หย่อนยานบึมใต้ เชือด ‘ผู้การยะลา’ ย้ายด่วน-เตือนอีก คาร์บอมบ์ปัตตานี

บึมป่วนเมืองยะลาพ่นพิษ ผบ.ตร.สั่งเด้ง ผบก.ภ. จ.ยะลา ขณะที่ ผบช.ศชต.สั่งเด้ง 4 นายตำรวจ ผกก. รอง ผกก.สส. และรอง ผกก.ป.โรงพักเมืองยะลา กับ ผกก.สส.ภ.จ.ยะลา แต่ทำแปลกเซ็นคำสั่งไม่ทันข้ามวันก็ออกคำสั่งยุติให้ ผกก.สส.ภ.จ.ยะลา กับรอง ผกก.สส.สภ.เมืองยะลา กลับมานั่ง เก้าอี้เดิม ส่วนบรรยากาศเปิดเทอมวันแรกคึกคัก ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองระดมกำลังคุ้มกันครู-นักเรียน พร้อมตั้งด่านเข้มทั่วเมือง หน่วยข่าวแจ้งเตือน จ.ปัตตานีระวังซ้ำรอยบึมยะลา ทหารนำสุนัขดมกลิ่นปูพรมค้น 4 จุดย่านเศรษฐกิจ ควานหาระเบิดที่อาจหลงเหลืออยู่ “บิ๊กโด่ง” ปัดย้าย ผบ.ฉก.ยะลา เซ่นระเบิด สั่งปรับยุทธวิธีป้องกันเขตเมือง ขณะที่ ผบ.ตร.แจงเหตุเด้งผู้การยะลาเพราะปฏิบัติหน้าที่หย่อนยาน

หลังเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดป่วนเมืองยะลา ติดต่อกัน 3 วัน ในย่านเศรษฐกิจเขตเทศบาลนครยะลากว่า 40 จุด รวมเกือบ 50 ลูก ตั้งแต่คืนวันที่ 14-16 พ.ค. มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ราย สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้นายตำรวจระดับสูงในพื้นที่ถูกคำสั่งโยกย้ายระนาว โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 274/2558 ลงวันที่ 17 พ.ค. ให้ พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผบก.ภ.จ.ยะลา ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศชต.) โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม และให้ พล.ต.ต.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ รอง ผบช.ศชต. รักษาราชการแทน ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.เป็นต้นไป

นอกจากนี้ พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผบช.ศชต. มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน ที่ 199/2558 ลงวันที่ 18 พ.ค. โดยอ้างถึงวิทยุ ศชต.ด่วนที่สุด ที่ 0025.112/5233 ลงวันที่ 18 พ.ค. ให้ พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองยะลา พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน ผกก.สส.ภ.จ.ยะลา พ.ต.ท.โสภณ สายสุรีย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองยะลา และ พ.ต.ท.จุฬาชัย แสงกุล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองยะลา ไปปฏิบัติราชการที่ ศชต.ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. และให้ พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา ผกก.ซักถาม 1 บก.สส.ศชต. รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองยะลา พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก.สภ.ตันหยง อ.เมืองนราธิวาส รักษาราชการแทน ผกก.สส.ภ.จ.ยะลา พ.ต.ท.พรหมพัฒน สนิทศรี รอง ผกก.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา รักษาราชการแทน รอง ผกก.ป.สภ.เมืองยะลา และ พ.ต.ท.ศุภชัช ยีหวังกอง รอง ผกก.สภ.บูเก๊ะตา จ.นราธิวาส รักษาราชการแทน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองยะลา ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากคำสั่งดังกล่าวออกไปไม่ทันข้ามวัน ปรากฏว่า พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผบช.ศชต. ได้ออกคำสั่ง ศชต.ที่ 202/2558 ลงวันที่ 18 พ.ค. เรื่องยุติการรักษาราชการแทนและการปฏิบัติราชการในตำแหน่งต่างๆ และกลับไปปฏิบัติหน้าที่ยังต้นสังกัดเดิม ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.จำนวน 4 ราย คือ พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน ผกก.สส.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก.สภ.ตันหยง จ.นราธิวาส พ.ต.ท.จุฬาชัย แสงกุล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองยะลา และ พ.ต.ท.ศุภชัช ยีหวังกอง รอง ผกก.ป.สภ.บูเก๊ะตา จ.นราธิวาส

