ชาวประมงพื้นบ้านเกาะเปริด จ.จันทบุรี เข้าช่วย "ปลาฉลามขาว" ยาวกว่า 2 เมตร ที่ได้รับบาดเจ็บมาเกยตื้น ในอ่าวล้ง ชาวบ้านต่างสงสัย เพราะในรอบกว่า 50 ปี เพิ่งมีฉลามขาวมาเกยตื้น จึงรุดแจ้ง จนท.เข้าตรวจสอบ...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 มี.ค.58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่า พบปลาฉลามขนาดใหญ่ในสภาพอ่อนแรง มีบาดแผลที่หาง ลอยเกยตื้นบริเวณอ่าวล้ง ม.3 บ้านเกาะเปริด(เกาะ-เปิด) ต.เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ก่อนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบ โดยบริเวณที่พบเป็นหาดอ่าวล้ง ที่มีความยาวประมาณ 40 เมตร ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านกำลังช่วยกันเคลื่อนย้ายปลาฉลามนำขึ้นฝั่ง หลังจากทนอาการบาดเจ็บไม่ไหว และได้เสียชีวิตลงแล้ว จากการตรวจสอบพบว่า เป็นปลาฉลามขาวสภาพลำตัวมีความสมบูรณ์ มีเพียงบาดแผลที่คาดว่าเกิดจากการโดนเครื่องมือทำประมงที่บริเวณโคนหาง ทำให้มีเลือดไหล ตรวจวัดขนาดพบว่า มีลำตัวความยาว 2.07 เมตร น้ำหนัก 62 กก.

นายปรีดา สนั่นไหว อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.3 ต.เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ชาวประมงพื้นบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.คืนที่ผ่านมา นายสำเริง สุขโร อายุ 53 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เป็นผู้ไปพบปลาฉลามตัวนี้ จนกระทั่งเมื่อเวลา 07.00 น.นายสำเริง ได้มาบอกกับตนเองว่า พบปลาฉลามซึ่งยังมีชีวิตอยู่ ลอยเกยตื้นอยู่ที่หน้าหาด ตนเองจึงพร้อมด้วยพี่ชาย และชาวประมงใกล้เคียง จึงเดินทางออกไปดู และพยายามเข้าให้การช่วยเหลือแต่พบว่า ปลาฉลามอยู่ในสภาพที่อ่อนแรง มีเลือดไหลบริเวณหาง ซึ่งพยายามที่จะดันออกจากฝั่งเพื่อให้ลงทะเล แต่กลับพบว่า ปลาฉลามได้เสียชีวิตลงแล้ว ตนพร้อมด้วยชาวประมง จึงได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อเดินทางมาตรวจสอบต่อไป

...

จากการสอบถาม นายปรีดา ยังทราบอีกว่า ในรอบกว่า 50 ปี และตลอดระยะเวลาที่ครอบครัวทำอาชีพประมงมาไม่เคยพบปลาฉลามขาว ลอยมาเกยตื้นในพื้นที่บริเวณอ่าวล้ง และบ้านเกาะเปริด ซึ่งก็สร้างความประหลาดใจ และความสงสารให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยเมื่อช่วงเช้าขณะเข้าให้การช่วยเหลือ นายทิพย์ สนั่นไหว พี่ชายของตน ได้เตรียมไปนิมนต์พระมาสวดเพื่อช่วยเสริมอายุให้แก่ปลา แต่ก็ไม่ทัน ส่วนสาเหตุที่ทำให้ปลาฉลามขาวตัวนี้เข้ามาเกยตื้น น่าจะมาจากการโดนเครื่องทำประมงของเรือลากอวน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บก่อนหลงทิศ ลอยเข้ามาเกยตื้นที่ฝั่ง อย่างไรก็ตาม คงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป.