อดีตผบ.นย.นำทีมขี่ม้าศึกในโครงการ‘ตามรอยพระบาท248 ปี เส้นทางสายอิสรภาพ สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ออกจากวัดพิชัยสงคราม มุ่งหน้าเมืองจันทบุรี คาดใช้เวลา 33 วัน ผ่าน 8 จังหวัด มุ่งเทิดพระเกียรติ และศึกษาประวัติศาสตร์    

เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2558 ที่วัดพิชัยสงคราม ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ร.อ.วสินธ์ สาริกะภูติ อดีตผู้บัญชาการนาวิกโยธิน ประธานโครงการ ‘ตามรอยพระบาท 248 ปี เส้นทางสายอิสรภาพ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช’ ร่วมกับสมาคมเตชะสัมพันธ์ โดยนายมนตรี วิไลสมสกุล นายสุชาติ กนกรัตน์มณี นำม้าศึก 8 ตัวออกเดินทางโดยมีนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานปล่อยขบวนม้า และพระเดชพระคุณหลวงพ่ออุดม เจ้าอาวาส วัดพิชัยสงคราม และพระเกจิชื่อดังแห่งอยุธยา ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

ทั้งนี้ คณะตามรอยพระเจ้าตากฯ มีกำหนดการตั้งแต่ วันที่ 16 มีนาคม ถึง 17 เมษายน 2558 รวม 33 วัน เดินทางจากจ.พระนครศรีอยุธยา ถึงเมืองจันทบุรี โดยในวันแรกนี้จะเดินทัพไปยังหมู่บ้านโพธิ์สาวหาญ อ.อุทัย และพักที่วัดพรานนก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

...

จากนั้นจะออกเดินทางตามรอยสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ผ่านจังหวัดต่างๆ เริ่มจากพระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี วัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติ วีรกรรมของพระเจ้าตากสินมหาราช ทั้งยังเป็นการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ พร้อมดึงนักวิชาการท้องถิ่นให้เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยใช้เส้นทางการเดินทางใกล้เคียงความจริงมากที่สุด

สำหรับประวัติศาสตร์ในเรื่องนี้ มีบันทึกไว้ว่า"วันเสาร์ขึ้น 4 ค่ำ เดือนยี่ ปี จอ อัฐศก (จุลศักราช 1128 ตรงกับพุทธศักราช 2309) ขณะกองทัพพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่ พระยาวชิรปราการ (สิน) เจ้าเมืองตาก ประเมินสถานการณ์อย่างแน่นอน กรุงศรีอยุธยา ต้องเสียให้แก่ พม่า เพราะทุกคนขาดความสามัคคีจึงรวบรวม ทหารหาญประมาณ 1,000 คน ฝ่ากองทัพพม่าข้ามลำแม่น้ำป่าสัก รวมพล ณ วัดพิช้ยร่วมให้สัตยาอธิษฐาน ต่อพระประธานในพระอุโบสถ ขอให้เดินทางโดยปลอดภัยกลับมากู้กรุงศรีอยุธยา มีชัยชนะต่อข้าศึก เป็นอัศจรรย์ ฝนโปรยลงมา และกลับมากู้อิสรภาพ ปราบดาขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระเจ้ากรุงธนบุรี และต่อมาได้รับการถวายพระเกียรติเป็นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช".