เจรจารายเดิมหรือประมูล-รฟม.ชง 3 ข้อดีให้รายเก่าเดินรถ

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.ถึงความคืบหน้าการเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) ว่า จากมติ ครม.วันที่ 10 มี.ค. 58 ที่ให้ดำเนินการจัดหาผู้เดินรถด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานนั้น รฟม.ระบุว่าแนวทางการเจรจากับผู้รับสัมปทานเดินรถเดิมของสายสีน้ำเงินเฉลิมรัชมงคล คือบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL นั้น หากตัดสินใจใช้วิธีเจรจากับ BMCL จะสามารถลดค่าใช้จ่ายลง 3 ส่วน คือ 1.ค่าแรกเข้าระบบ เนื่องจากจะใช้ระบบเดียวกับสายเฉลิมรัชมงคล โดยปกติค่าแรกเข้าระบบที่ต่างเจ้าของกันนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 16 บาทต่อคน คาดว่าจะลดค่าใช้จ่ายลงได้เป็นหลักพันล้านบาท 2.ไม่ต้องลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุง (เดปโป้) เพิ่ม โดยสามารถใช้ศูนย์ซ่อมร่วมกันกับสายเฉลิมรัชมงคลที่ห้วยขวางได้ สามารถลดค่าก่อสร้างส่วนนี้ได้เกือบ 4,000 ล้านบาท และ 3.ลดค่าจัดหารถไฟฟ้า โดยซื้อรถใหม่ส่วนหนึ่ง และใช้รถที่มีอยู่เดิมอีกส่วนหนึ่งร่วมกัน โดยการลดต้นทุนลงได้ 3 ส่วนนี้จะทำให้ค่าบริหารการเดินรถลดลงและส่งผลต่อการกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ต่ำได้

เรื่องนี้ พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.เปิดเผยว่า มติ ครม. ล่าสุดให้คณะกรรมการมาตรา 13 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35 เร่งหาข้อยุติเพื่อให้เปิดเดินรถได้ตามแผน จึงต้องหาข้อยุติในปี 2558 ส่วนจะเป็นวิธีการใดขึ้นกับ คณะ กก.มาตรา 13 ที่มีนายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รฟม. เป็นประธาน ซึ่งได้รายงานให้บอร์ดทราบว่า จะมีการประชุมกันในวันที่ 20 มีนาคมนี้ เพื่อพิจารณาแนวทางว่าจะใช้วิธีเจรจากับ BMCL ผู้เดินรถรายเดิม หรือจะใช้วิธีเปิดประกวดราคา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเดินรถภายใน 2 เดือนนี้ ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างงานโยธาของสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนั้น ขณะนี้คืบหน้าแล้ว 60% จะแล้วเสร็จตามแผนปี 2561

...

ส่วนการเดินรถสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่ง กทม.จะต้องรับหนี้ค่าก่อสร้างงานโยธาแทน รฟม. และหาข้อยุติเรื่องอำนาจการเดินรถนอกเขต กทม. ซึ่งหาก รฟม.สามารถเจรจากับ กทม.ได้ข้อยุติจะเสนอกระทรวงคมนาคมตามขั้นตอน แต่หากตกลงกันไม่ได้ รฟม.จะบริหารจัดการเดินรถเอง โดยอาจจะเจรจาตกลงกับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS หรือบริษัทอื่นให้เดินรถได้ โดยจะพยายามให้เสร็จทันและเปิดเดินรถได้ทันตามแผนปี 2561 ทั้งนี้ รฟม.พยายามเร่งรัดแผนการดำเนินงานเพื่อให้สามารถเปิดเดินรถไฟฟ้าได้ตามแผน.