ส่วนความคืบหน้าการแกะรอยสืบสวนหาตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิดป่วนเมืองยะลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงวิเคราะห์ว่า คนร้ายวางแผนลงมือเป็น 2 ส่วน คือระเบิดลูกเล็กและระเบิดลูกใหญ่ โดยระเบิดลูกเล็กใช้วางในชุมชนเพื่อให้เกิดความตกใจและปั่นป่วน ส่วนลูกใหญ่ที่หวังผลจะนำไปวางตามเสาไฟฟ้าบนถนนสายสำคัญๆ เพื่อต้องการให้ไฟดับและอาจมีการลงมือบางอย่างตามมา โดยระเบิดดังกล่าวจะจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือซัมซุงรุ่นฮีโร่ เนื่องจากแบตเตอรี่ใช้ได้นาน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบการซื้อขายโทรศัพท์รุ่นดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงยังแจ้งให้เฝ้าระวังว่าอาจมีระเบิดที่วางไว้แล้วหลงเหลืออยู่อีก

ขณะที่หน่วยข่าวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แจ้งเตือนไปยังพื้นที่ จ.ปัตตานี ว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ อาจลงมือก่อเหตุในเขต อ.เมืองปัตตานี ลักษณะเดียวกับที่เกิดขึ้นใน อ.เมืองยะลา เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพและสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ ส่วนพื้นที่ จ.ยะลา ก็ได้แจ้งให้เฝ้าระวังรถยนต์เป้าหมายอีก 1 คัน คือรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีทอง ของนายช่างไฟฟ้าเขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา ที่ถูกคนร้ายฆ่าชิงรถไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา หวั่นเกรงว่าคนร้ายจะนำมาก่อเหตุอีกครั้ง จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเฝ้าจับตาและตรวจสอบรถยนต์ลักษณะดังกล่าวอย่างละเอียดเพื่อป้องกันเหตุร้าย

ช่วงเช้าวันเดียวกันซึ่งเป็นวันเปิดเรียนวันแรกหลังปิดเทอมใหญ่ บรรยากาศในตัวเมืองยะลาเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยครูและนักเรียน โดยกำลังตำรวจ ตชด. ทหาร และ อส. เข้าประจำการตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยง พร้อมตั้งด่านตรวจเพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุ ส่งผลให้ถนนสายต่างๆ การจราจรเริ่มติดขัด สำหรับ จ.ยะลา มีโรงเรียนทั้งหมด 311 โรง เป็นระดับประถมศึกษา 228 โรง ระดับมัธยมศึกษา 12 โรงและโรงเรียนเอกชน 71 โรง

ที่โรงเรียนบ้านท่าสาป ต.สะเตง อ.เมืองยะลา นายสามารถ วราศิศัย ผวจ.ยะลา นายอดุลย์ พรมแสง ผอ.สพป.ยะลาเขต 1 เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจคณะครูและนักเรียน โดยมีนางวันเพ็ญ แซ่เต้ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าสาป พร้อมคณะครูให้การต้อนรับ โดย ผวจ.ยะลา ได้กำชับกำนันผู้ใหญ่บ้านช่วยกันดูแลโรงเรียนในพื้นที่ ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยครู มีกำลังทหาร ทหารพราน ตชด. อส. และ ชรบ.รับผิดชอบดูแลกระจายกำลังรอบๆ บริเวณ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับครูและนักเรียน หลังจากช่วงที่ผ่านมามีครูและบุคลากรทางการศึกษาตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาตลอด

ต่อมาเวลา 11.00 น. จ.ส.อ.ชัชวาล ภูริผล รองผู้บังคับหมวด กองพันสุนัขทหาร หน่วยเฉพาะกิจอโนทัย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปล่อยแถวระดมกำลังปูพรมตรวจพื้นที่ 4 จุดในย่านเศรษฐกิจเขตเทศบาลนครยะลา ประกอบด้วยย่านชุมชนตลาดเมืองใหม่ ย่านชุมชนตลาดเก่า ย่านชุมชนผังเมือง และย่านถนนสิโรรส เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลเฝ้าสังเกตสิ่งผิดปกติ วัตถุต้องสงสัย และขอให้จัดระเบียบสินค้าภายในร้านให้เป็นสัดส่วน ง่ายต่อการสังเกต ขณะเดียวกันได้นำสุนัขทหารและสุนัขตำรวจ ตชด.ที่ 44 ค่ายพญาลิไท รวม 11 ตัว ดมกลิ่นตรวจหาวัตถุระเบิดตามร้านค้าต่างๆในพื้นที่ด้วย

