ญาติโยมแห่เยี่ยมอาการอาพาธ"หลวงพ่อคูณ"เนืองแน่น "เต๋อ เชิญยิ้ม" ประกาศปั่นจักรยานแก้บนจากวัดพระแก้วถึงวัดบ้านไร่ ขณะที่"สุวัจน์"รุดเยี่ยมอาการด้วยความห่วงใย

เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 15 พ.ค. 58 ที่อาคารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคภายใน รพ.มหาราชนครราชสีมา บริเวณชั้น 2 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะลูกศิษย์ใกล้ชิด พร้อมด้วย นายอุทัย มิ่งขวัญ รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา อดีต ส.ส.และคณะได้เดินทางเข้าเยี่ยมดูอาการหลวงพ่อคูณ ซึ่งทางคณะแพทย์ได้ปิดป้าย "งดเยี่ยม หลวงพ่อคูณ" ไว้หน้าห้องกระจก โดยนายสุวัจน์ เพียงแต่เข้าเยี่ยมได้หน้าห้องไอซียู เท่านั้น ไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมใกล้ชิดได้ เนื่องจากเป็นห้องปลอดเชื้อ 100% ซึ่งห้องดังกล่าวเป็นห้องกระจกมิดชิดกั้นเป็น 3 ห้อง โดยหลวงพ่อคูณอยู่ห้องสุดท้าย ซึ่งคณะเพียงแต่ยืนดูอาการและรับรายงานจากคณะแพทย์จากนั้นได้มอบแจกันดอกไม้เยี่ยมอาการพร้อมกับลงนามในสมุดเยี่ยม

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เปิดเผย ภายหลังเข้าเยี่ยมอาการว่า ตนทราบจากหมอพินิศจัย ว่าหลวงพ่อคูณ มีอาการหมดสติตอนประมาณ 05.45 น. ซึ่งหมอได้รีบรับตัวท่านมา รพ.มหาราช มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่ง รพ. ขณะนี้อาการอยู่ในการดูแลของคณะแพทย์ ส่วนอาการเป็นอย่างไรคงต้องให้แพทย์เป็นผู้ให้รายละเอียด ซึ่งตอนนี้คณะแพทย์อยู่ระหว่างกำลังรักษาหลวงพ่อ

"ในฐานะลูกศิษย์ก็รู้สึกตกใจเหมือนกับพี่น้องประชาชนที่ทราบข่าวด้วยความกังวลและต่างทุกข์ใจ เราต้องช่วยกันขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดคุ้มครองหลวงพ่อคูณ ให้ดีขึ้นและหายไวๆ" นายสุวัจน์ กล่าว

ในขณะที่มีบรรดาญาติโยมศิษยานุศิษย์ ต่างมานั่งเฝ้ารอดูอาการของหลวงพ่อคูณ อย่างใจจดใจจ่อด้วยความกังวล ห่วงใย เนื่องจากอาการหลวงพ่อคูณ ยังไม่ดีขึ้นและทางคณะแพทย์แจ้งแต่เพียงว่า กำลังเร่งทำการรักษา ซึ่งอาการตอนนี้ยังถือว่าน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะระเบียงทางเดินที่เชื่อมต่อจากอาคารไปยังอาคารจอดรถมีญาติโยมศิษยานุศิษย์นำเสื่อมาปูนั่งรอการชี้แจง เรื่องอาการจากคณะแพทย์อย่างเป็นทางการ ซึ่งทุกคนต่างวิตกกังวลกันเป็นอย่างมาก ในจำนวนลูกศิษย์มี  "เต๋อ เชิญยิ้ม" นายสันติ สมบัติ อายุ 53 ปี ศิลปินตลกและนักแสดงชื่อดัง ที่เคยเดินแก้บนถวายหลวงพ่อคูณ ให้หายจากอาการอาพาธมาแล้ว ครั้งหนึ่งโดยเดินทางกรุงเทพฯ ไปยังวัดบ้านไร่ เมื่อปี 2548 ขณะนั้นหลวงพ่อคูณ อาพาธด้วยอาการผ่าตัดสมอง พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศิริราชฯ และขณะนี้ทราบข่าวครั้งนี้อาพาธหนักจึงเดินทางมาเยี่ยมอาการพร้อมกับประกาศขอบนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า หากหลวงพ่อคูณ หายเป็นปกติตนจะขอปั่นจักรยานแก้บนถวายให้หลวงพ่อคูณ โดยปั่นจักรยานจากวัดพระแก้วมรกต ไปยังวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทดฯ ระหว่างกว่า 200 กม. และพร้อมที่จะให้หลวงพ่อคูณ เหยียบหัวหรือถ้าท่านมีแรงกระทืบหัวได้ก็ยอมทุกอย่าง ขอให้ท่านหายจากอาการอาพาธครั้งนี้ หากใครจะมาร่วมในการปั่นจักรยานถวายเพื่อให้ท่านหายอาพาธก็ยินดี

...

ทั้งนี้ ช่วงเย็นนายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางเยี่ยมอาการหลวงพ่อคูณ พร้อมแจกกันดอกไม้

ขณะที่ นางอัญมณี บรรดาศักดิ์ อายุ 65 ปี ชาวอำเภอห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงพ่อคูณ มากว่า 32 ปี ได้เดินทางพร้อมด้วยครอบครัว และเพื่อนบ้านพอทราบข่าวหลวงพ่อคูณ อาพาธหนักได้พากันมาเพื่อเยี่ยมอาการ แต่คณะแพทย์ และเจ้าหน้าที่ รพ.มหาราชฯ ไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม โดยได้นำดอกไม้ พวงมาลัยมาเยี่ยมอาการด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับกล่าวว่า ตนเป็นลูกศิษย์ที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อคูณ ซึ่งจะเดินทางมากราบหลวงพ่อฯ เป็นประจำไม่เคยขาด ตนทราบเมื่อเช้านี้จากข่าวที่ปรากฏออกมาทางสื่อรู้สึกตกใจและสงสารหลวงพ่อคูณมาก ตนได้แต่ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองให้ท่านหายเป็นปกติโดยเร็ว.