ตร.ภาค5 รวบ "โกเก๊า ผู้กว้างขวางลำพูน" อดีตนายก อบจ.ลำพูน คดีทุจริตลำไยปี 47 ตามหมายจับ เจ้าตัวลั่นไม่ผิด ขอสู้ในชั้นศาล พร้อมจ่าย 200 กว่าล้าน หากผิดจริง แต่หากไม่ผิดจ่อฟ้องหมด...
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 24 มี.ค.นี้ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 ได้ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุมตัว นายประเสริฐ หรือ โกเก๊า ภู่พิสิฐ อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ 5 ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูน อดีตนายก อบจ.ลำพูน และอดีตประธานหอการค้า จังหวัดลำพูน ตามหมายจับของศาลจังหวัดลำพูน ที่ 176/2557 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 โดยจับกุมนายประเสริฐ หรือโกเก๊า ขณะขับรถยนต์ ออกจากบ้าน จะไปยังโรงงานในเขตอุตสาหกรรมลำพูน จากการตรวจค้นในรถพบอาวุธปืนสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืน 25 นัด
พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ เผยว่า นายประเสริฐ หรือโกเก๊า มีคดีฉ้อโกงเรื่องการทุจริตการซื้อขายลำไย เมื่อปี 2547 ที่ไปให้เกษตรกร อ.ลี้ จ.ลำพูน จำนวนถึง 2,200 คน มาดำเนินการร่วมกันปลอมเอกสารโดยนำสำเนาทะเบียนบ้านสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนไปให้เกษตกรตำบลในสมัยนั้น ไปเพื่อดำเนินการในเรื่องของการกรอกเอกสารไป ลย.1 ด้วยตนเอง และนำไปเบิกเงินกับ อ.ต.ก.ได้เงินถึงรายละ 2 แสนกว่าบาท รวมเป็นเงิน 250 ล้านบาทที่ อ.ต.ก.สูญเสียเงินไป และไม่มีการรับซื้อลำไย แต่อย่างใด จึงการแจ้งความดำเนินคดี กระทั่งศาลออกหมายจับ และมีการติดตามจับกุมตัวได้
นายประเสริฐ หรือ โกเก๊า ได้ให้การปฏิเสธ จะไปขอสู้ในชั้นศาล โดยยืนยันไม่เกี่ยวอะไรกับคดีปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่มีสิทธิอะไร ที่จะไปสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะไม่ใช่คู่สัญญาของรัฐ หากผิดจริง ตนยินดีจ่าย 200 กว่าล้าน หากไม่ผิดคนที่ฟ้องเตรียมตัวเลย เพราะตนเป็นที่รู้จักของสังคม และวันนี้ถูกตัดสินไปแล้วว่าเป็นผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไม่เคยหลบหนีไปไหน หรือไม่เคยทราบว่ามีหมายจับ
...
ขณะที่พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 ได้กล่าวเสริมว่า ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ เกิดเมื่อปี 2547 ลักษณะเหมือนโครงการรับจำนำข้าวในช่วงนั้น ใครเป็นรัฐบาลก็ให้ไปไล่ดู โกเก๊า มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองใหญ่ใน จ.ลำพูน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน และเคยเป็นอดีตนายก อบจ.ลำพูน และมูลค่าความเสียหายในโครงการนี้ประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยวิธีการเหมือนโครงการรับจำนำข้าวทุกอย่าง มีการให้เกษตกรมาลงทะเบียน เหมือนกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว มีการเอาเงินงบประมาณมารับซื้อลำไยในราคาประกัน กิโลกรัมละ 5-15 บาท มีเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก.มาเป็นเจ้าภาพ และมีเอกชนมารับช่วง
"มีการระบายมีการนำเกษตรกรมีตัวบ้าง ไม่มีตัวบ้างมาใช้ชื่อนำลำไยมาขายและมีโกดังเก็บที่เรียกว่า "สต๊อกลม" มีการนำลำไยเกรดเอ ไปขายและแทงบัญชีเป็นเกรดบี มีส่วนต่างมาก ซึ่งมีข้อเท็จจริงที่จะต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาลต่อไป"พล.ต.ต.ปชา กล่าวในที่สุด