ก่อนมรณภาพ 3 วัน ผู้ตายได้ทำหนังสือทวงเงินคืน มจร.ประมาณ 3 ล้านบาท จากพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่นำเงิน มจร. ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และถูก สตง.ตรวจสอบดำเนินคดี ส่วนประเด็นการถูกสังหารจากเรื่องชิงทรัพย์ตำรวจก็ยังไม่ตัดทิ้ง
ตามที่ “ไทยรัฐ” ได้เปิดโปงคดีฆ่าโหดพระศรีสกลกิจ อายุ 73 ปี อดีตรองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร และเจ้าอาวาสวัดศรีสุมังค์ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งเหตุการณ์ได้ผ่านมาร่วม 3 ปี แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ญาติและบรรดาศิษย์ที่ศรัทธาได้ออกมาเรียกร้องให้ตำรวจเร่งสืบหาตัวคนร้ายและผู้ที่อยู่เบื้องหลังบงการฆ่า กระทั่งต่อมา พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 ได้สั่งให้รื้อคดีขึ้นมาสอบสวนใหม่ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 เป็นหัวหน้าชุดนำทีมสืบสวนพร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงศ์สมาน ผบก.สส.ภ.4 เข้าสะสางคดี โดยตั้งประเด็นการสังหารมาจากเรื่องความขัดแย้งในวงการสงฆ์ เนื่องจากพบว่าพระศรีสกลกิจผู้ตาย เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร อาวุโสรูปที่ 1 และเป็นประธานบริหารหน่วยวิทยบริการสกลนครมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) โดยก่อนมรณภาพ 3 วัน ผู้ตายได้ทำหนังสือทวงเงินคืน มจร.ประมาณ 3 ล้านบาท จากพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่นำเงิน มจร. ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และถูก สตง.ตรวจสอบดำเนินคดี ส่วนประเด็นการถูกสังหารจากเรื่องชิงทรัพย์ตำรวจก็ยังไม่ตัดทิ้ง
หลังจากคดีนี้ถูกตีแผ่และได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พุทธศาสนิกชน หน่วยงานองค์กรชาวพุทธต่างๆรวมทั้งคณะสงฆ์สกลนคร ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับคนร้ายจำนวน 1 แสนบาท ล่าสุดพบหลักฐานชิ้นใหม่มีพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งมีพฤติกรรมพัวพันกับธุรกิจซื้อขายที่ดินและสร้างบ้านจัดสรร ซึ่งขัดต่อกฎของมหาเถรสมาคมและประกาศข้อห้ามเกี่ยวกับวินัยสงฆ์ ซึ่งตำรวจกำลังตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีนี้หรือไม่
...
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจภูมิภาค “ไทยรัฐ” ได้ไปสอบถามข้อเท็จจริงจากนายวรพงศ์ วงศ์สุวรรณ เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน ผู้รับผิดชอบงานร้องเรียนและคุ้มครองพระศาสนา สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนคร โดยนายวรพงศ์กล่าวว่า ในช่วงปี 2554-2555 มีพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งทำธุรกิจบ้านจัดสรรและถูกคู่กรณีฟ้องเรียกค่าเสียหายจริง โดยเรื่องยุติที่ศาล พระผู้ใหญ่ดังกล่าวต้องจ่ายเงินตามศาลสั่งเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ที่ผ่านมากรณีพระผู้ใหญ่ทำธุรกิจบ้านจัดสรรและถูกฟ้องศาลไม่เคยปรากฏมาก่อน นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีเรื่องพิพาทอย่างนี้และคดีนี้ สนง.พระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ลงมาสอบสวนเอง พระผู้ใหญ่รูปนี้พำนักอยู่ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นโท ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร สอบถามหาพระชั้นผู้ใหญ่กรณีทำธุรกิจบ้านจัดสรร จนถูกผู้เสียหายฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง แต่พระลูกวัดและญาติโยมของวัดที่นั่งอยู่โต๊ะบริการให้บูชาดอกไม้ธูปเทียนแก่นักท่องเที่ยวในบริเวณวัด ไม่มีใครกล้าตอบ บอกเพียงว่าพระชั้นผู้ใหญ่รูปนั้นไม่รับกิจนิมนต์ และไม่ทราบว่าพำนักอยู่กุฏิไหนต้องสอบถามกับท่านเอาเอง ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.