จากกรณีที่มีการแชร์ภาพการปฏิบัติงานของ ร.ต.อ.(หญิง) กัญญารัตน์ เฉียบแหลม หรือ ผู้กองบี รอง สว.จร.สภ.เมืองเพชรบุรี ในโลกออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย โดยมีเสียงชื่นชมว่าเป็นตำรวจหญิง ที่ตั้งใจทำงาน อย่างไรก็ดี หลังจากมีเสียงชื่นชมไม่นาน กลับมีกระแสข่าวว่าผู้กองบี ถูกตั้งกรรมการสอบสวนถึงเรื่องการแต่งกายไม่เหมาะสม กระทั่ง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช. ได้ยืนยันว่าคำสั่งสอบสวนดังกล่าว "ไม่เป็นความจริง" แต่อย่างใด ส่วนรูปที่มีการแชร์อย่างกว้างขวางนั้น เป็น "ภาพตัดต่อ" เพราะรูปจริงๆ ไม่ได้รัดรูปอย่างที่เห็นกัน
จากเรื่องราวดังกล่าว ทาง ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้เดินหน้าไขคำตอบ ว่า แท้ที่จริงแล้ว ระเบียบการแต่งกายที่ถูกต้องของตำรวจหญิง จะต้องแต่งตัวอย่างไร ทำไมบางคนใส่กระโปรง บางคนใส่กางเกง เรื่องนี้ พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือ "หมอแอร์" รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ไขข้องใจให้ฟังว่า...
...
ไขกฎแต่งกาย ต้องใส่ชุดพอดี บางครั้งอ้วนขึ้น ชุดก็ฟิตเปรี๊ยะ
สาวดอกไม้เหล็กแห่ง สตช. กล่าวว่า การแต่งกายของผู้กองบีนั้น ส่วนตัวยังไม่เห็นว่ารัดรูปมากขนาดไหน แต่จากที่เห็นกองร้อยน้ำหวาน หรือตำรวจหญิงส่วนใหญ่ล้วนแต่งกายเรียบร้อยดี ไม่ได้ดูรัดรูป แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องรัดรูปนั้น บางครั้งจะเห็นว่าแม้แต่ตำรวจชายก็ตาม อาจจะใส่ชุดรัดรูปบ้าง ไม่ใช่เพราะความตั้งใจที่จะแต่งกายแบบนั้น เพียงแต่อาจจะอ้วนขึ้น พุงออก สะโพกผาย จึงดูรัดรูปหรือมองว่าไม่เหมาะสม แต่เนื่องจากว่าการตัดชุดข้าราชการตำรวจต่อชุดค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น ลำพังเงินเดือนของข้าราชการตำรวจแล้ว หากคิดจะตัดชุดบ่อยครั้ง คงจะลำบาก
หมอแอร์ กล่าวต่อว่า ในระเบียบจะว่าด้วยเรื่องการแต่งกายของข้าราชการตำรวจ จะมีเครื่องแบบหลายแบบ ขึ้นอยู่กับงานหรือพิธี โดยส่วนของเครื่องแบบจะมีระบุไว้ว่ามีความสั้นและความยาวได้เท่าไร ซึ่งในระเบียบจะมีกำหนดไว้หมดแล้ว ส่วนเรื่องความรัดรูปนั้น ในระเบียบก็ระบุอีกว่าให้ตัดแบบพอดีตัว ตามความเหมาะสม เท่านั้น
ทั้งนี้ กฎกระทรวงว่าด้วยเครื่องแบบตำรวจ พ.ศ.2477 ระบุ เรื่องการแต่งกายของตำรวจหญิงไว้ดังนี้
กระโปรงและกางเกง
(1) กระโปรงสีกากี ยาวครึ่งน่อง ตรงกลางด้านหลังมีจีบพับทบ ชายกระโปรงไม่บาน และไม่มีกระเป๋า
(2) กระโปรงสีขาวมีลักษณะเช่นเดียวกับกระโปรงสีกากี
(3) กระโปรงสีดำ มีลักษณะเช่นเดียวกับกระโปรงสีกากี
(4) กางเกงขายาวสีกากี ผ่าเอวทางด้านซ้าย ปลายขากว้างไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร และไม่เกิน 24 เซนติเมตร ไม่พับปลายขา
