ยังสร้างไม่ได้ที่พักพิงของสองแม่ลูก ที่มาอาศัยอยู่ใต้เมรุวัดป่าใน อ.ด่านซ้าย จ.เลย นายกเทศมนตรีมีหนังสือถึงนายอำเภอ บอกประชุมกันแล้วชาวบ้านไม่ยอมให้อยู่ เพราะเชื่อว่าเป็นปอบ จึงแจ้งมาเพื่อทราบ ขณะที่แม่เฒ่าประกาศ จะไม่ย้ายไปไหน...  

จากกรณี นางบัวขัน มหาสีดา อายุ 64 ปี และลูกชายชื่อนายเทพพร เชื้อบุญมี อายุ 38 ปี เข้าไปอาศัยอยู่ใต้เมรุเผาศพของวัดป่าเนรมิตวิปัสสนา หมู่ 14 บ.หัวนายูง ต.ศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย จ.เลย ซึ่งเป็นห้องทึบ ขนาด 3x3 เมตร ไม่มีไฟฟ้า กลิ่นเหม็นมาก สภาพความเป็นอยู่ไม่เหมาะสม เวลามีศพมาเผาต้องออกไปอยู่ข้างนอก เพราะเกรงใจเจ้าภาพ เผาศพเสร็จแล้วค่อยกลับเข้ามาอยู่ใหม่ โดยลูกชายที่สติไม่ค่อยสมประกอบคอยช่วยงานสัปเหร่อวัด พอมีรายได้บ้าง

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ค.58 ภายหลังจากหลายฝ่ายได้หารือกันแล้ว พร้อมจะช่วยเหลือ2แม่ลูก โดยสร้างที่พักพิงชั่วให้บริเวณด้านหลังศาลาสวดศพของเมรุ ใช้เวลาสร้างไม่เกิน 7 วัน แต่จากการที่ผู้สื่อข่าวไปดูล่าสุด พบว่ายังไม่การก่อสร้างใดๆ เลย จึงสอบถามไปยังนายจตุรศักดิ์ โกมลวิภาค นายอำเภอด่านซ้าย ทราบว่า กรณีดังกล่าว พระครูภาวนาวิสุทธาภรณ์ รองเจ้าคณะอำเภอด่านซ้าย และเจ้าอาวาสวัดป่าเนรมิตวิปัสสนา ท่านได้ให้ปลูกสร้างเพิงพักแก่ 2 แม่ลูก แต่มาติดปัญหา คือที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นที่สาธารณประโยชน์ (นสล.) จึงได้สอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าของพื้นที่คือเทศบาลตำบลด่านซ้าย ได้รับแจ้งว่า เรื่องนี้จะต้องมีการทำประชุมทำประชาคม สอบถามชาวบ้านเสียก่อน

...

อย่างไรตาม เมื่อวันที่ 14 พ.ค.58 ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือด่วน ที่ ลย 52301/418 จากเทศบาลตำบลด่านซ้าย ลงชื่อนายสันติภาพ เชื้อบุญมี นายกเทศมนตรี ระบุว่าทางเทศบาลได้ตรวจสอบแล้วพบว่า 2 แม่ลูกมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่ 104 หมู่ 14 ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลย ปัจจุบันมาอาศัยอยู่ใต้ถุนเมรุสีลวิสุทโท ป่าช้าบ้านเหนือ ซึ่งไม่เหมาะสมที่จะอาศัยอยู่ ทาง ทต.ด่านซ้าย มีแนวคิดจะหาที่อยู่ใหม่ให้แก่ 2 แม่ลูก แต่ติดปัญหาไม่มีที่ดินที่จะก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้ และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ไม่มีใครกล้าให้อาศัยบริเวณเมรุ โดยกล่าวหาว่านางบัวขัน มาสีดา เป็นปอบ จึงเสนอมายังนายอำเภอด่านซ้าย เพื่อทราบ

ทั้งนี้ นายจตุรศักดิ์ โกมลวิภาค นายอำเภอด่านซ้าย ยังกล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าว ที่ชาวบ้านเห็นว่านางบัวขันและลูกชาย เป็นปอบนั้น สังคมทุกวันนี้มีกฎ 2 กฎ คือกฎหมาย และกฎแห่งกรรม ถือว่า 2 แม่ลูกนี้ ถูกสังคมพิพากษาไปแล้ว เป็นกฎแห่งกรรม เป็นคำกล่าวหาที่มีมานานแล้ว โดยมีคนไปเผาบ้านที่ 2 แม่ลูกเคยอาศัย เพราะหาว่าเป็นปอบ เรื่องนี้ถือว่าเป็นตราบาปที่สังคมได้ลงโทษอย่างรุนแรง ทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามช่วยเหลือสร้างที่พักพิงชั่วคราวบริเวณเมรุ แต่ถูกต่อต้านจากชุมชน ไม่ว่าจะเป็นที่สาธารณะอะไรก็ตาม แต่ทางอำเภอไม่ได้นิ่งนอนใจ และไม่ได้ทอดทิ้ง พยายามจะหาที่อยู่ให้ใหม่

ทางด้าน 2 แม่ลูก ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูสภาพความเป็นอยู่ และสอบถาม ซึ่งทั้ง 2 คนยังมีความหวัง และรอคอยหน่วยงานที่รับปากว่าจะสร้างที่พักชั่วคราวให้ ส่วนกรณีที่ชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นปอบนั้น นางบัวขัน กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่าตนไม่ใช่คนบ้า มากล่าวหากันเพื่ออะไร คนจนก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน

"หรือเห็นว่าเรา 2 แม่ลูกเป็นคนจน ไม่สร้าง ก็ไม่ต้องสร้าง ไม่ว่าจะอย่างไร จะไม่ย้ายไปไหน จะอาศัยอยู่ใต้เมรุตรงนี้ ใครมาไล่ก็ไม่ไปทั้งนั้น" นางบัวขัน กล่าว.