แพทย์ชนบท เย้ยนพ.ณรงค์

โพสต์ป่วนไม่เลิก หมอวัลลภแฉโผ ให้‘ปลัดพาณิชย์’ มาสอบ-ปลัดสธ.

“หมอณรงค์” ประกาศไม่ยึดติดตำแหน่งที่เป็นเพียงหัวโขน ระหว่างไปร่วมบรรยายในโครงการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนการสร้างระบบธรรมาภิบาลในกระทรวงสาธารณสุข ที่อุบลฯ มีบุคลากรสาธารณสุขมาต้อนรับให้กำลังใจเนืองแน่น ส่วนการทบทวนคำสั่งย้ายต้องให้คนที่สั่งย้ายไปคิดเอาเอง และขอทำงานต่อในฐานะหมอคนหนึ่ง ด้านรักษาการปลัดกระทรวงฯเผยเครียดที่ถูกผลักมาทำหน้าที่นี้ แต่จะสานงานต่อ ม็อบประชาคมสาธารณสุขให้กำลังใจหมอณรงค์พ่นพิษ “อำนวย นิ่มมะโน” สั่งย้าย ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี

ยังเป็นประเด็นร้อนในกระทรวงสาธารณสุขและสังคมข้าราชการทั่วไป กรณีความขัดแย้งในกระทรวงสาธารณสุข จนนำพาไปสู่การสั่งย้าย นพ. ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เรื่องการทำงานไม่สนองนโยบายรัฐบาลและ รมว.สาธารณสุข ซึ่งมีกลุ่มประชาคมสาธารณสุขมาให้กำลังใจและคัดค้านคำสั่งย้ายนั้น

ความเคลื่อนไหวของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เมื่อเช้าวันที่ 13 มี.ค. นพ.ณรงค์เดินทางไปที่โรงแรมอุบลบุรี รีสอร์ท จ.อุบลราชธานี ร่วมประชุมโครงการพัฒนาส่งเสริมและสนับสนุน การสร้างธรรมาภิบาลในกลไกอภิบาลระบบในกระทรวงสาธารณสุข มีแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี มารวมตัวต้อนรับและถือป้ายให้กำลังใจ มอบช่อดอกไม้ให้กับ นพ.ณรงค์ที่สนามบิน หลังรับมอบดอกไม้ให้กำลังใจ นพ.ณรงค์กล่าวว่า ไม่ติดยึดกับตำแหน่ง ไม่อยากให้เรื่องย้ายตนทำให้แนวคิดปฏิรูปประเทศของรัฐบาลต้องชะงัก ในกระทรวงสาธารณสุขยังมีงานที่ต้องทำการปฏิรูประบบอยู่หลายอย่าง การที่มีกลุ่มแพทย์ชนบทออกมาเคลื่อนไหวให้ รมว.สาธารณสุขทบทวนคำสั่งย้าย ต้องให้คนที่สั่งย้ายไปคิดเอาเอง ไม่มีความเห็น และยังคงเดินหน้าทำงานตามปกติในฐานะหมอคนหนึ่งต่อไป

สำหรับการเดินทางมาร่วมประชุมดังกล่าวของ นพ.ณรงค์ ครั้งนี้ ได้รับเชิญมาเป็นประธานเปิดงานในฐานะปลัดกระทรวงสาธารณสุขแต่เมื่อมีคำสั่งย้ายจึงมาร่วมงานในฐานะผู้บรรยายเท่านั้น โดยมีนายวัชระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานแทน มีบุคลากรสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในเขตพื้นที่ภาคอีสานทั้งหมด 20 จังหวัด มาร่วมประชุมกว่า 100 คน ซึ่ง นพ.ณรงค์กล่าวว่า การเดินทางมาบรรยาย ได้ขอลางาน กับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้วเป็นเวลา 1 วัน โดยให้เหตุผลว่า เป็นกำหนดการล่วงหน้าจึงขอมาดำเนินการภารกิจที่ค้างไว้ ซึ่งในการบรรยายดังกล่าวจบลงในเวลา 11.40 น.วันเดียวกัน

พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) และกรรมการประชาคมสาธารณสุข หนึ่งในผู้ร่วมประชุม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า ในการประชุมนพ.ณรงค์ ได้พูดถึงเรื่องธรรมาภิบาล ที่อยากให้ประชาคมสาธารณสุข มีความเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อพิทักษ์ปกป้องระบบคุณธรรม และในการประชุมครั้งนี้มีทั้งทหารและตำรวจเข้ามาสอดส่องถึงในห้องประชุม พร้อมทั้งมีการถ่ายรูป ถ่ายวีดิโอ เพื่อดูว่าจะมีการปลุกระดมอะไรหรือไม่และเมื่อคืนวันที่ 12 มี.ค. นายสาคร นาต๊ะ นายกสมาคมหมออนามัย ที่ตั้งใจจะมาร่วมให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ ถูกกักตัวที่สนามบินดอนเมือง ส่งผลให้นายสาคร มาร่วมประชุมไม่ได้ และยังถูกเชิญไปที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ของส่วนกลาง พร้อมให้รายงานตัวทุกชั่วโมงห้ามหลบหนี แต่ตอนนี้ถูกปล่อยตัวมาแล้ว ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังนายสาคร แต่ไม่รับสาย