(5) กางเกงขายาวสีกากีแกมเขียวมีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 8 (4)
(6) กางเกงขายาวกระเป๋าย่ามสีกากีแกมเขียวมีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 8 (5)
ทำไมตำรวจหญิงใส่ "กางเกง" หรือ "กระโปรง" บ้าง
พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี อธิบายเพิ่มเติมว่า รายละเอียดเครื่องแบบตำรวจหญิงนั้นจะมีทั้งกระโปรงและกางเกง ซึ่งในระเบียบจะระบุไว้อยู่แล้วว่าควรแต่งกายแบบใด เพราะไม่ว่าจะแต่งเครื่องแบบกางเกงหรือกระโปรง ล้วนขึ้นอยู่กับเนื้องานที่รับผิดชอบโดยแต่ละหน้าที่ก็ต้องคำนึงถึงความสะดวกและคล่องแคล่วเป็นหลัก หากเป็นตำรวจจราจรหญิงจะต้องลงพื้นที่ไปโบกรถ ใช้ความทะมัดทะแมงและคล่องตัว จึงจำเป็นจะต้องแต่งเครื่องแบบที่เป็นกางเกงอยู่แล้ว
...
เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้ตำรวจหญิงใส่เฉพาะกางเกง
หมอแอร์ กล่าวว่า จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปลี่ยนระเบียบให้ตำรวจหญิงใส่เฉพาะกางเกงปฏิบัติหน้าที่นั้น ส่วนตัวมองว่า ตามระเบียบเดิมที่กำหนดไว้ก็ดีอยู่แล้ว คือมีทั้งเครื่องแบบที่เป็นกางเกง และ กระโปรง เพราะตำรวจหญิงปฏิบัติหน้าที่แตกต่างกันตามสายงาน ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับสายงานตามความเหมาะสมมากกว่า
"อยากฝากถึงข้าราชการตำรวจหญิงแต่งกายให้ถูกต้องตามกฎระเบียบที่ว่าด้วยเรื่องของข้าราชการตำรวจอย่างเคร่งครัด เพราะกฎระเบียบที่ออกมานั้นเป็นกฎที่ผ่านกระบวนการคิดกลั่นกรองและประสบการณ์มาแล้วว่าเป็นเครื่องแบบที่เหมาะสมและสวยงาม รวมถึงเรื่องของการรวบผมและเก็บผมให้เรียบร้อย เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม ซึ่งต้องบอกว่าอาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่มีเกียรติ ประชาชนค่อนข้างให้ความสำคัญและสนใจ ดังนั้น เมื่ออยู่ในเครื่องแบบก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด"
ตอบข้อสงสัยสังคม ไฉน ตำรวจหญิงเติบโตช้า เลื่อนขั้นยาก
...
สุดท้าย ทางทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ถามว่า อุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจหญิงคืออะไร เหตุใดจึงไม่ค่อยเห็นข้าราชการหญิงได้เลื่อนยศ หากเทียบกับข้าราชการตำรวจชาย หมอแอร์ได้ให้คำตอบว่า
"คิดว่าการเลื่อนขั้นของตำรวจหญิงก็เป็นปกติ เพียงแต่ตำรวจหญิงอาจจะมีปริมาณน้อย ซึ่งข้าราชการตำรวจจะมีหลายสาย ทั้งสายการแพทย์ สายธุรการ และสายพนักงานสอบสวน ส่วนด้านอุปสรรคนั้น ในแต่ละสายงานจะไม่เหมือนกัน งานบางประเภทผู้หญิงอาจจะถนัดมากกว่า หรืองานบางประเภทผู้ชายก็ถนัดมากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงจะไม่สามารถทำได้ เพราะสามารถฝึกฝนกันได้เหมือนกัน" รองโฆษก สตช. กล่าวทิ้งท้าย