ส่วนที่ จ.ปัตตานี บรรยากาศการเปิดภาคเรียนวันแรกคึกคักเช่นกัน ตามโรงเรียนต่างๆ มีบรรดาผู้ปกครองเดินทางไปส่งลูกหลานที่โรงเรียนตั้งแต่เช้า โดยที่โรงเรียนบ้านดอนรัก อ.หนองจิก นักเรียนทยอยเดินทางมาโรงเรียนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมร่วมกันทำความสะอาดอาคารเรียน ห้องเรียน และบริเวณโรงเรียนรับวันเปิดเทอมวันแรกของปีการศึกษา โดยมีกำลังทหารจากหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 ดูแลความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับครูและนักเรียน ขณะที่นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผวจ.ปัตตานี กำชับให้หน่วยกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ ชรบ. ออกลาดตระเวนตามเส้นทางต่างๆ ที่ผู้ปกครองและครูใช้สัญจรทั้งไปและกลับจากโรงเรียน ขณะที่ตามจุดตรวจจุดสกัดได้เพิ่มความเข้มในการตรวจค้นรถ บุคคลเป้าหมาย รวมทั้งตั้งจุดตรวจลอยตามเส้นทางมุ่งสู่โรงเรียนพื้นที่เสี่ยง

นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยว่า อยากให้ผู้บริหารโรงเรียนแต่ละแห่งกลับไปทำความเข้าใจกับครูของตนเอง รวมถึงชี้แจงมาตรการที่ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง นอกจากนี้ขอกำชับให้ครู บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนหน่วยกำลังที่เป็นชุดดูแลความปลอดภัยครูได้ยึดถือและปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและอย่าประมาท เพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก

ด้าน พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการเปิดภาคเรียนวันแรกของโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมาได้เน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ทำแผนร่วมกับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มาโดยตลอด โรงเรียนในพื้นที่สามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ ยังไม่มีโรงเรียนใดขอเลื่อนเปิดเทอม

ขณะที่นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำชับให้เขตพื้นที่การศึกษาประสานติดตามดูแลความปลอดภัยครูและนักเรียน โดยเฉพาะเรื่องการเดินทางระหว่างบ้านกับโรงเรียน ที่ผ่านมามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในโรงเรียน จ้างยามรักษาความปลอดภัยเพิ่ม รวมถึงติดตั้งกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อสัญญาณภาพกับฝ่ายความมั่นคงโดยตรง ที่สำคัญได้ให้นโยบายลดการทำกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงเรียน อาทิ การทำสื่อการเรียนการสอน การออกข้อสอบ โดยให้รวมตัวทำที่เขตพื้นที่ฯเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและ ผบ.ทบ. ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุระเบิดที่ จ.ยะลา มีกลุ่มการเมืองเกี่ยวข้องว่า ยังไม่ทราบ พล.อ.อุดมเดชอาจได้รับรายงานมา ตำรวจต้องไปสืบสวนว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร ย้ำว่าจะต้องจับคนกระทำการให้ได้ พร้อมทั้งพยายามดูแลรักษาความปลอดภัยไม่ให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นอีก ต้องเข้าใจว่าคนที่ป้องกันเหตุกับคนที่จ้องจะก่อเหตุก็มีเล็ดลอดได้บ้าง เชื่อเป็นการก่อเหตุเพื่อข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัวมากกว่า ส่วนความเป็นไปได้ที่อาจเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ที่เสียผลประโยชน์ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องดำเนินการ

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกระแสข่าวการย้าย พล.ต.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ผบ.ฉก.ยะลา หลังเกิดเหตุระเบิดที่ จ.ยะลา ว่า ไม่เป็นความจริง เราต้องเข้าใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานว่ามีความตั้งใจจริงในการแก้ปัญหา ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่อย่างดี ความยากลำบากของการปฏิบัติงานในแต่ละจุดมีความแตกต่างกันโดยเฉพาะในเขตเมือง ทางหน่วยพยายามป้องกัน ตนสั่งให้ปรับแผนไปบ้างแล้ว เน้นเรื่องการปฏิบัติงานทางยุทธวิธีและแผนทางยุทธวิธี ต้องครอบคลุมให้สามารถดูแลเขตเมืองให้ดีที่สุด และกำหนดเขต 7 เมืองหลักพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีก เพราะถ้าเกิดแล้วจะมีผลกระทบในเรื่องความรู้สึกของประชาชน และผลกระทบต่างๆ อาทิ การท่องเที่ยว ส่วนงานด้านการข่าวต้องลงรายละเอียดให้ชัดเจนลงลึกมากขึ้น เชื่อมั่นว่าประชาชนมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่มากขึ้น จากการไปเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ทุกคนยังมีขวัญกำลังใจดี

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงคำสั่งโยกย้าย ผบก.ภ.จ.ยะลา ว่า หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เรื่องนี้ถือว่าผู้บังคับบัญชาในพื้นที่มีความหย่อนยานบกพร่อง ปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น จึงต้องมีการพิจารณาโยกย้ายและเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความเหมาะสม และขอยืนยันว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ไม่ได้เข้ามากดดันหรือก้าวก่ายการทำหน้าที่ของตำรวจแต่อย่างใด