นพ.วัลลภ ไทยเหนือ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี นพ.ณรงค์โดนคำสั่งให้ย้ายราชการไปช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีทางยุติปัญหาได้ เพราะไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง ขณะนี้ต้องสร้างความชัดเจน เรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปัจจุบันยังไม่มีใครเห็นหนังสือคำสั่งดังกล่าว แม้แต่ นพ.ณรงค์ก็บอกว่าไม่เห็นหนังสือตั้งคณะกรรมการสอบฯ หรือคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ จึงน่าแปลกว่าเมื่อมีการตรวจสอบ ก็จะต้องเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการ และรายละเอียดข้อกล่าวหาต่างๆ เบื้องต้นทราบเพียงว่าประธานคณะกรรมการตรวจสอบดังกล่าว คือปลัดกระทรวงพาณิชย์ นอกนั้นไม่ทราบว่ามีกรรมการท่านใดบ้าง

นพ.วัลลภกล่าวด้วยว่า เพื่อให้ทุกอย่างกระจ่าง ปลัดกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรออกมาเปิดเผยความคืบหน้าของการตรวจสอบ และกำหนดระยะเวลาในการสอบข้อเท็จจริง ไม่เช่นนั้นสิ่งที่สังคมกำลังเคลือบแคลงสงสัยว่า การย้าย นพ.ณรงค์เป็นการตั้งธงอยู่ในใจอยู่แล้ว เพราะหลายคนสงสัยว่า เหตุใดไม่มีการย้ายทั้งสองฝ่ายคือทั้งปลัดและ รมว.สาธารณสุข ก่อนหน้านี้เคยคุยกับ นพ.ณรงค์ เห็นว่ากำลังจะทำงานร่วมกับ นพ.รัชตะ ในเรื่องพัฒนาการเด็กอายุ 0-5 ขวบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ นพ.ณรงค์เสนอให้ขับเคลื่อนทั่วประเทศ รมว.สาธารณสุขก็เห็นด้วย แต่กลับมีการย้ายปลัด จึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย และแปลกอยู่ไม่น้อย อยากให้ทุกอย่างเป็นเรื่องบนดิน อยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง ตรวจสอบได้จะดีกว่าหรือไม่

ทางด้าน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มารักษาการเท่านั้น นพ.ณรงค์ยังอยู่ในตำแหน่ง ตนเคารพ นพ.ณรงค์ตลอด ท่านเป็นผู้แต่งตั้งตนขึ้นเป็นรองปลัด ก่อนตั้งเป็นรักษาการ นพ.รัชตะได้เรียกตนเข้าหารือและได้กำชับงานตามนโยบายการบริการประชาชน หลังจากพูดคุยกับ รมว.สาธารณสุข ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นพ.ณรงค์ แต่ท่านก็ไม่ได้สั่งอะไรพิเศษ ส่วนนโยบาย นพ.ณรงค์ เรื่องเดินหน้าเขตสุขภาพ จะเดินหน้าต่อหรือไม่ ขอปรึกษากับผู้บริหารก่อน หากเรื่องไหนดีก็ต้องทำต่อ การที่มาอยู่ในตำแหน่งรักษาการก็เครียด แต่ก็ต้องทำเพราะเป็นข้าราชการ อะไรถูกก็ทำไป ส่วนการออกมารวมตัวของบุคลากรสาธารณสุขเชื่อว่า หมอทุกคนมีความรับผิดชอบต่อผู้ป่วย รู้ว่าอะไรควรไม่ควร

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องขอให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปรับการจัดสรรงบประมาณหลักประกันสุขภาพฯแบบใหม่คือ การเอางบประมาณไปไว้ที่เขตนั้น จะมีการเดินหน้าต่อหรือไม่ นพ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตามหลัก พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 เป็นอำนาจของคณะกรรมการ สปสช. แต่จริงๆไม่เคยดูงานด้านนี้มาก่อน ก็พอรับรู้อยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม จะทำงานร่วมกันได้ เพราะเป็นพี่เป็นน้องกันหมด ทั้งกระทรวงสาธารณสุขและ สปสช.ก็เป็นพี่เป็นน้อง การจะคุยกันก็ต้องคุยความจริงกันหมด

