ตำรวจบางบัวทอง จับกุมตัว 2 ใน 3 คนร้าย ปล้นแท็กซื่ ใช้มีดทำร้ายร่างกายโชเฟอร์ ก่อนถีบตกคลอง สารภาพเลือกพื้นที่ลงมือ นำเงินใช้เที่ยวเตร่...

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 25 เม.ย. 58 เกิดเหตุคนร้ายปล้นชิงทรัพย์รถแท็กซี่ สีชมพูคาดขาว ทะเบียน ทษ 4814 กทม. ของนายประดิษฐ์ พินงาม โดยทำทีเรียกมาจากหมู่บ้านพฤกษา 3 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อให้ไปส่งที่แยกคอกวัว เมื่อมาถึงทางเปลี่ยวบริเวณซอยวัดลาดปลาดุก ก่อนจะชิงเอาเงินสดจำนวน 1,250 บาท โดยคนร้ายได้ทำร้ายร่างกายคนขับได้รับบาดเจ็บ มีแผลถลอกที่โหนกแก้มและตามร่างกาย พร้อมกับถีบคนขับจนตกลงไปในคลอง โชคดีมีพลเมืองดีให้การช่วยเหลือ
 
หลังเกิดเหตุ นายประดิษฐ์ ได้โทรแจ้งตำรวจ 191 และเจ้าของอู่รถเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางบัวทอง ไว้ จากนั้นได้ใช้ระบบ GPS เพื่อติดตาม ต่อมา พ.ต.ท.ทนุรัฐ เบญจมาศ สารวัตรปราบปราม สน.สำราญราษฎร์ ได้รับแจ้งทางวิทยุว่า จับสัญญาณ GPS ได้บริเวณหน้า ร.ร.สตรีวิทยา 2 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน จึงไปตรวจสอบพบ รถมีลักษณะตรงตามที่แจ้ง แต่ป้ายทะเบียนถูกถอดออก จึงตัดสินใจเข้าสกัดไว้ก่อน ระหว่างนั้นคนร้ายทั้ง 3 ได้พยายามวิ่งหลบหนี แต่ถูกจับได้ 1 ราย คือ นายมงคล รัชตพฤกษ์ หรือ ต้า อายุ 20 ปี ส่วนอีก 2 คนตำรวจอยู่ระหว่างปิดล้อมและสกัดจับหลังวิ่งหลบหนีทางแยกคอกวัว

ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. ฝ่ายสืบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นำโดย พ.ต.ท.รุ่งรวี สุขัง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ อัฑฒพงษ์ สว.สส สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้สามารถติดตามตัวจับกุม นายนวพล รอดบำรุง หรือ บอล อายุ 20 ปี ที่ตลาดหมู่บ้านพฤกษา 3 และนายดำ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ที่บ้านย่านบางบัวทอง หลังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

...

ก่อนหน้าจากการสอบสอบสวน เบื้องต้นทั้ง 3 คนได้ทำการก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วรวม 3 ครั้ง ซึ่งล่าสุดวันที่ 25 เม.ย. ได้ก่อเหตุภายในช่วงเวลา 2 ชม. จำนวน 2 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 24 เม.ย.เวลาเดียวกัน โดยใช้มีดทำร้ายผู้เสียหาย คือ นายศักดิ์ขรินทร ทรัพย์วัด อายุ 42 ปีขับรถแท็กซี่โตโยต้า สีชมพู ทล 2744 กทม. คนร้ายได้เรียกรถมาจากแยกคอกวัว มุ่งหน้าหมู่บ้านบัวทอง 4 ได้เงินไป 1,600 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ซึ่งผู้เสียหายบาดเจ็บที่โหนกแก้มซ้าย ซี่โครงซ้าย และต้นคอด้านหลังอีก 2 แผล เย็บรวมทั้งหมด 11 เข็ม

จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพว่า เลือกลงมือในซอยวัดลาดปลาดุกและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเงินและทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุนั้น จะนำไปขายและใช้เที่ยวเตร่

ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุนั้นได้ใช้วิธีการลักษณะก่อเหตุแบบเดียวกัน คือจะว่าจ้างรถแท็กซี่ออกจากหมู่บ้านพฤกษา 3 ในซอยวัดลาดปลาดุก เมื่อมีโอกาสจะก่อเหตุทันที หรือไม่ก็จะไปเที่ยวเตร่ที่ถนนข้าวสารก่อน แล้วเรียกแท็กซี่ให้มาส่งที่หมู่บ้านพฤกษา 3 และมีการให้ไปเส้นทางที่เปลี่ยว หลังจากนั้นจึงลงมือก่อเหตุ
 
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและพกพาไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป