พบศพหมอนวดสาว แขวนคอดับปริศนากับโคมไฟในแมนชั่นภูเก็ต เจอข้อความเขียนด้วยลิปสติกผสมแป้ง ระบุปัญหา-ฝากขอโทษแม่ หลังมีปากเสียงกับแฟนเก่า ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย โร่แจ้งความสภ.เมืองภูเก็ต ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน ตร.คาดฆ่าตัวตายหรืออาจถูกฆาตกรรมอำพราง...

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 15 มี.ค. 58 ร.ต.ท.จริยวัฒน์ แทนชื่น พงส. สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต พบศพคนผูกคอตายภายในห้องพัก แมนชั่นแห่งหนึ่ง บนถ.พูนผล ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.วชิรา ละเอียดศิลป์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สพฐ.จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุ เป็นอาคารสูง 4 ชั้น โดยรอบมีกลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งกระจายไปทั่ว ภายในห้องพัก ชั้น3 พบศพหญิงสาวสวมชุดแซกสีฟ้าอ่อนคล้องด้วยเชือกสีฟ้าแบบยึดหยุ่นคล้องกับโคมไฟที่ผนังห้อง สภาพศพเริ่มขึ้นอืดบวม ผิวหนังเริ่มผุพองมีน้ำเหลืองและเลือดไหลเยิ้มลงที่พื้นห้อง เบ้าตาถลน ลิ้นจุกปาก มือทั้งสองข้างจับอยู่ที่เชือกบริเวณลำคอ ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย เชือกบริเวณลำคอเป็นการพันรอบแทนการผูก

จากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบทราบชื่อ น.ส.ทวีภัทร์ บุญทวี อายุ 34 ปี ชาวต.ฮางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร มีอาชีพเป็นหมอนวดแผนโบราณในจ.ภูเก็ต คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน

...

นอกจากนี้ ยังพบ ข้อความเขียนด้วยลิปสติกสีแดงและแป้งบนกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งเขียนถึงปัญหาบางอย่าง และยังพบข้อความที่เขียนด้วยลายมือด้วยหมึกปากกา ระบุขอโทษผู้เป็นแม่และฝากดูแลลูกทั้ง 4 คนด้วย พร้อมลงชื่อเล่นผู้ตายไว้ และยังพบกระป๋องเบียร์ที่ดื่มหมดแล้วทิ้งอยู่ในถังขยะ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นมูลนิธิจึงนำศพผู้ตายส่ง รพ.วชิระภูเก็ต เพื่อตรวจหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง

สอบสวนเพื่อนสาวผู้ตาย ทราบว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายมีปากเสียงกับเพื่อนชายคนหนึ่งที่เคยคบหากันมาอย่างรุนแรง จากนั้นเพื่อนๆ ได้พาผู้ตายไปแจ้งความที่ สภ.เมืองภูเก็ต ก่อนจะพาผู้ตายมาส่งที่ห้องพัก โดยเพื่อนๆ ได้ชวนผู้ตายให้ไปนอนด้วยกัน เพราะเกรงว่าจะอดีตเพื่อชายจะย้อนมาทำร้ายได้ แต่ผู้ตายไม่ยอม ขอนอนที่ห้องตามเดิม วันต่อมาไม่เห็นผู้ตายไปทำงาน จึงโทร.มาตามแต่ติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 14 มี.ค. จึงมาตามผู้ตายที่ห้อง พบว่าห้องปิดล็อกด้านใน จึงขอกุญแจสำรองจากแคชเชียร์แมนชั่นเปิดเข้าไป พบว่าผู้ตายผูกคอตายกับโคมไฟที่ผนังห้องแล้ว โดยเพื่อนๆ ไม่เชื่อว่าผู้ตายฆ่าตัวตาย เนื่องจากผู้ตายเพิ่งเก็บเงินเพื่อไปทำศัลยกรรมหน้าอก และเป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลแม่และลูกอีก 4 คน ประกอบกับผู้ตายเพิ่งมีปัญหากับอดีตเพื่อนชาย โดยไม่มีมูลเหตุหรือปัญหาอื่นที่ผู้ตายจะคิดสั้นหรือน้อยใจอะไรถึงขั้นต้องฆ่าตัวตาย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของแมนชั่น แต่ไม่สามารถดูย้อนหลังได้ และเร่งติดตามตัวอดีตเพื่อนชายคนดังกล่าว มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง

พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลื้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต เผยว่า จากการตรวจสอบของ จนท.สพฐ. เบื้องต้นพบเชือกที่ใช้ผูกหรือคล้องศพกับโคมไฟผนังห้องมีลักษณะยืดหยุ่นได้ แต่เป็นเชือกที่ไม่มีปลายและเป็นห่วงยาว จึงสันนิษฐานได้ว่าผู้ตายอาจใช้เชือกเส้นดังกล่าวคล้องกับโคมไฟที่ผนังห้องจากนั้นนำมาคล้องที่บริเวณลำคอและทิ้งตัวให้ถึงพื้นห้อง เพื่อถ่วงน้ำหนักตัว ทำให้เชือกรัดคอจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตในที่สุด ขณะเดียวกัน ถ้าเป็นการฆาตกรรมอำพรางด้วยการใช้เชือกเส้นดังกล่าว อาจจะต้องมีการรัดคอหรือกระทำการบางอย่างให้ผู้ตายไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จากนั้นนำมาแขวนกับเชือก ก่อนที่ผู้ตายพยายามจะดิ้นรนให้หลุด แต่ไม่สามารถนำเชือกคล้องอยู่บริเวณลำคอออกได้ ทำให้เสียชีวิตในที่สุด อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่นิติเวช เนื่องจากลักษณะการเสียชีวิตเป็นไปได้ทั้งฆ่าตัวตายเองและฆาตกรรมอำพราง.