาณ 600-700 กก. อายุประมาณ 5 ปี เข้ามาอาศัยอยู่ในสวนยางและสวนปาล์มของชาวบ้าน ในพื้นที่หมู่ 2 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งกระทิงตัวนี้ได้ทำลายต้นยางไป 5 ต้น และขวิดวัวเพศผู้ของชาวบ้านบาดเจ็บ ต่อมาทาง นายกิตติศักดิ์ ชูธนโชติ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าบางแดน เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าโตนปริวรรต จ.พังงา และเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบจนพบตัวกระทิง ซึ่งเจ้าหน้าที่เรียกว่า ไอ้ไข่ดำ นอนอยู่ริมลำห้วย โดยไม่ได้มีท่าทางดุร้ายใดๆ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พ.ค. เจ้าหน้าที่ได้เตรียมหารือในการจัดการว่า จะทำอย่างไรกับเจ้าไข่ดำ ซึ่งยังคงอาศัยอยู่ในจุดที่พบเมื่อวานนี้ เนื่องจากสภาพเป็นสวนมีหญ้าขึ้นมาก และเป็นหญ้าที่กระทิงชอบ

ขณะที่ นายบุญพาศ รักนุ้ย นายอำเภออ่าวลึก กล่าวว่า กรณีของกระทิงป่าหลังทราบจุดที่อยู่แล้ว ได้หารือกับทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยตนเสนอ 2 แนวทาง คือ 1.หากกระทิงไม่ทำลายพืชผลอาสินก็ให้อยู่ได้ และ 2.หากทำลาย หรือเป็นอันตรายต่อประชาชน ก็ขอให้ดำเนินการจับกลับไปปล่อยในป่าถิ่นที่อยู่ คือพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี หรือในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนปริวรรต จ.พังงา ขณะเดียวกัน ได้ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.นาเหนือ ช่วยประชาสัมพันธ์ว่าอย่าได้ไปรบกวนกระทิง

ด้านนายกิตติศักดิ์ ชูธนโชติ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าบางแดน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะดำเนินการกับเจ้าไข่ดำแบบใด ต้องรอหารือกับผู้เกี่ยวข้อง และรอดูว่ากระทิงอยู่ได้หรือไม่ เพราะจริงๆ แล้วกระทิงไม่ได้ดุร้าย และอยู่ในธรรมชาติร่วมกับผู้คนได้ แต่ขออย่าไปทำร้าย เพราะเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์

...

"วันนี้ได้เห็น ก็ถือว่าเป็นบุญตาของชาวบ้าน เพราะแม้แต่ในป่าธรรมชาติกระทิงตัวเป็นๆ ยังพบเห็นได้ยาก นอกจากนั้น อยากฝากไปยังประชาชน หากจะเข้ามาดูก็ขอให้อยู่ห่างๆ มาครั้ง 2-3 คน อย่ามาหลายคน เพราะกระทิงจะตื่นและเครียด และไม่ควรสวมเสื้อผ้าสีฉูดฉาด กระทิงอาจเข้าไปทำอันตรายได้" นายกิตติศักดิ์ กล่าว.