เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา หลายคน คงเดินทางกลับบ้านตามภูมิลำเนาต่างๆ เพื่อหาครอบครัว รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ บ้างก็ได้เล่นสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน แต่ช่วงเทศกาลดังกล่าว กลับมีข่าวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ กับคดีฆาตกรรมวิปริต

เหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 เมษายน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกฆ่าหมกห้องพักหมายเลข 415 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ช้างคลาน ที่ห้อง เจ้าหน้าที่พบภาพสะเทือนใจ กับร่างไร้วิญญาณของหญิงสาว อายุราว 25-30 ปี ไว้ผมยาวประบ่า เปลือยล่อนจ้อน นอนคว่ำหน้าที่พื้นห้องน้ำ ที่ไหล่ขวามีรอยสักผีเสื้อ ที่เอวรูปจิ้งจก สภาพใบหน้าบวมปูดคล้ายถูกของแข็งตี ศีรษะบวมปูด มีเลือดไหลออกจากปากจมูก ที่หน้าอกทั้งสองข้างมีรอยกัด บนพื้นห้องพบกองเลือด มีรอยลากเข้าห้องน้ำ รอยเลือดเปรอะที่นอน มีน้ำดื่มปากขวดแตกวางอยู่ คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้สังหารผู้ตาย เบื้องต้น แพทย์ลงความเห็นว่าถูกตีด้วยขวดเลือดคั่งในสมอง และมีอาการสำลักเลือด เมื่อตรวจสอบกับทางโรงแรมทราบว่าผู้ตายได้เข้ามากับชายผอมสูง ใส่เสื้อลายสกอต กระทั่ง 9 โมงเศษ ชายคนดังกล่าวก็ได้ออกจากโรงแรม ส่วนหญิงสาวผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ดาว (นามสมมติ) อายุ 33 ปี พนักงานสาวร้านบาร์เบียร์แห่งหนึ่ง

ตะลึง! ผลชันสูตร พบขวดในท้อง

เมื่อชันสูตรอย่างละเอียด พบว่า ศพมีรอยช้ำบริเวณใบหน้า ส่วนช่องคลอดและทวารหนักฉีกขาด ภายในท้องพบขวดน้ำดื่มชนิดเดียวกับที่พบในห้องพัก ซึ่งเป็นขวดน้ำทำด้วยแก้วใส สันนิษฐานว่าฆาตกรยัดขวดใบดังกล่าวเข้าทางทวารหนักของผู้ตาย

สำหรับชิ้นเนื้อที่พบที่พื้นห้อง คือส่วนของลำไส้และไขมันในช่องท้อง สันนิษฐานมาจากถูกขวดแก้วยัดเข้าไปอย่างรุนแรง จนทำให้มีชิ้นเนื้อหลุดออกมา สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตคือเสียเลือดจำนวนมากจากบาดแผลที่อวัยวะภายในช่องท้อง เพราะรอยบาดแผลที่ทวารหนัก เชื่อได้ว่าคนร้ายยัดขวดเข้าไปขณะที่เหยื่อยังมีชีวิตอยู่ จนผู้ตายทรมานมากก่อนสิ้นใจ

...

รวบได้แล้ว ฆาตกรวิปริต

เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 2 วัน ติดตามล่าตัวคนร้าย ในที่สุด ก็สามารถจับกุมฆาตกรอำมหิต แม้ในช่วงแรกจะหลงทางคาดคิดว่าคนร้ายเป็นชาวต่างชาติ แต่สุดท้ายก็ตามรวบฆาตกรมีพฤติกรรมซาดิสม์รายนี้ได้ในที่สุด ทราบชื่อคือ นายภรา ชูศรี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/69 หมู่ 2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งได้หนีไปกบดานที่ห้องพัก ที่เกสต์เฮาส์แห่งหนึ่ง ถนนช้างม่อย ตรงข้ามตลาดสมเพชร ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่

"ผู้ตายเป็นแฟนสาวจะตีจากไปมีแฟนใหม่ชาวต่างชาติ จนเกิดหึงหวง ส่วนที่ลงมือจนเหยื่อเสียชีวิตทำไปโดยไม่รู้สึกตัวเนื่องจากเมาเหล้าและกินยากล่อมประสาท"... นี่คือคำสารภาพจากฆาตกรวิปริตรายนี้ ซึ่งเป็นคำตอบง่ายๆ สั้นๆ แต่กลับทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างโหดเหี้ยม! 

พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ บอกกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า ที่สามารถตามจับกุมนายภรา ได้ ต้องชื่นชมการทำงานของลูกน้องทุกคน เพราะหลังเกิดเหตุ ก็ระดมไล่ล่าอย่างเต็มที่ ซึ่งได้แกะรอยจากรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กบ 9021 ของคนร้าย ที่โผล่ในภาพวงจรปิด จากนั้นก็ตามรอยลงพื้นที่และตามจับได้ในที่สุด

ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ บอกอีกว่า ไม่ได้นำนายภรา ส่งตรวจสภาพจิต เนื่องจากคำสารภาพที่ได้ เพราะฤทธิ์ยากล่อมประสาท โดยกินผสมกับสุรา จากนั้นจึงลงมือก่อเหตุ

ช็อก! ไม่ใช่คดีแรก เคยฆ่าโหดสาวทอมมาแล้ว

หลังจากจับกุม นายภรา วันที่ 18 เม.ย. ร.ต.ท.นพดล จำปีแขก พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ก็ได้เข้าประสานกับ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อเข้าสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้ ถึงคดีที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2549 โดยได้มีเหตุฆาตกรรมลักษณะคล้ายกันในพื้นที่ โดยพบศพ น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) ทำงานเป็นสาวบาร์อะโกโก้ ถูกคนร้ายฆ่าเปลือย กัดลำคอกับหัวนม และใช้ขวดเบียร์ยัดอวัยวะเพศจนฉีกขาดถึงทวารหนัก เสียชีวิตอย่างทารุณคาห้องน้ำในหอพัก เกสต์เฮาส์ ย่านซอยสะพานคู่ ถนนพระราม 4 เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ปี 2549

และจากการสอบสวน นายภรา ยอมรับว่า ลงมือจริง และได้หลบหนีคดีมา จากนั้นค่อยมาลงมือก่อเหตุในคดีล่าสุด นอกจากนี้ นายภรา ยังได้กล่าวขอขมาต่อหน้ารูปถ่าย น.ส.เอ๋ ผู้ตาย ขอให้ยกโทษและอโหสิกรรมต่อความผิดที่ได้กระทำลงไปด้วย

เมื่อตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด พฤติกรรมเหมือนฆาตกรต่อเนื่อง เคยติดคุกในคดีฆ่าผู้อื่นในท้องที่ กทม. เมื่อปี 2539 พ้นโทษออกมาเมื่อปี 2546 และเคยเปลี่ยนชื่อตัวเองมาถึง 10 ครั้ง คาดว่านอกจากจะก่อคดีในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ สน.ทุ่งมหาเมฆ ตามที่ให้การรับสารภาพ ผู้ต้องหารายนี้น่าจะก่อเหตุฆาตกรรมหญิงบริการในพื้นที่อื่นอีกหลายคดี

...

ชอบทำร้ายคู่นอน เข้าข่าย "เซ็กซ์ซาดิสม์" ถ้าไม่ใช่คือ "เจตนาฆ่า"

ขณะที่ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า จะทราบว่าผู้ต้องหานั้น มีความผิดปกติทางจิตหรือไม่ จะต้องมีการหาข้อมูลในเชิงของนิติจิตเวช มีการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจสุขภาพจิต ทำแบบทดสอบต่างๆ และดูมูลเหตุจูงใจ พยาธิสภาพของจิตผู้ต้องหาตอนกระทำและเวลาปัจจุบัน