บ่ายวันเดียวกัน ชมรมแพทย์ชนบทมีการโพสต์รูปภาพ นพ.ณรงค์ ขณะเข้าร่วมงานประชุมโครงการพัฒนาส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างธรรมาภิบาล ในกลไกอภิบาลระบบในกระทรวง สาธารณสุข ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่โรงแรมอุบลบุรี รีสอร์ท จ.อุบลราชธานี ผ่านเฟซบุ๊กโดยระบุว่า “ใครบอกว่าหมอณรงค์หยุดแล้ว เมื่อวานรายงานตัวสำนักนายกฯ วันนี้ไปประชุมปลุกใจ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขกันที่จังหวัดอุบลราชธานี พร้อม นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงฯ และ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ พูดหนังม้วนเดิมครับ แต่รอบนี้ผู้คนโหรงเหรง ยังสงสัยว่าท่านลา รมต.สำนักนายกไปหรือเปล่า ฝ่ายมั่นคงเฝ้าจับตา ปลัดกับพวกยังป่วนไม่เลิกแน่”

ส่วนความเคลื่อนไหวของ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากคนใกล้ชิดว่า ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่คืนวันที่ 12 มี.ค. โดยมีกำหนดการไปร่วมประชุมสหประชาชาติระดับโลกว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค.นี้ ที่เมืองเซ็นได

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้ารายงานตัวของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า ได้พูดคุยเรื่องงานที่จะมอบให้ นพ.ณรงค์ รับผิดชอบ ซึ่งเป็นงานด้านวิชาการและด้านอื่นๆ ในฐานะที่ปรึกษาให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. และที่ นพ.ณรงค์ มารายงานตัวกับตน เพราะตนกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ซึ่งจะทำเกี่ยวกับนโยบายทางด้านสุขภาพ จึงอยากให้ นพ.ณรงค์มาดูเรื่องนี้ ถือว่า นพ.ณรงค์ ยังคงดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขอยู่ ทุกคนรู้ดีว่าปัญหาในกระทรวงสาธารณสุขมีมานาน นายกฯก็ให้เวลามาเรื่อย แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ จึงเป็นห่วง อาจจะกระทบการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลได้ ไม่ใช่ว่า นพ.ณรงค์ไม่สนองงานรัฐบาล

ขณะเดียวกัน จากการที่มีประชาคมสาธารณสุขแห่มาให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่กระทรวงเมื่อวันที่ 12 มี.ค.นั้น ส่งผลให้มีการเด้ง ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.พุฒิพัฒน์ วรรธน์จิรัฐ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 (ศปก.ภ.1) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ระบุเหตุผลว่า พ.ต.อ.พุฒิพัฒน์ ไม่ได้ไปตรวจสถานที่ ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ และให้ พ.ต.ท.พิเชียรยศ อรุณ–พันธ์กุล รอง ผกก.สส.ภ.จ.สระบุรี รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี

ด้าน พล.ต.ต.สำราญ ยินดีอารมณ์ ผบก.ภ.จ.นนทบุรี กล่าวถึงคำสั่งย้ายด่วน พ.ต.อ.พุฒิพัฒน์ วรรธน์จิรัฐ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรีว่า ไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆ เป็นความเหมาะสมของ ผู้บังคับบัญชา เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีประสิทธิภาพ ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ตนได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอยู่ตลอดเวลา

ในส่วนการตรวจสอบการทุจริตที่ สปสช.นั้น นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐหรือ ปปท. เผยว่า เรื่อง สปสช.รัฐบาลได้สั่งการให้ ปปท.เร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าวและเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ปปท.ทำหนังสือถึง สปสช.ให้ทำหนังสือชี้แจง กรณีมีผู้ร้องเรียนเรื่องการใช้เงิน สปสช.ผิดวัตถุประสงค์ ให้รายงานภายใน 15 วัน และทำหนังสือถึง สตง.ให้ทำเอกสารมาตรวจสอบการใช้เงิน สปสช.ด้วย โดยจะตรวจสอบคู่ขนานกันไปทั้งเอกสารชี้แจง สปสช.กับเอกสารทาง สตง.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 เม.ย.57 นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ได้มีการพูดถึงเรื่องการเงินการคลัง ของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ในการประชุมร่วมกับ นพ.สาธารณสุขจังหวัด ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ เนื่องจากมีการทักท้วงจาก สตง. เรื่องการบริหารจัดการงบประมาณ ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในฐานะสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สาขาจังหวัด ใน 5 ประเด็น ได้แก่ 1.งบค่าบริการส่งเสริมและป้องกันโรค 2.งบชดเชยเยียวยาความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ 3.งบบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 4.งบลงทุนเพื่อการทดแทนหรืองบค่าเสื่อม และ 5.การกันเงินค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายเพื่อบริหารจัดการในระดับจังหวัด