ศาลเลื่อนตรวจพยานหลักฐานคดีชายชุดดำใช้อาวุธสงครามถล่มแยกคอกวัว เป็นวันที่ 18 พ.ค.นี้ หลังดีเอสไอชงฟ้องก่อการร้าย...
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 เม.ย. 58 ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีชายชุดดำ หมายเลขดำ อ.4022/2557 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มศรี อายุ 46 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร นายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 25 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา อายุ 34 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย อายุ 46 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร และนางปุนิกา หรืออร ชูศรี อายุ 40 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐาน ร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 8 ทวิ, 55, 72 ทวิ และ 78 และพกพาอาวุธไปในที่ชุมชนฯ โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีต่อศาลเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 57
ทั้งนี้ ระบุพฤติการณ์ความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 จำเลยทั้งห้ากับพวกที่ยังหลบหนี และพวกที่ถึงแก่ความตายไปแล้ว ได้บังอาจร่วมกันกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน โดยร่วมกันพาอาวุธ เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด ที่สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตร่างกาย หรือทรัพย์สินให้เกิดความเสียหายได้ อาทิ เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79, อาวุธปืนเอ็ม 16, อาวุธปืนเอชเค 33 หรือปืนอาก้า พร้อมเครื่องกระสุน ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไปที่บริเวณแยกคอกวัวถนนตะนาว, ถนนประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร อื่นๆ ซึ่งเป็นเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ทั้งในเวลาเกิดเหตุมีการชุมนุมกันของประชาชนจำนวนมาก ตามวัน เวลาเกิดเหตุเจ้าพนักงานยึดได้อาวุธสงครามของกลาง
...
กระทั่งวันที่ 11 ก.ย. 2557 เจ้าพนักงานติดตามจับกุมพวกจำเลยได้ส่งพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดี โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธโดยวันนี้เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ขณะที่มีเพียงญาติสนิทมาให้กำลังใจเท่านั้นต่อมาพนักงานอัยการโจทก์เจ้าของสำนวนได้แถลงต่อศาลขอให้เลื่อนนัดตรวจหลักฐานออกไปก่อน เนื่องจากตนเพิ่งได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบสำนวนนี้แทนพนักงานอัยการคนก่อน และทางอัยการสูงสุดได้พิจารณาสำนวนความเห็นแย้งของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่เห็นควรให้อัยการสูงสุดสั่งฟ้องจำเลยทั้งห้าในข้อหาก่อการร้ายแล้ว จึงสั่งให้ตนสอบสวนเพิ่มเติม
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเหตุผลที่โจทก์แถลงเป็นเหตุผลสำคัญที่ไม่อาจก้าวล่วงได้ จึงอนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปเป็นวันที่ 18 พ.ค. เวลา 13.30 น. แต่เนื่องจากจำเลยทั้งห้าถูกคุมขังโดยไม่ได้รับการประกันตัว จึงกำชับให้อัยการโจทก์เร่งสอบพยานเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าและสามารถตรวจพยานหลักฐานในวันดังกล่าวได้