จากข้อมูลเบื้องต้นนั้น ผู้ต้องหาอาจจะอยู่ในข่ายต้องสงสัยมีความผิดปกติทางจิตที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ในกรณีนี้ทำให้นึกถึง "การซาดิสม์" คือ การมีความผิดปกติเรื่องเพศ จะต้องทำให้คู่นอนของตนเองนั้นได้รับบาดเจ็บทางด้านร่างกายหรือจิตใจ อย่างใดก็แล้วแต่ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นหลังจากการบาดเจ็บจะกระตุ้นทำให้เกิดความต้องการทางเพศ และนำไปสู่กระบวนการตื่นตัวทางเพศของร่างกาย และเกิดการร่วมเพศตามมา ซึ่งก็คงเข้าข่ายกับเรื่องของเซ็กซ์ซาดิสม์ แต่หากเป็นการโกรธแค้นใช้กำลังทำร้ายเพื่อให้เหยื่อเสียชีวิต แสดงว่าไม่ได้มีเจตนาเกี่ยวโยงเรื่องเพศ ฉะนั้น ก็ไม่ได้เป็นเซ็กซ์ซาดิสม์

“ต้องดูว่าสิ่งที่เขาได้กระทำมันเป็นการจงใจที่จะทำให้ได้รับความเจ็บปวด เพื่อให้เกิดการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของเขา หรือจงใจเพื่อให้เหยื่อเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้!” นพ.ทวีศิลป์ กล่าวทิ้งท้าย

ขวดยัดช่องคลอด ตายได้จริงหรือ?

ทีมข่าวฯ ได้สอบถามไปยัง นพ.สมชาย ธนวัฒนาเจริญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช อธิบายว่า หากเป็นการที่เด็กคลอดออกมา จะมีการเตรียมพร้อมของร่างกาย ยืดขยายช่องคลอดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปากมดลูกก็จะค่อยๆ เปิด เพื่อให้มดลูกบีบตัวไล่เด็กลงมา แต่ว่ายังมีการฉีกขาดของปากช่องคลอด ซึ่งแพทย์จะเย็บให้ ไม่มีปัญหา

...

แต่กรณีดังกล่าว เหยื่อไม่ได้ถูกเตรียมช่องคลอดสำหรับขยายบางสิ่งบางอย่าง ฉะนั้น จะต้องใช้กำลังดันขวดเข้าไป และแน่นอนว่า เมื่อใช้กำลังก็จะเกิดการฉีกขาดของช่องคลอด ซึ่งช่องคลอดเป็นทางตัน เมื่อดันเข้าไปเรื่อยๆ ขวดจะไปชนกับปากมดลูกและมดลูก โดยคดีนี้มีการดันจนขวดหายไป แสดงว่าผู้ต้องหาทำให้เกิดการฉีกขาดในช่องท้องแล้ว และเมื่อฉีกขาดในช่องท้องก็ขึ้นอยู่กับว่าไปทำให้อะไรฉีกขาดบ้าง ถ้าไปทำให้ลำไส้ฉีกขาด ก็มีเลือดออกทางลำไส้ ถ้าไปทำให้กระเพาะปัสสาวะฉีกขาดก็มีเลือดออกในกระเพาะ ซึ่งในกรณีนี้เลือดคงออกในช่องท้องเยอะ จนกระทั่งคนไข้อยู่ในสภาวะช็อก ขาดเลือดจนเสียชีวิต

อ้าง ยากล่อมประสาท-เหล้า ทำให้เกิดพฤติกรรมวิปริต ?

นอกจากนี้ นพ.สมชาย เผยว่า คนที่มีพฤติกรรมนี้เชื่อว่าน่าจะมีพื้นเพเดิมที่มีการทารุณกรรมแบบนี้อยู่แล้วหรือไม่ก็เป็นกลุ่มเก็บกดที่จะสามารถออกมาทำร้ายคนอื่นได้ แต่การที่โดนฤทธิ์ยากล่อมประสาทและเหล้า อาจเป็นตัวช่วยกระตุ้นทำให้เกิดความกล้า และขาดความยั้งคิด

ทั้งนี้ หากมีการพิสูจน์แล้วว่า ผู้ก่อเหตุคือฆาตกรคนคนเดียวกัน ก็แสดงว่าผู้ต้องหาซาดิสม์รายนี้ย่อมรู้แก่ใจดีอยู่แล้วว่า การกระทำดังกล่าวอาจจะทำให้หญิงสาวถึงแก่ความตายได้ แต่ยังก่อเหตุซ้ำ คล้ายกับ "เจตนาฆาตกรรม" ต่อให้จุดธูปขออโหสิกรรม หมื่นหรือล้านครั้ง คงไม่เพียงพอต่อการให้อภัยจากญาติหรือสังคม!!